“ดำรงค์ พิเดช” ประสานอุทยานฯมอบ 1 แสน .ให้ชาวบ้าน-จนท.เจอต้นน้ำเข้าถ้ำหลวงฯ

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม นายดำรง พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวว่า ตามที่ได้เคยประกาศไว้ว่าหากมีใครพบต้นน้ำที่ไหลเข้าสู่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในระหว่างการช่วยเหลือเด็กๆ ทีมหมูป่าอะคาเดมี ออกจากถ้ำหลวงฯ เพื่อเป็นการตัดทางน้ำที่เข้าสู่ถ้ำ จะมอบเงินจำนวน 1 แสนบาทให้นั้น ขณะนี้ตนเตรียมประสานกับนายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ที่ได้ร่วมปฏิบัติงานกับทีมช่วยเหลือในพื้นที่ถ้ำหลวงฯ เมื่อนายจงคล้ายกลับมาปฏิบัติงานที่กรมอุทยานฯ แล้ว ตนจะขอเข้าพบเพื่อส่งมอบเงินดังกล่าวผ่านนายจงคล้ายเพื่อนำไปมอบให้กับชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ที่ร่วมค้นห้าต้นน้ำสำเร็จที่ช่วยลดปริมาณที่ไหลเข้าถ้ำ จนช่วยเด็กและโค้ชทั้ง 13 คนออกมาได้อย่างปลอดภัย

นายดำรงค์ กล่าวว่า สำหรับการฟื้นฟูและพัฒนาถ้ำหลวงฯ นั้นเป็นเรื่องของทส.ที่ต้องไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรอบๆ บริเวณ ทั้งโครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และ ส.ป.ก. และภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องว่าจะพัฒนาอย่างไร จะมีการกำหนดโซนบริการ หรือกำหนดพื้นที่หวงห้ามอย่างไร ซึ่งวนอุทยานฯ ยังมีข้อจำกัดเพราะกฎหมายไม่มีในเรื่องเขตบริการ และที่สำคัญจะดำเนินการอย่างไรไม่ให้กระทบกับสภาพแวดล้อมภายในถ้ำ ซึ่งสิ่งมีชีวิตบางชนิดหากเจอแสงไฟก็อาจตายลงและทำให้ระบบนิเวศถ้ำเสียหายได้ ซึ่งในอนาคตหากมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยว ก็คาดว่าจุดที่เด็กเข้าไปติดอยู่จะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวอย่างเห็นมากที่สุด ตรงนี้จะมีมาตรการดูแลและป้องกันอย่างไร รวมทั้งต้องมีเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญภาษาต่างประเทศ เช่น จีน อังกฤษ อยู่ในพื้นที่ด้วย เป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องพิจารณาความเหมาะสมกันต่อไป