จับตาวันนี้ ! ควบรวมทรู-ดีแทค จะได้ไปต่อหรือไม่ ? จับตา กสทช. เคาะ-ไม่เคาะข้อสรุป
วันที่ 10 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีการประกาศรวมกิจการระหว่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “ทรู” กับ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “ดีแทค” ในลักษณะบริษัทร่วมลงทุน (Joint Venture)
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
โดยได้มีการจัดตั้งบริษัทใหม่ชื่อ “บริษัท ซิทริน โกลบอล จำกัด” เป้าหมายเพื่อมุ่งเน้นธุรกิจเทคโนโลยี เอไอ ดิจิทัลมีเดียแพลตฟอร์ม คลาวด์เทคโนโลยีอวกาศ รวมไปถึงการเป็นเวนเจอร์แคปิตอล ระดมทุน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีสตาร์ตอัพในประเทศไทย
เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ศาลปกครองได้วินิจฉัยเอาไว้ว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีอำนาจเต็มในการระงับการควบรวมธุรกิจ หากการควบรวมธุรกิจส่งผลให้เกิดการผูกขาด
ต่อมา กสทช. ได้เห็นชอบแผนงาน (Roadmap) กรณีการรวมธุรกิจระหว่างทรู-ดีแทค พร้อมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาและวิเคราะห์เรื่องดังกล่าวจำนวน 4 คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย คณะอนุกรรมการด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง คณะอนุกรรมการด้านเทคโนโลยี และคณะอนุกรรมการด้านเศรษฐศาสตร์
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้จัดประชุม Focus Group เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง กลุ่มนักวิชาการ และกลุ่มผู้บริโภคและประชาชนทั่วไป ตลอดจนมอบหมายให้คณะทำงานของสำนักงาน กสทช. และที่ปรึกษาอิสระทั้งในและต่างประเทศ ศึกษาผลกระทบและสังคมในระยะเวลาที่เร็วที่สุด
ขณะที่สภาองค์กรของผู้บริโภค ร่วมกับโคแฟคประเทศไทย ได้รวบรวมรายชื่อประชาชนผู้คัดค้านกรณีดังกล่าว 10,000 คน จาก Chang.org เข้ายื่นต่อ กสทช. ในวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนที่ กสทช. มีกำหนดพิจารณาให้ข้อสรุปในวันพรุ่งนี้ (10 ส.ค.)
โดยนางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า การควบรวมดังกล่าวจะส่งผลให้ค่าบริการเพิ่มขึ้น 7-120% โดยหากให้ทรูและดีแทคควบรวมได้ ทางเอไอเอสและ 3BB ก็สามารถทำได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 60 และตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม มาตรา 27 กำหนดให้ กสทช.มีอำนาจกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาด หรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม
ผศ.ดร.พรเทพ เบญญาอภิกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เสนอข้อมูลผลการศึกษาผลกระทบทางเศรษฐศาสตร์ตามที่เคยเสนอ กสทช.ว่า การควบรวมกิจการโทรคมนาคมจาก 3 ราย เหลือ 2 ราย ตลาดจะกระจุกตัว มีผลต่อราคาหลังควบรวมที่จะพุ่งขึ้น 5-200% อีกทั้งจะกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อทุกอุตสาหกรรม ส่งผลให้จีดีพีของประเทศลดลง 0.05-2% หรือ 1-3 หมื่นล้านบาท อัตราเงินเฟ้อเพิ่ม 0.05-2% สมมุติฐานนี้คือกรณีที่ กสทช.ไม่เข้าควบคุมหลังควบรวม
ด้านนายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.พรรคก้าวไกล และโฆษกคณะกรรมาธิการคณะกรรมการควบรวมกิจการโทรคมนาคมระหว่างทรู-ดีแทค กล่าวว่า ประเด็นที่ว่าการควบรวมจะช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจ เอื้อให้เกิดการขยายการลงทุนนั้น ไม่ได้พิจารณาเกี่ยวกับประโยชน์ผู้บริโภค ซึ่งจะต้องมาจากการแข่งขันและค่าบริการที่ถูกลง อีกทั้งโทรคมนาคมเป็นโครงสร้างขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อเศรษฐกิจ หากค่าบริการแพงขึ้นย่อมส่งผลต่อเศรษฐกิจประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บอร์ด กสทช. เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมหลายส่วนด้วยกัน แม้จะย้ำว่าจะไม่ยืดเยื้อ แต่โอกาสที่จะเคาะให้จบภายในวันที่ 10 ส.ค.ก็ดูที่จะไม่ง่ายเลย