ครม.ไฟเขียวปรับปรุงร่างพ.ร.บ.ทะเบียนราษฎร ยันไม่ล้วงความลับประชาชน

การแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ.2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 เพื่อเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนการพัฒนาประเทศ เช่น การเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร ในการปฏิบัติราชการหรือการดำเนินนโยบายของรัฐ หรือส่วนราชการต่าง ๆ เป็นการจัดระเบียบสังคมและรองรับการจัดการประชากรของประเทศไทยในประชาคมอาเซียน

• กรมอุตุฯเตือน 6-11 พ.ค.นี้ ฝนตกหนักหลายพื้นที่ รวมกทม.และปริมณฑล
• ธ.ก.ส. เผย สินเชื่อดอกเบี้ยล้านละร้อย เหลือวงเงินกู้อีก 1.5 หมื่นล้าน
• วงจรอุบาทว์

การกำหนดเลขประจำบ้านและจัดทำทะเบียนบ้านของบ้านที่ปลูกสร้างโดยไม่ถูกต้องเพื่อสนับสนุนมาตรการป้องกันการบุกรุกที่ดินของรัฐ

การกำหนดเลขประจำตัวประชาชนให้แก่ราษฎรไทยที่เกิดในต่างประเทศ รวมถึงการพิสูจน์สิทธิของบุคคล การแก้ไขปัญหาเด็กซึ่งถูกทอดทิ้ง เด็กเร่ร่อนและเด็กที่ไม่ปรากฏบุพการีให้ได้รับการจดทะเบียนการเกิด เพื่อประโยชน์ในการใช้สิทธิต่าง ๆ และเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการแจ้งย้ายที่อยู่ให้มีผลตามกฎหมาย ซึ่งเป็นการให้สิทธิและเพิ่มความสะดวกในการปฏิบัติ ตามกฎหมายแก่ประชาชนมากยิ่งขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน

ทั้งนี้ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นการดำเนินการให้สอดคล้องกับข้อเสนอของสภาปฏิรูปแห่งชาติที่ขอให้พิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ค.ศ.1989 ข้อ 7 และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ค.ศ. 1966 (ICCPR) ที่เด็กทุกคนต้องได้รับการจดทะเบียนทันทีภายหลังการเกิด และเด็กทุกคนมีสิทธิที่จะได้มาซึ่งสัญชาติ

ขณะเดียวกันด้านพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงถึงเรื่องร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเพื่อป้องกันความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนโดยเฉพาะในลักษณะที่ระบุว่าหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ สามารถที่จะเชื่อมโยงข้อมูลทะเบียนราษฎรของกระทรวงมหาดไทยได้และรัฐสามารถที่จะรู้เรื่องเกี่ยวข้องกับประชาชนทั้งหมดว่า

การที่แต่ละกระทรวง ทบวง กรม และหน่วยงานของรัฐ จะสามารถเข้าถึงและนำข้อมูลเหล่านั้นไปได้ ต้องเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงานเท่านั้น จึงขอแจ้งเกี่ยวกับการดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลตามพระราชบัญญัติดังกล่าวให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเพื่อป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต