เมื่อวันที่ 8 มกราคม ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Jab Sitthiphon โพสต์ข้อความลงในเพจดัง YouLike (คลิปเด็ด) เป็นเหตุการณ์รถโดยสารปรับอากาศบขส.ไล่ผู้โดยสารพ่อแม่ลูก รวม 4คน ลงจากรถกลางดึกหน้าปั๋มน้ำมั่นแห่งหนึ่งในพื้นที่อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เพียงเพราะเด็กร้องไห้เสียงดัง โดยระบุว่า “คืนวันที่ 7/1/61 ผมได้ซื้อตั๋วเดินทางไป กรุงเทพ-สมุย หมายเลขรถ 991-941 เวลาออกเดินทางจากสายใต้ใหม่เวลา20.00น. มีพ่อ-แม่และลูกอีก 2 คน เดินทางมาในรถคันเดียวกันกับผม ซึ่งพี่เขานั่งอยู่เบาะถัดไปจากผม ตอนกลางดึกเด็กนอนหลับและตื่นขึ้นมาร้องไห้เสียงดัง จนผมและทุกคนในรถต้องตื่นมาด้วย ตอนนั้นผมยอมรับว่าผมเองก็รำคาญ แต่ผมก็เข้าใจว่าเป็นเด็กคงไม่รู้เรื่องอะไร ผมเลยไม่สนใจ เอาหูฟังมาเปิดเพลงเพื่อให้กลบเสียงเด็ก เด็กก็ร้องให้ไม่หยุด จนคนรถต้องเดินมา แต่ผมไม่รู้ว่าคุยอะไรกันเพราะผมใส่หูฟังอยู่”
“สักพักรถก็ได้จอดที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง และพ่อแม่ลูกก็ลงจากรถไป ตอนแรกผมคิดว่าคงลงไปซื้อขนมให้เด็กในร้านสะดวกซื้อในปั๊ม หรือลงไปหาวิธีให้เด็กหยุดร้อง ผมเลยชะโงกไปดูริมหน้าต่างรถ เห็นพ่อของเด็กเอากระเป๋าใต้ท้องรถ กระเป๋าประมาณ 6-7 ใบพะรุงพะรัง แล้วรถก็วิ่งออกไป ผมแอบคิดในใจว่าพี่เขาขอลงจากรถเองเพราะเกรงใจผู้โดยสารท่านอื่นหรือป่าว สักพักคนรถเดินมาสะกิดผม บอกว่าให้เป็นพยานให้หน่อยว่า เด็กร้องไห้จริงจนไม่สามารถขับรถต่อไปได้ เพราะกลัวผู้โดยสารคนอื่นและคนขับอีกคนไม่ได้นอน ผมเลยถามกลับว่า #สรุปพี่ให้เขาลงจากรถหรอ #พี่เขาตอบว่าใช่ #เขาอ้างว่าเด็กร้องไห้ไม่หยุด จึงไม่สามารถให้ไปได้ ให้เขาไปพรุ่งนี้เช้าเอา ผมเลยงงว่า วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของ บขส. เขาทำกันแบบนี้หรอ คืนนั้นผมนอนไม่หลับทั้งคืน เพราะเป็นห่วงพี่เขาทั้งเด็กเล็กอีกตั้ง 2 คน พี่เขาจะไปนอนไหนดึกขนาดนั้น รถรับจ้างจะมีเหรอ แล้วใครจะช่วยเขาใหม ทำไมคนรถไม่คิดเหมือนเรา ทำไมไม่หาวิธีอื่นนอกจากไล่เขาลงจากรถ ฝากแชร์ถึงผู้บริหารของ บริษัท ขนส่ง จำกัด ด้วยครับ #ว่าเหมาะสมหรือไม่ที่ไล่ผู้โดยสารลงจากรถกลางทางตอนกลางคืนเพียงแค่เด็กร้องไห้เสียงดัง” ปรากฏว่ามีผู้เข้าแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- บริษัทดัง ประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- แจกเงินดิจิทัล 10,000 ลุ้นซื้อไอโฟน-เครื่องใช้ไฟฟ้า “จุลพันธ์” นัดถกหาข้อสรุป
ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอเกาะสมุย พบรถโดยสารปรับอากาศ กรุงเทพฯ – เกาะสมุย หมายเลข 991-941 คันที่ถูกโพสต์อ้างถึง ซึ่งจอดในชานชาลาเพื่อรอรับผู้โดยสารจากเกาะสมุยมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ เที่ยวเวลา 16.30 น. พบนายวรกิตติ ไชยชนะ หัวหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย เรียกตัวพบนายสถาพร อยู่เกิด พนักงานขับรถคนที่ 1 นายกิตติพงศ์ สายสุด พนักงานขับรถคนที่ 2 และ นายวันชัย แก้วเจริญ บริกรประจำรถ มาซักถามข้อเท็จจริงพร้อมทำบันทึกถ้อยคำ
นายวันชัย กล่าวว่า ได้ออกเดินทางจากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ในเวลา 20.00น. วันที่ 7 มกราคม นรถมีผู้โดยสารทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ รวมทั้งครอบครัวพ่อแม่ลูก 4 คนด้วย เมื่อรถเข้าเขต จ.สมุทรสาครได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ดังมาก คิดว่าเดี๋ยวคงจะเงียบ แต่ไม่เงียบจึงเดินไปเตือนแม่เด็ก เพราะรบกวนผู้โดยสารคนอื่น และพนักงานขับรถคนที่ 2 ที่กำลังนอนพักผ่อนอยู่ท้ายรถ เพื่อเตรียมเปลี่ยนกะทุก 4 ชั่วโมง กระทั่้งถึง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เด็กยังคงร้องไห้ ทำให้ผู้โดยสารไม่ได้พักผ่อนทั้งคัน จึงไปพุดคุยกับพ่อและแม่ของเด็กเสนอทางออกให้เกิดความปลอดภัยทั้ง 2 ฝ่าย ผู้โดยสารจะได้พักผ่อน พนักงานขับรถจะได้พักผ่อน ขอให้ครอบครัวของเด็กพักที่ อ.ชะอำ และเดินทางต่อไปช่วงเช้า โดยจุดที่ทิ้งผู้โดยสารคิดว่าปลอดภัยที่สุด บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันปตท. มีคิวรถตู้ มีโรงแรม ไม่ได้เปลี่ยวแต่อย่างใด และสามารถเดินทางต่อได้ โดยกลั่นแกล้งแต่อย่างไร
นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า เมื่อเด็กร้องหนักขึ้น ตนเดินไปบอกแม่เด็กให้ดูแลลูก ส่วนผู้โดยสารชาวต่างชาติรู้สึกไม่สบายใจ เดินไปบอกบริกรประจำรถ ตั้งแต่ขับรถมา เคยพบเด็กร้อง แต่ครั้งนี้ร้องหนักกว่าที่เคยพบมา
ด้านนายวรกิตติ กล่าวว่า เรื่องการรับส่งผู้โดยสารเป็นหน้าที่ของพนักงานขับรถที่ต้องส่งผู้โดยสารถึงที่หมายปลายทาง หากมีเหตุสุดวิสัยอย่างหนึ่งอย่างใดก็แล้วแต่ ต้องให้นายสถานทีที่อยู่ใกล้ที่สุดรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นว่าจะพิจารณาแก้ไขอย่างไร แต่การไปส่งผู้โดยสารที่ปั๊มน้ำมันปตท. เป็นการตัดสินใจพลการ ทำให้เกิดความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัย ซึ่งจะทำหนังสือรายงานกองตรวจการขนส่งที่ต้นทางของรถที่ออกมา แต่ต้องขอคุยกับผู้โดยสารผู้เสียหายอีกครั้งก่อน เพื่อความเป็นธรรมของทั้ง 2 ฝ่าย นอกจากนี้บริษัท ขนส่ง จำกัด ยินดีชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางของผู้เสียหายรายนี้
ล่าสุด มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Nu Nim Nifinity โพสต์ข้อความว่า เป็นญาติของครอบครัวนี้ ระบุว่า “น้องเขาไม่มีตังค์ด้วย ค่าห้องเมื่อคืน ค่ารถ มากกว่าจะถึงอีกรอบ ขณะนี้ได้ขึ้นรถไฟจากสถานีรถไฟชะอำ เที่ยวเวลา 12.45น. มาลงสถานีรถไฟพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ในช่วงเย็นวันนี้ และเดินทางต่อมายังเกาะสมุย”
ที่มา มติชนออนไลน์
