วิศวกร AI ผู้รอดชีวิตท่ามกลางบริษัทเทคปลดคน

AI

“วิศวกร AI” ขึ้นแท่นอาชีพเซฟโซน แม้ปี 2567 บริษัทเทคจะปลดคนสะบัด 50,312 ตำแหน่ง ใน 3 เดือน แต่ก็ยังต้องการคนเก่งเรื่อง AI พร้อมดันรายได้วิศวกร AI อาวุโสทะลุ 190,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี

วันที่ 20 มีนาคม 2567 เป็นที่ทราบกันดีว่าวงการเทคโนโลยีประเดิมปี 2567 ด้วยข่าวการเลิกจ้างครั้งใหม่ของบริษัทเทคมากมาย และจากข้อมูลบน Layoffs.fyi เว็บไซต์ติดตามการเลิกจ้างของบริษัทเทค ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-18 มี.ค. 2567 มีบริษัทเลิกจ้างพนักงานกว่า 209 แห่ง คิดเป็นตำแหน่งงาน 50,312 ตำแหน่ง

โดยบิ๊กเทคระดับโลก เช่น อัลฟ่าเบท (Alphabet) บริษัทแม่ของกูเกิล (Google) และแอมะซอน (Amazon) ก็ร่วมวงการเลิกจ้างระลอกนี้ด้วย เนื่องจากมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับโครงสร้างองค์กร ทำให้องค์กรมีขนาดเล็กลง และทุ่มการลงทุนไปที่กลุ่มธุรกิจ AI ดาวเด่นของวงการเทคโนโลยีในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) มีโอกาสพูดคุยกับ “แอลิสัน ครัวซองต์” (Allison Croisant) นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลที่ถูกเพย์พาล (PayPal) เลิกจ้าง เกี่ยวกับผลกระทบของการเลิกจ้างในครั้งนี้

“แอลิสัน” (Allison Croisant) กล่าวว่า การเลิกจ้างในปีนี้ยิ่งตอกย้ำสภาพการจ้างงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ที่บอบช้ำมาตั้งแต่ปี 2566 โดยในปีที่ผ่านมามีการเลิกจ้างจาก 1,200 บริษัท มากกว่า 260,000 ตำแหน่ง

“การเลิกจ้างในปีที่ผ่านมา ถือเป็นการเลิกจ้างครั้งใหญ่ที่รองลงมาจากการเลิกจ้างในยุคของ “ฟองสบู่ดอตคอม” หรือภาวะเก็งกำไรเกินควรของตลาดหลักทรัพย์ภาคเทคโนโลยี ในปี 2544 โดยคนที่ทำงานตำแหน่งเดียวกับฉัน ได้รับผลกระทบหลายหมื่นรายเลยทีเดียว”

“แอลิสัน” กล่าวต่อว่า ในช่วง 5 สัปดาห์ของการหางานหลังถูกเลิกจ้างจาก Paypal ตนได้สมัครไปกว่า 48 ตำแหน่ง แต่ได้รับการสัมภาษณ์งานเพียง 2 ครั้ง และเลือกที่จะรับข้อเสนอจากบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินแห่งหนึ่ง ในตำแหน่งนักวิเคราะห์ข้อมูลและลดค่าจ้างพื้นฐานลงประมาณ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ

“นี่เป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวมากสำหรับฉัน และฉันไม่รู้ว่าจะกลับมารู้สึกปลอดภัยกับการทำงานได้อีกหรือไม่”

ด้าน “โรเจอร์ ลี” (Roger Lee) ผู้พัฒนาเว็บไซต์ Layoffs.fyi กล่าวว่า การเลิกจ้างครั้งนี้ค่อนข้างต่างจากครั้งก่อน ๆ เนื่องจากพนักงานที่ได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มนักพัฒนาซอฟต์แวร์และนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล ซึ่งเป็นที่บริษัทหลาย ๆ แห่งต้องการตัว และมีค่าจ้างสูงมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

“ส่วนใหญ่พนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างครั้งก่อน ๆ จะเป็นกลุ่มพนักงานขายและพนักงานฝ่ายบุคคล ซึ่งหลาย ๆ คนที่ต้องการรักษาตำแหน่งของตนจากการเลิกจ้างครั้งนี้ ต้องยอมรับค่าจ้างที่น้อยลง”

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการเลิกจ้างระลอกใหม่ในปี 2567 จะส่งผลกระทบในวงกว้าง แต่ดูเหมือนว่าความต้องการของตลาดไม่ได้ลดน้อยถอยลงอย่างที่คิด เพียงแต่กลุ่มพนักงานที่หลาย ๆ บริษัทต้องการ คือคนที่ความเชี่ยวชาญด้าน AI หรือมีตำแหน่งเป็น “วิศวกร AI” นั่นเอง

“โรเจอร์” กล่าวว่า AI กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การจ้างงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขยายตัวอย่างรวดเร็ว ถึงแม้พนักงานกลุ่มอื่นจะถูกเลิกจ้าง แต่เงินเดือนสำหรับวิศวกร AI กลับเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3-4 ของปี 2566 และรายได้โดยเฉลี่ยของวิศวกร AI ระดับอาวุโสจะไม่ต่ำกว่า 190,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ประมาณ 6.8 ล้านบาท)

“จะเห็นว่าตอนนี้ในวงการเทคโนโลยีมีการแบ่งแยกการจ้างงานอย่างชัดเจน ใครที่ไม่เก่งหรือมีความรู้เกี่ยวกับ AI จะไม่ใช่ตัวเลือกแรก ๆ ของบริษัท”

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานโดยอ้างอิงการวิเคราะห์ของ “Levels.fyi” แพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลค่าตอบแทนในอาชีพสายเทคที่เผยแพร่เมื่อเดือน พ.ค. 2566 ระบุว่า วิศวกร AI มีรายได้มากกว่าวิศวกรสาขาอื่น 8-12.5%

และจากข้อมูลของ ZipRecruiter แพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลการจ้างงานในสหรัฐ ระบุว่า รัฐที่มีการจ่ายค่าตอบแทนให้วิศวกร AI มากที่สุด คือวอชิงตัน (Washington) เฉลี่ย 117,304 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ประมาณ 4.2 ล้านบาท) ส่วนรัฐที่จ่ายค่าตอบแทนน้อยที่สุด คือฟลอริดา (Florida) เฉลี่ย 72,345 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ประมาณ 2.6 ล้านบาท)