”ภูมิธรรม“ ลุยด่านโม่ฮาน-บ่อเต็น เจรจาขอเปิดด่านถึงสามทุ่ม ลดเวลาขนส่งทุเรียน-มังคุดไปจีน จาก 5 วัน เหลือ 3 วัน ส่งผลไม้สดคุณภาพถึงมือผู้บริโภคชาวจีนเร็วขึ้น
วันที่ 29 เมษายน 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการนำคณะตรวจเยี่ยมด่านตรวจจำเพาะสินค้าผลไม้ด่านรถไฟโม่ฮาน และรับฟังข้อมูลสถานการณ์การขนส่งสินค้าผ่านด่านรถไฟโม่ฮาน จากหน่วยงานภาครัฐจีน ว่า ได้เจรจาขอเพิ่มเวลาทำการลดการแออัดบริเวณด่านเพื่ออำนวยความสะดวกให้การขนส่งผลไม้ไทยมายังจีน
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- ประวัติ ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกฯคนใหม่สิงคโปร์ เขาเป็นใคร มาจากไหน
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
โดยในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ผลผลิตผลไม้ไทยจะเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น และที่ผ่านมาผลไม้ไทยประสบปัญหาเรื่องความแออัดบริเวณด่านบางครั้งต้องใช้เวลาถึง 5 วัน สำหรับรอตู้ผ่านเข้าจีนแล้วกลับออกมาบ่อเต็น และปัญหาเรื่องแคร่ที่จะมารับตู้คอนเทนเนอร์ไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวจึงต้องการหารือกับทางการจีน และผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา เพื่อเสนอขอให้เพิ่มเวลาทำการเปิด-ปิดด่าน จากปกติ 8.00-18.00 น. ขอให้เพิ่มเวลาทำการอีก 3 ชั่วโมง เป็น 8.00-21.00 น. เพื่อลดความแออัดของรถบรรทุกบริเวณหน้าด่าน ซึ่งประสบความสำเร็จ ทางจีนตอบรับให้การสนับสนุน และเรื่องช่องทางการเข้า-ออกของรถบรรทุกที่คับแคบ
นอกจากนี้ ทางด่านโม่ฮานแจ้งว่ากำลังปรับปรุงขยายถนนออกไปอีก จากเดิม 2 ช่อง (จุดตรวจรถเข้า-ออก) เป็น 12 ช่อง และขอให้ช่วยประสานบ่อเต็นและทางการลาว คาดว่าภายใน 2 ปี จะทำช่องทางเสร็จ
ส่วนฝั่ง สปป.ลาว ได้หารือกับนายอ่อนจัน คำพาวง รองเจ้าแขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว ซึ่งเห็นด้วยในการเพิ่มเวลาทำการ ซึ่งการค้าผ่านแดนจุดนี้เป็นจุดใหญ่ที่สุด มีความสำคัญมาก เพราะเป็นช่องทางเข้าสู่ตลาดจีนตอนใต้และกระจายไปทั่วประเทศ และได้ขอให้ทางฝั่งลาวช่วยรายงานสภาพการจราจรบริเวณด่านและส่งให้ไทยทุกเดือน เพื่อจะได้เป็นข้อมูลในการบริหารจัดการ
ซึ่งทางการลาวรับไปพิจารณา และได้มอบหมายกรมการค้าต่างประเทศติดตามผลการขยายเวลาทำการของด่าน ว่าจะทำให้การส่งออกผลไม้ในเส้นทางนี้คล่องตัวขึ้นแค่ไหนเพียงใด
“ตนได้มาที่ด่านตรวจจำเพาะสินค้าผลไม้ด่านรถไฟโม่ฮาน ดูกระบวนการตรวจผลไม้ อาทิ ทุเรียน มังคุด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ ทางการจีน ศุลกากรจีน เราประสานงานการทำงานร่วมกัน คิดว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ดี จะช่วยให้ผู้บริโภคชาวจีนได้ทานผลไม้ที่สด ลดต้นทุนการขนส่ง เป็นประโยชน์กับผู้บริโภคชาวจีน และในวันพรุ่งนี้ตนจะพบไปกับธุรกิจสิบสองปันนาที่สนใจไปลงทุนที่ไทย ซึ่งการเดินทางมาสิบสองปันนา ที่ด่านโม่ฮานและด่านบ่อเต็น ครั้งนี้เป็นประโยชน์มาก” นายภูมิธรรม กล่าว
ข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศระบุว่า ในปี 2566 ไทยส่งสินค้าผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง มูลค่ารวม 6,941.55 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 22.77 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็น
- ผลไม้สด มูลค่าส่งออกรวม 5,400.75 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 22.30
- ผลไม้แช่แข็ง 764 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 52.17
- ผลไม้แห้ง 320.89 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 4.39 โดยมีจีนเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 1 มีมูลค่าการส่งออกคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 89.68 ของการส่งออกผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้งของไทย
เจรจาผู้ว่าสิบสองปันนา
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ได้เข้าหารือกับนายตาว เหวิน (Mr.Dao Wen)ผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน และคณะ ที่ห้องประชุมโรงแรม Mekong River Jing Land Hotel สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน
ทั้งนี้ สิบสองปันนา เป็นเขตปกครองตนเองที่อยู่ทางตอนใต้ของมณฑลยูนนานของจีน และอยู่ใกล้ไทยมากที่สุด มีความสำคัญในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า อาทิ พืชผัก ผลไม้สด ผลไม้แช่แข็ง ผลไม้แปรรูป เครื่องเทศ และสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ
โดยการหารือครั้งนี้ ต้องการให้เพิ่มตู้คอนเทนเนอร์ให้เพียงพอต่อความต้องการในช่วงฤดูผลไม้ที่จะถึงนี้ และความต้องการที่ไทยจะส่งออกโคมีชีวิตไปยังจีน โดยขอให้ช่วยผลักดันการเจรจาเพื่อจัดทำพื้นที่เขตปลอดโรคให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งขณะนี้ทั้งฝ่ายไทยและ สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (General Administration of Customs of China: GACC) อยู่ระหว่างการทำงานร่วมกัน
และได้หารือถึงการขนส่งสินค้าจากด่านท่าเรือเชียงแสน ผ่านแม่น้ำโขงไปยังท่าเรือกวนเหล่ยของจีน ขอให้สิบสองปันนาเตรียมความพร้อมในการจัดสถานที่ทำโรงชำแหละเนื้อโคมีชีวิตเพื่อรองรับการนำเข้าจากไทย ถ้าสำเร็จจะเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย ลดต้นทุนการขนส่งและสะดวกรวดเร็วขึ้น
โดยผู้ว่าฯ ได้แจ้งว่ากำลังปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเส้นทางนี้ให้มีศักยภาพรองรับการค้าในอนาคต ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศและคณะที่ปรึกษาติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ทางผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา ได้ขอให้ฝ่ายไทยให้การสนับสนุนการเปิดเส้นทางการบิน สิบสองปันนา-กรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้ได้มีเส้นทางบินตรง เชียงใหม่-สิบสองปันนาแล้ว วันละ 1 ไฟล์ท หากเปิดเส้นทางการบินเพิ่มจะเป็นประโยชน์ ต่อการเดินทางท่องเที่ยว และช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศได้ ซึ่งได้รับเรื่องไว้
สิบสองปันนา เป็น 1 ใน 16 เขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของมณฑลยูนนาน ในปี 2566 มูลค่าการค้าระหว่างจีนและไทยประมาณ 126,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการค้าระหว่างเขตฯสิบสองปันนากับไทย ราว 7,667 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งมณฑลยูนนานเป็นมณฑลที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 8 ของจีน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นมณฑลที่ไม่มีทางออกทะเล แต่มีพรมแดนติดกับเมียนมาร์ เวียดนาม และ สปป.ลาว จึงมีความโดดเด่นด้านการค้าชายแดน และตั้งอยู่ใกล้ไทยมากที่สุด
โดยใช้เส้นทางถนน R3A ซึ่งการส่งเสริมการค้ากับมณฑลยูนนานจะมีความสำคัญอย่างสูงต่อการเชื่อมโยงการค้า การคมนาคม ทั้งทางบก อากาศ และทางเรือ ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ