“ไมโครซอฟท์” ดัน “นิว เซอร์เฟซ โปร” เจาะกลุ่มธุรกิจตามกระแสดิจิทัลทรานฟอร์มเมชั่น
นางสาวทาเทียน่า มารัชเชฟสกาย่า ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดแท็บเลตแบบ 2 in 1 ของไมโครซอฟท์ หรือ “เซอร์เฟซ” (Surface) เติบโตขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลัก ในปีที่ผ่านมา เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ ปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัลทรานฟอร์มเมชั่นเพื่อให้สามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา และช่วยเสริมคนยุคมิลเลนเนียลที่กำลังจะกลายเป็นแรงงานหลักในปัจจุบัน ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่คนต้องการเปลี่ยนเครื่องใหม่พอดีทำให้ยอดขายในส่วนของลูกค้าองค์กรโตขึ้นถึง 50% จากปีที่แล้ว และมีสัดส่วนรายได้รวมคิดเป็น 40% และปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 30%
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- บริษัทดัง ประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทดัง เปิดขายเดือน พ.ค.นี้ ชูดอกเบี้ยสูงสุด 7.20%
ล่าสุด ได้เปิดตัวนิวเซอร์เฟซโปร (New Surface Pro) สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะ มีโซลูชั่น Microsoft Office 365 ที่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมเข้ากับระบบรักษาความปลอดภัย และโปรแกรม Surface for Business เพิ่มเติมบริการหลังการขายเป็นพิเศษได้สูงสุดถึง 4 ปี
“การขายเครื่องพร้อมซอฟต์แวร์ ไม่ใช่กลยุทธ์ แต่เป็นการทำตามความต้องการของลูกค้า เนื่องจากการไปซื้อซอฟต์แวร์เองอาจจะเจอของปลอม
นอกจากนี้ ยังเพิ่มงบประมาณการตลาด เนื่องจากไทยกำลังดิจิทัลทรานฟอร์มเมชั่นจึงมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มลูกค้าองค์กรจะเน้นลงทุนด้านบุคลากรกับพาร์ตเนอร์ เช่น ทำเทรนนิ่งเพื่อขยายตลาด ส่วนกลุ่มลูกค้าใช้ทั่วไปจะมีการรีโนเวตสาขา Microsoft Experience Store เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าให้ได้ดีขึ้น ปัจจุบันมี 2 สาขา และจะเพิ่มเป็น 5 แห่ง เฉพาะในกรุงเทพฯ และร่วมกับพันธมิตรในการขยายช่องทางขายผ่านระบบออนไลน์ด้วย เนื่องจากการซื้อทางออนไลน์มีการเติบโตที่สูงขึ้น
สำหรับ New Surface Pro ได้ปรับปรุงให้แบตเตอรี่ สามารถใช้งานได้นาน 13.5 ชั่วโมง เพิ่มขึ้นถึง 50% ปรับตัวเครื่องให้บางลงมาอยู่ที่ 8.5 มิลลิเมตร และหนักเริ่มต้น 0.76 กิโลกรัม และมีการพัฒนา kickstand ให้สามารถพับได้มากถึง 165 องศา ไม่มีพัดลมระบายความร้อน เพื่อให้การทำงานเงียบ ใช้ซีพียู Intel 7th Gen Kaby Lake และมี Surface Pen ปรับปรุงใหม่ให้ตอบสนองต่อการสัมผัสบนหน้าจอทัชสกรีน PixelSense ได้ดีขึ้น ราคา 30,900-101,900 บาท
