“อนุชา” รับ อสมท. เจรจา “สนธิญาณ” นำท็อปทีวีเสียบผังช่อง 9

“อนุชา” ยันไม่มีส่วนดึง “สนธิญาณ” คุย อสมท. ชี้เป็นเรื่องธุรกิจทางการค้า เปิดเจรจาได้ทุกกลุ่ม

เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2563 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับบริษัท อสมท.จำกัด (มหาชน) แถลงชี้แจงกรณีนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้ก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย จะนำรายการจากท็อปทีวี ไปออกอากาศในรายการ ‘เล่าข่าวข้น’ อสมท. ว่า จากที่เป็นข่าว ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน และยังไม่มีรายงานมาถึงตน และเท่าที่ทราบเป็นการเจรจาทางธุรกิจการค้าที่ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันในเรื่องการทำธุรกิจตามปกติ ตนไม่มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นการดำเนินการของคณะกรรมการผังรายการซึ่งมีผู้บริหารของ อสมท.เป็นประธาน ดังนั้น ตนและรัฐบาลยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและผลักดันอย่างใดทั้งสิ้น เพียงแต่มีข่าวมาให้ได้ยินว่ามีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น

“ได้สอบถาม อสมท.จึงทราบว่ามีการเจรจาพูดคุยทางธุรกิจตามที่เป็นข่าว แต่ไม่มีรายละเอียด ไม่มีข้อสรุป และความชัดเจนเป็นอย่างไร อีกทั้งเป็นเรื่องปกติทางการค้า ไม่เกี่ยวกับผม ในการทำธุรกิจผมไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้เลยว่าสื่อคนไหนเป็นกลางหรือไม่อย่างไร ลองลิสต์รายชื่อให้ผมก็ได้ว่าสื่อคนไหนเป็นกลางไม่เป็นกลางอย่างไร จะได้นำไปพิจารณา ดังนั้น สื่อมวลชนเราถือภาพเป็นกลาง มีวิธีคิด วิธีอ่าน มีวิธีนำเสนอ มีมาตรฐานในการเป็นสื่อทุกๆ คน ไม่มีใครสามารถระบุได้ว่าเป็นสื่อข้างใดข้างหนึ่ง และผมไม่เคยพูดอย่างนั้นแม้แต่สื่อเดียว ดังนั้น การทำธุรกิจในสื่อสารมวลชนเป็นเรื่องปกติ” นายอนุชา กล่าว

นายอนุชา กล่าวว่า หากว่าใครจะทำสัญญากับ อสมท.หรือกรมประชาสัมพันธ์ในเชิงธุรกิจ ถือว่าเป็นเรื่องปกติทางการค้า ไม่เกี่ยวกับตนจริงๆ ไม่รู้แม้แต่นิดเดียว ส่วนการเจรจาธุรกิจจะจบลงเมื่อใดนั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่มีการชี้แจง มีเพียงรายงานพูดคุยเรื่องธุรกิจ รูปแบบการจัดรายการปกติ เหมือนรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ของนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ที่มีการเช่าเวลาผลิตรายการของตนเองในฐานะสื่อ

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มดังกล่าวไปหลายช่อง และตามมาด้วยข่าวเรื่องความขัดแย้ง จะทำให้ อสมท.เกิดความแตกแยกในองค์กรหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ไม่สามารถไปชี้ได้ว่าสื่อคนไหนเป็นอย่างไร ตนไม่อยากวิจารณ์สื่อ ขอเถอะ เป็นสิ่งที่พวกเราต้องดูกันในรูปของสื่อ ตนเชื่อมั่นวิชาชีพในจริยธรรมของทุกคนจริงๆ

เมื่อถามว่า ในการดำเนินการทางธุรกิจกลุ่มไหนก็สามารถมาเช่าเวลา อสมท.ได้ นายอนุชา กล่าวว่า ถูก ถ้าดำเนินการทางธุรกิจ เป็นเรื่องปกติ คงไม่มีใครตั้งข้อรังเกียจ ข้อสังเกตว่าคนไหนทำได้ คนไหนทำไม่ได้อย่างไร ตั้งเกณฑ์ว่าคุณต้องเป็นอย่างนู้น ต้องเป็นอย่างนี้ หรือ เป็นอีกอย่างมีผลกระทบต่อสังคมหรือไม่ ทั้งนี้ จะรับทุกกลุ่มหรือไม่ เป็นหน้าที่ของผู้จัดผังรายการ และเป็นหน้าที่การดำเนินธุรกิจของ อสมท.ซึ่งขณะนี้ก็มีปัญหาเรื่องการหารายได้มาเสริมตัวช่อง ตนคงไม่มีอำนาจชี้นำหรือตัดสินใจแทนได้