ประชาพิจารณ์วันแรก! ชาวเมืองภูเก็ตเห็นด้วย “ทำหมัน-ย้ายลิง”

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 พฤษภาคม บริเวณศาลาเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอยท่าจีน ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายณฐวรรณ จำลองกาศ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดเวทีประชาพิจารณ์เพื่อแก้ไขปัญหาลิงแสมบริเวณชุมชนซอยท่าจีน ซึ่งเป็นเวทีแรก จาก 5 เวที ประกอบด้วย ซอยท่าจีน, ซอยกิ่งแก้ว, เกาะสิเหร่, เขาโต๊ะแซะ และเขารัง อ.เมืองภูเก็ต โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชนและพี่น้องประชาชนภายในซอยท่าจีนเข้าร่วม
ทั้งนี้ ได้มีการนำเสนอสถานการณ์ลิงของจังหวัดภูเก็ต พบว่าจากการสำรวจเบื้องต้นเมื่อปี 2560 มีประชากรลิงทั้งจังหวัดกว่า 1,000 ตัว และการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนจากลิงแสมและลิงกัง เพื่อแก้ปัญหาให้กับราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน และเพื่อควบคุมจำนวนประชากรลิงทั้งสองชนิดไม่ให้มีปริมาณมากเกินไป ป้องกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว

จึงพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหา โดยการย้ายประชากรลิงที่มีปัญหาไปอยู่ในสถานที่ที่เหมาะสม เนื่องจากพื้นที่ป่าของจังหวัดมีค่อนข้างน้อย และอยู่ใกล้ชุมชน จึงพิจารณาพื้นที่เกาะบริวารของเกาะภูเก็ต ซึ่งมีมากถึง 36 เกาะ และทางเจ้าหน้าได้ไปทำการสำรวจว่าพื้นที่เกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ เบื้องต้นสำรวจพบ 5 เกาะ ได้แก่ เกาะแพ มีขนาดเนื้อที่ 11.2 ไร่, เกาะทะนาน มีขนาดเนื้อที่ 8 ไร่ 2 งาน, เกาะมาลี มีขนาดเนื้อที่ 12 ไร่ 1 งาน เกาะปายู มีขนาดเนื้อที่ 26 ไร่ 2 งาน และเกาะงำ มีขนาดเนื้อที่ 17 ไร่ 2 งาน โดยพบว่าทั้งห้าเกาะมีอาหารอุดมสมบูรณ์ ทั้งต้นไม้ใบไม้ ซึ่งเป็นพืชอาหาร และสัตว์ทะเลที่เป็นอาหารของลิงแสม

สำหรับจำนวนครัวเรือนของชุมชนซอยท่าจีน 160 ครัวเรือน จากการสำรวจเบื้องต้นมีลิงอาศัยอยู่ประมาณ 300 ตัว ซึ่งจากการรับฟังความคิดเห็น โดยให้ชาวบ้านกรอกแบบสอบถามจำนวน 67 ชุด โดยถามว่า เห็นด้วยหรือไม่หากจะมีการทำหมันลิงเพื่อคุมจำนวนประชากร ซึ่งมีผู้เห็นด้วยจำนวน 66 คน และไม่เห็นด้วย 1 คน จากคำถามดังกล่าวได้มีการถามต่ออีกว่า เห็นควรจะนำลิงไปไว้ที่ใหม่หรือไม่ ซึ่ง 55 คนเห็นด้วย มี 4 คนเห็นว่าควรไว้ที่เดิม และไม่ออกความเห็น 9 ราย โดยในรายที่เห็นด้วยให้ย้าย ส่วนหนึ่งมองว่า ให้ย้ายเพียงบางส่วน และเหลือไว้เพื่อให้ลูกหลานได้รู้จัก ส่วนพื้นที่ใหม่ที่จะนำลิงไปไว้นั้นก็จะต้องมีอาหารและน้ำอย่างเพียงพอ

นายสุนทร พูนประเสริฐ ประธานชุมชนซอยท่าจีน กล่าวถึงปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดจากลิงภายในซอยท่าจีนว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้รับความเดือดร้อนจากลิงแสมที่อยู่บริเวณป่าโกงกางซึ่งอยู่ติดกับชุมชนเข้ามารื้อข้าวของและทำอันตรายต่อหลังคาบ้านเรือนได้รับความเสียหายต่อเนื่อง โดยเฉพาะบ้านที่ตั้งอยู่ติดกับคลองป่าโกงกาง ซึ่งในชุมชนมีลิงอยู่ 3 ฝูง รวมประมาณ 300 ตัว ซึ่งหัวหน้าฝูงแต่ละฝูงจะดุร้ายมาก แต่ก็ยังไม่มีการทำร้ายคนในชุมชน เพียงแต่จะเข้ามาแย่งสิ่งของที่อยู่ในมือ โดยเฉพาะเด็กๆ แนวทางเบื้องต้นได้แก้ปัญหาโดยไม่ให้อาหารกับลิง ปรากฏว่าจำนวนประชากรลิงลดลง ส่วนที่จะย้ายลิงไปอยู่เกาะนั้นเห็นด้วย เพราะได้เคยไปร่วมทำการสำรวจกับเจ้าหน้าที่พบว่าบนเกาะมีแหล่งอาหารและน้ำที่สมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ป่าชายเลน ด้านหลังชุมชนเพิ่มเติมเพื่อสังเกตการณ์ พบว่าในวันนี้มีลิงออกมาจากป่าชายเลนน้อยกว่าปกติ ชาวบ้านรายหนึ่งระบุว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (21 พ.ค.61) ได้เกิดความขัดแย้งระหว่างสุนัขกับฝูงลิงขึ้น ทำให้สุนัขไล่กัดลิงบาดเจ็บ ทำให้วันนี้ลิงเลยออกมาหากินน้อยกว่าปกติ พบเพียงประมาณ 30 ตัว จากปกติจะยกกันมานับร้อย ชาวบ้านหลายรายได้ชี้ให้ดูร่องรอยความเสียหาย จากฝูงลิง ซึ่งพบว่าบนหลังคาบ้านแทบทุกหลังจะเต็มไปด้วยเศษกระเบื้องที่แตก บางหลังมีรอยโหว่ที่หลังคา ที่ยังไม่ได้มีการซ่อมแซม บ้านบางหลังมีร่องรอยกั้นตาข่ายล้อมรอบ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถต้านทานความชาญฉลาดของฝูงลิงได้ บางหลังถูกลิงบุกเข้าครัวไปยกหม้อหุงข้าวไฟฟ้าพาเข้าป่าชายเลนไปอย่างหน้าตาเฉย เหลือทิ้งไว้แต่ฐานด้านนอกและสายไฟ ซึ่งชาวบ้านบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ลิงจะออกมาเยอะในช่วงเช้าและช่วงเย็น จึงไม่กล้าเปิดบ้านทิ้งไว้

 

 

ที่มา : มติชนออนไลน์