จีนเข้มกฎเหล็กคุมเด็กในโลกออนไลน์

china
คอลัมน์ : Tech Times
ผู้เขียน : มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ

ด้วยความห่วงใยอนาคตของชาติอย่างเอกอุ “รัฐบาลจีน” จึงมีดำริเพื่อจำกัดการใช้อินเทอร์เน็ตของเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีให้เหลือสูงสุดแค่วันละ 2 ชั่วโมง

หลังจากที่เคยประกาศห้ามเยาวชนไม่ให้เล่นเกมออนไลน์เกินอาทิตย์ละ 3 ชั่วโมงมาแล้วในปี 2021จนมาถึงครั้งล่าสุด Cyberspace Administration of China (CAC) ก็มีแผนจะจำกัดการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กทุกกลุ่มอายุ

โดยแบ่งเป็นกลุ่มอายุน้อยกว่า 8 ปี จะสามารถใช้งานได้สูงสุด 40 นาทีต่อวัน, กลุ่ม 8-16 ปีใช้ได้ไม่เกิน 1 ชม./วัน และกลุ่ม 16-17 ปี จะถูกจำกัดการใช้งานไว้สูงสุดที่ 2 ชั่วโมง/วัน

และเด็กทุกคนจะถูกตัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตตั้งแต่ 4 ทุ่ม จนถึง 6 โมงเช้าของทุกวัน

นอกจากนี้ ผู้ผลิตมือถือจะต้องเพิ่มปุ่ม “minor mode” ให้เห็นชัดเจน โดยอาจจะเป็นไอคอนหลักบนหน้าจอ หรือในหมวด “การตั้งค่า” เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถควบคุมการใช้งานออนไลน์ของเด็ก ๆ ได้สะดวก และเป็นการบังคับให้ผู้ให้บริการจำกัดประเภทของคอนเทนต์ให้เหมาะกับอายุของผู้ใช้งานด้วย

เช่น เด็กอายุน้อยกว่า 3 ปี ควรเน้นคอนเทนต์ประเภทเสียงและเพลงเป็นหลัก ส่วนเด็กอายุระหว่าง 12-16 ปี ควรเป็นคอนเทนต์เพื่อการศึกษา เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม CAC อนุโลมให้เยาวชนสามารถเข้าถึงบริการที่เกี่ยวกับการศึกษาได้โดยไม่จำกัด รวมทั้งบริการที่เกี่ยวกับเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ

ABC news รายงานว่า กฎเหล็กที่ว่าน่าจะมีผลบังคับใช้ช่วงต้นเดือนกันยายน ในขณะที่ CNBC บอกว่ายังไม่มีกำหนดการที่แน่นอน เพราะยังต้องมีการลงรายละเอียดหลายเรื่อง

เช่น ใครจะเป็นคนรับผิดชอบในการพัฒนา “minor mode” ระหว่างเจ้าของระบบปฏิบัติการ หรือผู้ผลิตมือถือรวมถึงวิธีการติดตามการบังคับใช้ว่าจะทำกันอย่างไร

ทั้งนี้ CAC บอกว่ากฎใหม่ที่กำลังจะออกมานี้ จะช่วยส่งเสริมบทบาทเชิงบวกของอินเทอร์เน็ต รวมทั้งช่วยกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ถูกต้อง ลดการเสพข้อมูลที่ไม่ดี และป้องกันการเสพติดอินเทอร์เน็ตในเยาวชน

แต่การคุมเข้มของ CAC นอกจากจะส่งผลต่อการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของเด็ก ๆ ยังอาจกระทบรายได้ของบิ๊กเทคด้วย ทำให้เมื่อมีการประกาศว่าจะออกมาตรการใหม่นี้ออกมา หุ้นของ Tencent ก็ร่วงทันที 3% ในขณะที่หุ้น Baidu ก็หล่นไปถึง 3.75%

เรียกว่าดาบสองคมของการใช้อินเทอร์เน็ตสำหรับเด็ก จนถูกควบคุมเข้มเช่นนี้กำลังคืนสนองบิ๊กเทคในจีนให้ต้องรับมือกันอีกหลายระลอก