กรมอุตุฯ เตือนตอนบนอุณหภูมิลดลง-ลมแรง ภาคใต้ฝนเพิ่ม-คลื่นสูง

อากาศเย็น-บนดอย
เครดิตภาพ : ORAPIN WACHANGNGOEN

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนประเทศไทยตอนบน เจออุณหภูมิลดลง-มีลมแรง ทำภาคอีสาน อากาศเย็นถึงหนาว ภาคกลาง กทม. และตะวันออก มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขณะที่ภาคใต้เจอฝนเพิ่ม-ฝนตกหนักบางแห่ง อ่าวไทยคลื่นสูง

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ฉบับที่ 8 (30/2567) (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 11-13 กุมภาพันธ์ 2567) ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ประกาศ ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 เวลา 05.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 เวลา 17.00 น.

ลักษณะอากาศทั่วไป 11 กุมภาพันธ์ 2567

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า

ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่างและภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและห่างฝั่งทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ (ตอนล่าง) ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

ฝุ่นละอองในระยะนี้ : ภาคเหนือและภาคกลางมีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงมาก เนื่องจากมีการระบายอากาศที่ไม่ดี ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง เนื่องจากมีลมที่พัดปกคลุมมีกำลังแรงขึ้น และมีฝนตกในบริเวณดังกล่าว

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค

  • อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 26-34 องศาเซลเซียส
  • บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-15 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย

  • อุณหภูมิต่ำสุด 12-19 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียส
  • บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง

อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

  • อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

  • อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช ยะลา และนราธิวาส

  • อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
  • ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎ์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
  • ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และกระบี่

  • อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพฯและปริมณฑล

อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

  • อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.