การท่าเรือฯ ไฟเขียวทุ่มงบฯ 897 ล้าน จ้างเหมาเอกชนขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ

การท่าเรือฯ ทุ่มงบฯ 897 ล้านบาท จ้างเหมาเอกชนขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟแทนทางถนน สัญญา 5 ปี ชี้ช่วยลดต้นทุน-ขนส่งได้มาก รองรับตู้สินค้า 2 ล้าน ที.อี.ยู. ต่อปี

วันที่ 24 มีนาคม 2565 นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การท่าเรือฯได้จ้างเหมาบริษัท ที ไอ พี เอส จำกัด ให้บริหารจัดการตู้สินค้าและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ภายในโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ (Single Rail Transfer Operation : SRTO) ที่ท่าเรือแหลมฉบัง

เกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข

หนุนนโยบายเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งจากทางถนนเป็นทางราง เพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์โดยรวมของประเทศให้มีการประหยัดพลังงานมากขึ้น และลดต้นทุนโลจิสติกส์โดยรวมของประเทศให้ต่ำลง

โดยคาดว่าสัดส่วนในการขนส่งตู้สินค้าทางบกมาสู่ทางรางที่ท่าเรือแหลมฉบัง จะมีขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้าได้ 2 ล้าน ที.อี.ยู. ต่อปี

ส่งผลให้สัดส่วนในการขนส่งตู้สินค้าทางบกมาสู่ระบบการขนส่งทางรางที่ท่าเรือแหลมฉบัง เพิ่มขึ้นจากเดิม 7% มาเป็น 15% ในอนาคต

สำหรับโครงการ SRTO พื้นที่ประมาณ 600 ไร่ อยู่ระหว่างท่าเทียบเรือ ชุด B และชุด C ลักษณะของ Rail Yard ซึ่ง กทท. เป็นผู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือยกขนหลักทั้งหมด รวมถึงด้านการบริหารและประกอบการ

ในส่วนของเครื่องมือ กทท.ได้ติดตั้งรางรถไฟลักษณะเป็นพวงราง จำนวน 6 ราง แต่ละรางมีความยาวในช่วง 1,224 – 1,434 เมตร สามารถจอดขบวนรถไฟได้รางละ 2 ขบวน รวมเป็น 8 ขบวน ในเวลาเดียวกัน

โดยติดตั้งเครื่องมือยกขนตู้สินค้าชนิดเดินบนราง (Rail Mounted Gantry Crane : RMG) ที่สามารถทำงานคร่อมรางรถไฟได้ทั้ง 6 ราง ในเวลาเดียวกัน

และให้ท่าเรือแหลมฉบังดำเนินการจ้างเหมาเอกชนดำเนินการเคลื่อนย้ายตู้สินค้าภายในโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งสินค้าทางรถไฟและท่าเทียบเรือ และจ้างเหมาบริหารจัดการตู้สินค้า รวมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e – bidding)

กทท.ได้ดำเนินการตามขั้นตอน กระบวนการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 เรียบร้อยแล้ว

จึงได้อนุมัติจ้างบริษัท ที ไอ พี เอส จำกัด เป็นผู้รับจ้างงานจ้างเหมาให้บริหารจัดการตู้สินค้า รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ภายในโครงการ SRTO ในราคา รวมภาษีมูลค่าเพิ่มต่อหน่วย 333 บาท ต่อตู้สินค้าทุกขนาดและทุกสถานภาพ ระยะเวลาการจ้าง 5 ปี ในวงเงินงบประมาณทำการที่ได้รับอนุมัติทั้งสิ้น เป็นจำนวนเงินรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 897,544,890 บาท