เลือกแบบไหนดี “สมาร์ทว็อทช์-สปอร์ตว็อทช์ ” ขนรุ่นใหม่ลงตลาดพรึ่บ “การ์มิน-ฟิตบิท-ออเนอร์”เอาใจคนรักสุขภาพ

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ”รายงานว่า บรรดาสมาร์ทว็อทช์หลากหลายแบรนด์ ขนโปรดักส์รุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดในช่วงโค้งท้ายของปี 2562 ในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งการ์มิน, ฟิตบิท และออเนอร์ โดยแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นแตกต่างกันไป ทั้งในแง่ฟีเจอร์, ราคา และดีไซน์

แต่ทั้งหมดออกแบบมาเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพและการออกกำลังกาย มีให้เลือก ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงนักกีฬามืออาชีพ

“ประชาชาติธุรกิจ”เซ็กชั่น ไอซีที จึงถือโอกาสนำโปรดักส์ของทั้ง 3 แบรนด์มาแจกแจงคุณสมบัติให้ดูว่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง

Forerunner 245, music

เริ่มกันที่ “การ์มิน”(Garmin) รุ่น Fenix 6 จีพีเอสมัลติสปอร์ตวอทช์ นำเข้า และจัดจำหน่ายโดยบริษัท จีไอเอส จำกัด

Fenix 6 (รุนนี้ราคาเริ่มต้นที่ 22,900 บาท) คอกีฬามักคุ้นเคยกับ การ์มินกันอยู่แล้ว จากจุดเด่นเรื่องฟีเจอร์ฟังก์ชั่นที่จัดเต็มสำหรับนักกีฬา ซึ่งราคาก็แรงตามไปด้วย แต่สำหรับรุ่นนี้เด่นทั้งดีไซน์ และเทคโนโลยี เพราะ “การ์มิน”ตั้งใจขยายกลุ่มมายังคนรักสุขภาพที่ชื่นชอบแฟชั่นกับเขาด้วย

โดยมาพร้อมนวัตกรรม Solar Charge (เฉพาะ Fenix 6X Pro Solar) ชาร์จแบตเตอรี่ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อเพิ่มระยะเวลาการใช้งานให้นานขึ้น มีแบตเตอรี่ที่อึดขึ้น ใช้ได้สูงสุดถึง 60 ชั่วโมง ในโหมด GPS (Fenix 6X) และจัดการการใช้แบตเตอรี่ด้วยการเปิด-ปิดฟังก์ชั่นในเครื่องได้ระหว่างการใช้งาน

ยังคงมี App กีฬาหลากหลาย ทั้ง Outdoor และ Indoor พร้อมแผนที่และฟังก์ชั่นการนำทาง รวมถึงฟังก์ชั่นช่วยวิเคราะห์ และประมวลผลการฝึกซ้อม

เรียกได้ว่าเป็นทั้งนาฬิกาสำหรับไลฟ์สไตล์และออกกำลังกายในเรือนเดียว

นายไกรรพ เหลืองอุทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จีไอเอส จำกัด ในกลุ่มบริษัท ซีดีจี (CDG) เปิดเผยว่า การเปิดตัว Fenix 6 Series จีพีเอสมัลติสปอร์ตวอทช์รุ่นใหม่ที่มีดีไซน์และขนาดให้เลือกหลากหลายก็เพื่อขยายไลน์สินค้าจากสปอร์ตสู่ความเป็นไลฟ์สไตล์ ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 30 ของการ์มิน

“ตลาดมีการแข่งขันดุเดือดจากเทรนด์สุขภาพที่โตอย่างต่อเนื่อง นอกจากการเป็นผู้นำจีพีเอสมัลติสปอร์ตวอทช์ในกลุ่มนักวิ่งแล้ว การ์มินยังต้องการขยายตลาดไปสู่กลุ่มไลฟ์สไตล์มากขึ้น เป็นสมาร์ทวอทช์สำหรับแอคทีฟไลฟ์สไตล์ที่ไม่ใช่แค่นักกีฬา ไม่ว่าใคร ๆ ก็ใส่ได้ เข้าได้กับทุกไลฟ์สไตล์ โดยเริ่มทยอยเปิดตัวไปบ้างแล้ว เช่น Fenix series สำหรับสายผจญภัยในลุคเท่ห์ ๆ, vivo series สำหรับสายแอคทีฟไลฟ์สไตล์ มีรุ่น Instinct ที่แรงมากเมื่อต้นปี ตามด้วยรุ่น MARQ ที่มีสไตล์และฟังก์ชั่นสะท้อนความหรูหรา เจาะกลุ่มลักซ์ชัวรี่ สำหรับกีฬาหรือกิจกรรมที่เฉพาะกลุ่ม”

นายไกรรพ เหลืองอุทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จีไอเอส จำกัด

สำหรับเทรนด์สุขภาพที่มีผลผลักดันให้ตลาดสมาร์ทวอทช์เติบโตถึง 100% ประกอบด้วย  1.เทรนด์รักสุขภาพ 2.เทรนด์การออกกำลังกายแบบเสมือนจริง (Virtual Run) ที่มีมากขึ้น โดยผู้เข้าร่วมต้องใช้สมาร์ทวอทช์เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ในการเก็บระยะ 3.เทรนด์สังคมการออกกำลังกายที่หลายคนใช้งานวิ่งหรือกิจกรรมการออกกำลังกายเป็นการเข้าสังคมเพื่อพบเจอกัน 4.เทรนด์แฟชั่นอุปกรณ์กีฬา เช่น พวกเสื้อผ้า และรองเท้าทำให้การออกกำลังกายน่าสนใจมากขึ้น และเข้าถึงคนหมู่มากทำให้การ์มินออกแบบนาฬิกาให้เข้ากับสไตล์การแต่งตัวของผู้ใช้มากขึ้น และ 5.เทรนด์กลุ่มคนที่มีอิทธิพลต่อความคิด เช่น โครงการก้าวคนละก้าวของตูน บอดี้แสลม หรือจำนวนเพจที่เกี่ยวกับสุขภาพที่มีมากขึ้นทำให้คนที่ติดตามหรือชื่นชอบหันมาออกกำลังกายตามกลุ่มคนนั้น ๆ

นายไกรภาพกล่าวว่า เทรนด์คนรักสุขภาพผลักดันตลาดสมาร์ทวอทช์โตพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้การ์มินเติบโตขึ้นกว่า 100% ในปีที่ผ่านมา และคาดว่าปีนี้จะโตเกิน 30% โดยรุ่นที่ขายดีที่สุดจะอยู่ในระดับราคา 10,000–20,000 บาท เป็นกลุ่มสินค้าระดับกลางถึงบน

หันมาดูแบรนด์มือถือที่กระโดดเข้าสู่สมรภูมิสมาร์ทว็อทช์กันบ้าง นั่นก็คือ “ออเนอร์” กับ HONOR Band 5 เทียบกับการ์มินแล้วต้องถือว่าคนละโลกกันเลยทีเดียว ในแง่ราคา เพราะออเนอร์มาแบบราคาเบาๆ เพียง 1,190 บาท

มาพร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ AMOLED Full Colour ขนาด 0.95 นิ้ว แม้ราคาไม่แรงแต่มีฟังก์ชั่นตั้งแต่ระบบตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ 24 ชั่วโมง ประมวลผลด้วยเทคโนโลยีการวัดอัตราการเต้นหัวใจรุ่นล่าสุด HUAWEI TruSeen 3.0 วัด และวิเคราะห์อัตราการเต้นของหัวใจได้ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง (ข้อมูลเป็นค่าประมาณเบื้องต้น ไม่สามารถนำมาใช้ทางการแพทย์ได้) จึงช่วยให้ผู้ใช้งานตรวจเช็คสุขภาพและการออกกำลังกาย

มีเทคโนโลยี TruSleep ช่วยบันทึกการนอนระหว่างช่วงการหลับตื้น หลับลึก และหลับ REM (ช่วงการหลับที่ดวงตามีการเคลื่อนไหวได้อัตโนมัติ) รองรับโดยเทคโนโลยี Huawei AI ได้รับการรับรองจากศูนย์ Biomarkers Dynamical ที่ Harvard Medical School จึงระบุ 6 ความผิดปกติของการนอนหลับได้แม่นยำ

แถมกันน้ำลึก 50 เมตร และบันทึกจำนวนแขน (Stroke), ความเร็ว, ระยะทาง รอบเวลา, การเผาผลาญแคลอรี่ และค่าเฉลี่ย SWOLF สำหรับการว่ายน้ำหลากหลายสไตล์ เพื่อช่วยให้วัดประเมินผลการฝึกซ้อมและพัฒนาเทคนิคการว่ายน้ำได้มากที่สุด

“จอร์จ จ้าว”ประธาน บริษัท ออเนอร์ กล่าวว่า ลูกค้าออเนอร์ชอบอุปกรณ์สวมใส่ที่ไม่เพียงช่วยให้การดำรงชีวิตง่ายดายขึ้น แต่ต้องถ่ายทอดสไตล์และตัวตนของพวกเขาออกมาอย่างเด่นชัด และHONOR Band 5 ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว ซึ่ง HONOR Band 5 ติดอันดับสินค้าขายดีใน Flipkart ที่ประเทศอินเดีย โดยจำหน่ายหมดภายใน 5 วัน หลังจากเปิดตัว

ปิดท้ายด้วย “ฟิตบิท” (Fitbit) ในรุ่น Versa2 (ราคา 7,990 บาท) มีอุปกรณ์เสริมราคาตั้งแต่ 960 บาท ถึง 3,200 บาท มี Special Edition สี Navy และ Pink กรอบอลูมิเนียมสี Copper Rose และสี Smoke กรอบสี Mist Grey ราคา 8,990 บาท

รุ่นนี้มีจุดเด่นที่ระบบสั่งงานได้จากเสียง มีไมโครโฟนในตัวเครื่อง และมาพร้อม Fitbit Pay เชื่อมโยงกับแอปพลิชั่นเพลง Spotify และกันน้ำได้ลึก 50 เมตร

เป็นรุ่นที่ต่อยอดไลน์สินค้าสมาร์ทวอทช์ ตระกูล Fitbit Versa ฟีเจอร์ใหม่โฟกัสเรื่องการแก้ไขและพัฒนาการนอนให้ดีขึ้น  เช่น Sleep Score ให้ดูคะแนนด้านการนอนหลับในแอปพลิเคชั่นเพื่อตรวจสอบข้อมูลด้านคุณภาพการนอน โดยคะแนนเหล่านี้มาจากการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ (ระดับการพักผ่อนและนอนหลับ) ความกระสับกระส่ายในช่วงเวลานอน เวลาที่ตื่น และระดับการนอนหลับ หรือ Sleep Stage

มีฟีเจอร์ Smart Wake ช่วยปลุกให้ตื่นเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เมื่ออยู่ในช่วง Light หรือ REM ของการนอนหลับ โดยจะปลุกจากการตั้งค่าและเว้นช่วงครั้งละ 30 นาที เพื่อให้ผู้ใช้ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นได้ รวมถึง ฟีเจอร์ Estimated Oxygen Variation Graph กราฟแสดงผลที่ช่วยให้ผู้ใช้เห็นระดับอ็อกซิเจนในเลือด (วัดด้วยเซ็นเซอร์เรดและอินฟราเรดด้านหลังเครื่อง) ซึ่งการรู้ค่าอ็อกซิเจนในเลือดในระยะสั้นจะช่วยให้เข้าใจเรื่องการหายใจขณะนอนหลับมากขึ้น

ผู้บริหาร Fitbit

ไม่ใช่แค่ฮาร์ดแวร์ “ฟิตบิท”มีบริการ Fitbit Premium โดยนำข้อมูลเชิงลึกที่รวบรวมมากกว่า  10 ปี และความเชี่ยวชาญด้านวิชาการและการแพทย์มาใช้ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ได้ขยับร่างกายมากขึ้น นอนหลับสนิทขึ้น และมีโภชนาการที่ดีผ่านโปรแกรมที่เป็นส่วนตัวด้วยฟีเจอร์ประเมินข้อมูลเชิงลึกส่วนบุคคลการ ทั้งด้านการนอนขั้นสูง รายงานด้านสุขภาพ และแนวทางการออกกำลังกายกว่าพันรายการ รวมถึงคำแนะแนวแบบครบวงจร อาทิ แนวทางการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ การสร้างนิสัยสำหรับการนอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ การเพิ่มความแอคทีฟ แนะแนวฝึกฝนการวิ่ง การนับแคลอรี่ เป็นต้น (มีค่าสมาชิก 300 บาทต่อเดือน หรือ 2,500 บาทต่อปี)