คอลัมน์ คุยกับเอกราช โดย เอกราช เก่งทุกทาง
การเหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติ กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของวงการฟุตบอล เรื่องนี้นอกจากแก้ยากแล้ว ยังอาจจะแก้ไม่หมด เพราะหมักหมมมานาน ต่อต้านกันมาตลอด แต่ก็ไม่เคยปราบปรามขั้นเด็ดขาดได้ซะที
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
เพราะการเหยียดผิว เป็นได้ทั้งความรู้สึกรังเกียจ แบ่งแยกจริง และความคึกคะนอง ยิ่งมารวมตัวกันเยอะ ๆ ในสนามฟุตบอล บรรยากาศกับอารมณ์ร่วม ยิ่งเป็นใจให้เลยเถิด
อยากจะบอกนะครับว่า สนามบอลเปรียบเหมือนเวที ระบายอารมณ์ของคนบางกลุ่ม ในฟุตบอลอังกฤษ คนดูกลุ่มหนึ่งเป็นผู้ใช้แรงงาน เป็นวัยรุ่นหัวรุนแรง ซึ่งอาจจะเก็บกด มีปัญหาชีวิต การเข้ามาดูบอลจึงเป็นการระบายออก เอาโทสะของตัวเองมาระเบิดใส่นักฟุตบอล ใครเป็นพวกผิวสี ดูแตกต่างจากชนชาติตัวเอง ก็จะโดนหนักทำเสียงลิง ล้อเลียนเหมือนไม่ใช่มนุษย์
เรื่องแบบนี้มีอยู่ทั่วไปในหลายชาติของยุโรป ทีมชาติอังกฤษเพิ่งโดนแฟนบอลบัลแกเรียเหยียดผิว คนก่อเหตุโดนตำรวจจับขังคุกไป 6 ราย
บอลเอฟ เอ คัพ รอบคัดเลือกของอังกฤษ คู่แฮริงกีย์ โบโร่ กับโยวิล นักเตะแฮริงกีย์ โดนเหยียดจนทนไม่ไหว เดินออกจากสนามก่อนแข่งจบ ถือเป็นครั้งแรกในบอลอังกฤษที่มีการประท้วงเหยียดผิวด้วยการวอล์กเอาต์ เลิกแข่ง สุดท้ายเหตุการณ์นี้แฟนโยวิล โดนจับ 2 คน
นักเตะอังกฤษมากมายไม่แฮปปี้ที่โดนต่างชาติเหยียดผิว แต่ในประเทศตัวเองก็ยังแก้ปัญหานี้ไม่ตก
มีรายงานว่าช่วง 4 ปีหลัง แฟนบอลปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ดโดนจับข้อหาเหยียดผิวถึง 27 คน มากที่สุดในอังกฤษ
นี่คือปัญหาใหญ่ และเป็นปัญหาโลกแตก ที่แก้ยังไงก็ไม่หมด เพราะคนบางกลุ่มเหยียดเขาแท้ ๆ แต่ดันไม่ยอมรับ แฟนบอลอินเตอร์มิลานในอิตาลีเขียนจดหมายเปิดผนึกถึงโรเมลู ลูกากู กองหน้าผิวสีทีมตัวเองที่โดนแฟนทีมกายารี่ เหยียดผิว ว่าให้เปลี่ยนความคิดใหม่ แฟนบอลอิตาลีที่ทำเสียงลิงใส่ นักเตะผิวดำไม่ใช่เหยียดหยาม แต่เป็นการล้อเลียนแกล้งนักเตะฝ่ายตรงข้ามให้โมโหเสียสมาธิ ไม่เกี่ยวกับสีผิว
ตรงกันข้าม ทำแบบนี้ถือว่าให้เกียรติ ถ้าเอ็งไม่เก่ง ใครเขาจะไปแกล้ง !
ผมช็อกกับความคิดของคนอิตาเลียนกลุ่มนี้ รู้เลยว่านักเตะผิวสีในกัลโช่ต้องอดทนน่าดู ถ้าเลือกได้ก็คงไม่ย้ายมาเล่นที่นี่แน่นอน
การปรับความคิด ปรับทัศนคติคน คงเป็นความหวังเดียวของการแก้ปัญหา อย่างอื่นไม่ว่าจับเข้าคุก ปรับเงิน ลงโทษสโมสร ลงโทษทีมชาติมันก็รับประกันไม่ได้อยู่ดีว่าจะทำให้เรื่องนี้หมดไป
อย่าลืมว่าฟุตบอลเป็นธุรกิจใหญ่ มีเงินหมุนเวียนหลายทาง ถ้าแข่งไม่จบ นักเตะโดนเหยียดผิวแล้วเดินออกจากสนามบ่อย ๆ มันก็เสียหายทุกฝ่าย รวนกันไปทั้งระบบ
ดูแล้ว คงได้แค่ช่วยกันรณรงค์ จับได้ก็จับ แล้วหวังว่าคนบางกลุ่มจะรู้สำนึกมากขึ้นในอนาคต เรื่องที่จะปราบให้หมด คงเป็นไปไม่ได้