การดำเนินงานแก้ไขปัญหาหมอกควัน 9 จังหวัดภาคเหนือ 25 เมษายน 2562

1.สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ประจำวันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน 2562 ณ เวลา 9.00 น. จากการตรวจวัด 17 พื้นที่ ใน 9 จังหวัดภาคเหนือ สรุปได้ดังนี้
– มีค่าระหว่าง 32 – 94 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร) ซึ่งแสดงถึง “คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดีจำนวน 7 พื้นที่ คุณภาพอากาศปานกลางจำนวน 8 พื้นที่ คุณภาพอากาศที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพจำนวน 1 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ ต. ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน และคุณภาพอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพจำนวน 1 พื้นที่ได้แก่ พื้นที่ ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน”
– มีค่าเปลี่ยนแปลงไม่มากนักในพื้นที่ 8 จังหวัด เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของเมื่อวาน ส่วนพื้นที่ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้แก่ ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
– คุณภาพอากาศมีค่าอยู่ในเกณฑ์ดี – มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสีเขียว 7 พื้นที่ (คุณภาพอากาศดี) และสีเหลืองเพิ่มขึ้นเป็น 8 พื้นที่ (คุณภาพอากาศปานกลาง)

ตารางที่ 1 แสดงค่า PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง (ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ณ เวลา 9.00 น. หมายเหตุ : N/A หมายถึง ไม่มีข้อมูลเนื่องจากเครื่องมือขัดข้อง

2. สถานการณ์จุดความร้อน (Hotspot) ในวันที่ 24 เมษายน 2562 จากดาวเทียมระบบ MODIS ดังนี้

– จุดความร้อนรวมทั้ง 9 จังหวัดภาคเหนือ มีทั้งสิ้น 56 จุด โดยเพิ่มขึ้นจากวันที่ 23 เมษายน 2562 จำนวน 48 จุด หรือคิดเป็นลดลง 16.7 %

– มีจำนวนมากสุดที่ จ. น่าน จำนวน 17 จุด

– สามารถแบ่งตามประเภทพื้นที่ได้ดังนี้
1) พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 13 จุด
2) ป่าสงวนแห่งชาติ 30 จุด
3) พื้นที่เกษตร 2 จุด
4) ชุมชนและอื่น ๆ 3 จุด

ตารางที่ 2 แสดงจำนวนจุดความร้อน (hotspot) จากดาวเทียมระบบ MODIS

หมายเหตุ : ข้อมูลจุดความร้อนจากดาวเทียมระบบ MODIS

3. สถานการณ์หมอกควันข้ามแดน โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (GISTDA) รายงานการปกคลุมของหมอกควันจากดาวเทียมระบบ MODIS ประจำวันที่ 24 เมษายน 2562 พบว่า มีกลุ่มหมอกควันปกคลุมและจุดความร้อนนอกประเทศไทยบริเวณฝั่งตะวันตกของภาคเหนือ ได้แก่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดตาก รวมทั้งฝั่งเหนือของภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย และมีทิศทางลมพัดจากทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือเข้าสู่ประเทศไทย ดังนั้น นอกจากปัญหาการเผาในที่โล่งภายในประเทศไทยแล้ว จังหวัดดังกล่าวอาจได้รับผลกระทบจากหมอกควันข้ามแดน ได้อีกด้วย

4. การดำเนินงานแก้ไขปัญหาหมอกควันของ 9 จังหวัดภาคเหนือ

จังหวัดเชียงใหม่

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดเดินทางไปประชุมร่วมฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ป่าไม้ และกำนันทั้ง 7 ตำบลของอำเภอแม่แจ่ม เพื่อติดตามปัญหาในการปฏิบัติงานพร้อมได้กำชับให้ ทุกหมู่บ้าน ตำบล จุดชุดเฝ้าระวัง และจับกุมผู้ลักลอบเผาป่าทั้งจากบุคคลในพื้นที่ และนอกพื้นที่ให้จงได้ พร้อมทั้งให้กำนันทุกตำบลเสนอแนวทางในการลดการเผาวัชพืช โดยสรุปมาตรการจากที่ประชุมเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดชุดเฝ้าระวังควบคุมไฟป่าในพื้นที่ให้ครบทุกหมู่บ้าน สนับสนุนเครื่องมือ เครื่องจักร ในการกำจัดวัชพืช หรือซากเหลือจากการเกษตรจากทางจังหวัด โดยเบื้องต้นวันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สนับสนุนงบประมาณกองทุนให้พื้นที่ฯ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เสริมเข้าพื้นที่ อำเภอแม่แจ่มอีก 20 นายเป็นการด่วนแล้ว

จังหวัดแม่ฮ่องสอน

นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวในเวทีสภากาแฟโดยหน่วยงานสังกัด กระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพ ว่าปัจจุบันสถานการณ์ปัญหาไฟป่าและหมอกควันของ จ.แม่ฮ่องสอน มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยตรวจพบจุดความร้อนในพื้นที่แต่ละวันเพียงหลักสิบจุด เมื่อเทียบกับช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ตรวจพบจุดความร้อนสูงถึงหลายร้อยจุด ด้วยความเข้มแข็งของชุดปฏิบัติการดับไฟป่าและความร่วมมือ ของประชาชนในแต่ละพื้นที่ จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันได้ ขณะที่ในบางพื้นที่ ยังคงมีการลักลอบเผาป่า อย่างไรก็ตาม จ.แม่ฮ่องสอน ยังคงใช้มาตรการต่างๆ ตามประกาศของจังหวัด ได้แก่ ประกาศการห้ามเผาอย่างเด็ดขาดและประกาศปิดป่าทุกป่าจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2562 ทั้งนี้ จ.แม่ฮ่องสอน จะมีการสรุปและประเมินสถานการณ์การแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน อีกครั้งในช่วงปลายเดือนเมษายน ซึ่งหากสถานการณ์ยังคงมีความรุนแรงและมีผลกระทบต่อประชาชน อาจจะต้องมีการขยายระยะเวลา ประกาศต่างๆ ของจังหวัด เพื่อให้การแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

จังหวัดตาก

– เจ้าหน้าที่ส่วนทรัพยากรธรรมชาติ ฝั่งตะวันตกและชุดเคลื่อนที่เร็วพยัคฆ์ไฟ ได้ลาดตระเวนป้องปรามเรื่องไฟป่า โดยขึ้นแม่ตื่นแล้วไปท่าสองยางต่อ จากการประเมินการเกิดไฟป่าช่วงนี้ส่วนใหญ่เกิดจาก การเผาไร่ลุกลามเข้าพื้นที่ป่า บางจุดดับได้บางจุดดับไม่ได้เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูงชัน และลมพายุกรรโชกแรง ไม่สามารถเข้าดับและควบคุมได้

– ศูนย์บัญชาการหมอกควันและไฟป่าอำเภอแม่สอดจัดรถดับเพลิงทำการฉีดพ่นละอองน้ำและล้างถนน เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศในพื้นที่อำเภอแม่สอด จำนวน 2 คัน ประกอบด้วย เทศบาลนครแม่สอด และศูนย์ปภเขต 9 พิษณุโลก

จังหวัดเชียงราย

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ประกาศในช่วงการเผาทุกชนิดในที่โล่งโดยเด็ดขาด ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 จนถึงวันที่ 15 เมษายน 2562 แต่สถานการณ์หมอกควันในจังหวัดเชียงราย ยังไม่คลี่คลาย และค่าคุณภาพอากาศยังคงเกินเกณฑ์มาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างรุนแรง และต่อเนื่องประกอบกับสภาวะอากาศในปัจจุบัน กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศภาคเหนือ ช่วงเดือนเมษายน 2562 ยังมีลักษณะอากาศร้อนถึงร้อนจัด และยังไม่ปรากฏพายุฤดูร้อนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย มีฝุ่นละอองยังคงปกคลุมอยู่ทั่วไป โดยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้ประกาศขยายระยะเวลาเพิ่มในช่วงการเผาทุกชนิดในที่โล่งโดยเด็ดขาด ระหว่างวันที่ 16 – 30 เมษายน 2562 เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จังหวัดเชียงราย ปี 2561 – 2562 ยังเป็นการป้องกัน มิให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ทางจังหวัดเชียงรายขอความร่วมมืองดเว้น ห้าม เผาในที่โล่งทุกชนิด ตั้งแต่วันที่ 16 – 30 เมษายน 2562 โดยเฉพาะพื้นที่เตรียมการเกษตรเพื่อไม่ให้เกิดมลพิษจากหมอกควันเพิ่มขึ้นสำหรับการเผาในพื้นที่ป่า ยังถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หากพบเห็นไฟไหม้ป่าเกิดขึ้นให้แจ้งสายด่วน 053-712603 สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 หรือ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

จังหวัดพะเยา

จังหวัดพะเยาร่วมกับส่วนราชการ หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานเทศบาลเมืองพะเยา) ร่วมดำเนินมาตรการเพิ่มความชุ่มชื้นและลดฝุ่นละอองในอากาศ โดยนำรถยนต์บรรทุกน้ำ รถดับเพลิง ทำการฉีดพ่นละอองน้ำเพิ่มความชุ่มชื่น ลดหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ ทำความสะอาดถนน ต้นไม้ ณ บริเวณศาลหลักเมืองพะเยา อำเภอเมืองพะเยา

จังหวัดลำปาง

– สถานการณ์การควบคุมไฟป่าในพื้นที่ อ.วังเหนือ.ง จ.ลำปาง เกิดจุดความร้อน จำนวน 3 จุด ในพื้นที่ตำบลวังใต้ วังซ้าย วังแก้ว สามารถควบคุมไฟได้ทั้ง 3 จุด หน่วยงานสนับสนุน ประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง
อ.วังเหนือ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และกรรมการหมู่บ้าน จำนวน 4 นาย จนท.อช.ดล.(วังแก้ว) จำนวน 2 นาย เข้าทำการดับไฟ

– กรณีเกิดจุดความร้อน (Hotspot) จากการตรวจสอบของดาวเทียม Suomi NPP (VIIRS) ในพื้นที่ อำเภองาว จำนวน 9 จุด บริเวณ ต.บ้านโป่ง และต.นาแก ศูนย์ฯ War room อำเภองาว โดยฝ่ายความมั่นคง ได้แจ้งให้ผู้รับผิดชอบในพื้นที่ ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่และดับไฟป่าเรียบร้อยแล้ว ประกอบไปด้วย หน่วยป้องกันรักษาป่า ลป 19 (แม่โป่ง), อช.ถ้ำผาไท สถานีควบคุมไฟป่าชีวมลฑลห้วยทาก หน่วยจัดการต้นน้ำห้วยโล่งเครือข่ายดับไฟป่าหมู่บ้าน อบต.นาแก และกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เกิดเหตุประมาณ ทั้งนี้ ได้ร่วมกับ ฝ่ายความมั่นคง อ.งาว อบต.นาแก พร้อมรถบรรทุกน้ำ จนท.อุทยานฯป่าไม้แม่โป่ง ผู้ใหญ่บ้าน
ส่วนที่เกี่ยวข้อง และประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ ทำการลาดตระเวนเส้นทางและตรวจสอบจุดเกิดความร้อน (hotspot) ในพื้นที่ป่า ไม่พบผู้กระทำผิด สาเหตุจากการลักลอบเผา และได้ทำการเฝ้าระวังในพื้นที่ เพื่อไม่ให้ลุกลามทำความเสียหายต่อไป

จังหวัดแพร่

นายธีระ เงินวิลัย ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2562 ที่ผ่านมาได้มีราษฎรทำการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่เกษตร และลุกลามเข้าไปในพื้นที่ป่าบริเวณเขาพลึง รอยต่ออำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ และอำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ ได้เข้าทำการดับไฟอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากมีกำลังจำกัดและพื้นที่ยากต่อการเข้าถึง ทำให้ไฟลุกลามกินพื้นที่ เกินกว่า 1,500 ไร่ ในช่วงเช้าวันนี้ จึงได้ประสานหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ทั้งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, กรมป่าไม้, มณฑลทหารบกที่ 35, กองพันทหารม้าที่ 12 กองพลทหารม้าที่ 1 ค่ายพระยาไชยบูรณ์, ฝ่ายปกครองและประชาชนจิตอาสาของทั้งสองจังหวัด รวมกว่า 200 คนเข้าปฏิบัติการดับไฟในพื้นที่ โดยได้รับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ MI17 เข้าปฏิบัติการโปรยน้ำสนับสนุนการดับไฟด้วย ซึ่งขณะนี้ ตั้งจุดบัญชาการเหตุการณ์อยู่บริเวณจุดชมวิวเขาพลึง ริมทางหลวงหมายเลข 11 สำหรับการดำเนินการในขณะนี้นอกจากการเข้าดับไฟแล้ว ยังได้มีการจัดทำแนวกันไฟเพื่อควบคุมไม่ให้ไฟป่าขยายวงกว้างออกไป และหากในเย็นวันนี้ยังไม่สามารถควบคุมไฟป่าได้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะส่งเฮลิคอปเตอร์ซึ่งเสร็จสิ้นภารกิจจากจังหวัดเชียงรายแล้ว เข้ามาร่วมสนับสนุนปฏิบัติการดับไฟป่าในพื้นที่เพิ่มเติม

จังหวัดลำพูน

– อ.เมืองลำพูน ได้ประสาน กำนัน ต.ศรีบัวบาน, จิตอาสา และ ทต.ศรีบัวบาน เข้าไปดับไฟในจุดดังกล่าว แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจาก รปภ. ได้ปิดกุญแจประตู และไม่ยินยอมให้เข้าไปดับไฟป่าในพื้นที่ จึงได้ทำแนวกันไฟไว้โดยรอบ เพื่อไม่ให้ไฟลุกลามออกมานอกพื้นที่ พร้อมทั้งเฝ้าระวังอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ต่อมาในเวลา ๐๙.๔๐ ได้รับแจ้งจาก กำนัน ต.ศรีบัวบาน ว่าทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้อนุญาตให้เข้าไปดับไฟในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากไฟได้ลุกลามเข้าไปในเขตบ้านพักของ เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และได้ควบคุมเพลิงในพื้นที่ดังกล่าวไว้เป็นที่เรียบร้อย

– สถานีควบคุมไฟป่าบ้านโฮ่ง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) เจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนตรวจหาไฟ ลาดตระเวนร่วมเจ้าหน้าที่ทหาร ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ และเจ้าหน้าที่ได้ออกประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่รณรงค์ป้องกันไฟป่าหมู่บ้านป่าดำ หมู่ 13 และหมู่บ้านห้วยแพ่ง หมู่ 12 ตำบลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน

จังหวัดน่าน

– อำเภอนาน้อย ร่วมกับ กกล.รส.จว.น.น. โดย หมู่.รส.มว.รส.ที่ 2 ร้อย.รส.ที่ 2 ม.2 พัน.15 (อำเภอนาน้อย) หน่วยป้องกันรักษาป่า นน.16 ดำเนินการประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือราษฎรพื้นที่อำเภอนาน้อย ในการงดเผาป่าและวัชพืชทางการเกษตร จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2562 ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

– อำเภอสันติสุข ร่วมกับ กกล.รส.จว.น.น โดย ชุดปฏิบัติการแก้วิกฤตหมอกควัน ตำบลพงษ์ อำเภอสันติสุข ร้อย รส.ที่ 1 (มทบ.38) อำเภอสันติสุข ร่วมกับชุดปฏิบัติการแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่า ต.พงษ์ อ.สันติสุข, อส.อ.สันติสุข,อุทยานแห่งชาติดอยภูคา และประชาชน บ.พนาไพร ต.ป่าแลวหลวง อ.สันติสุข ร่วมกันเข้าพื้นที่เพื่อลาดตระเวนตรวจสอบและดับไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่บริเวณเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตบ้านพนาไพรฯ ปัจจุบันไฟได้ดับลงแล้ว ความเสียหายเป็นวงกว้างประมาณ 20 ไร่ ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

– อำเภอนาหมื่น ร่วมกับ กกล.รส.จว.น.น. โดย หมู่.รส.มว.รส.ที่ 2 ร้อย.รส.ที่ 2 ม.2 พัน.15 (อำเภอนาหมื่น) ร่วมกับฝ่ายปกครอง, จนท.ชุด ลว.ป้องกันไฟป่า ม.2 พัน.15, จนท.ชุด ลว.กรมทหารพราน 32, หน่วยควบคุมไฟป่าศรีน่าน, หน่วยป้องกันรักษาป่า นน.17, อช.ศรีน่าน, อช.ขุนสถาน ออกลาดตระเวน เฝ้าระวัง คัดกรองป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่อำเภอนาหมื่น บริเวณเขตป่าห้วยหินลับ บ้านปากนาย หมู่ 17 ต.นาทะนุง อ.นาหมื่น จ.น่าน ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย