เผยโฉม ‘ทรู ไอคอน ฮอลล์’ ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ หวังดึงอีเวนท์ระดับโลกสู่ไทย (คลิป)

นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า “ทรู ไอคอน ฮอลล์” เป็นศูนย์การประชุมและการจัดแสดงงาน และความบันเทิงต่าง ๆ โดยเป็นการร่วมทุนระหว่างไอคอนสยามกับทรู คอร์ปอเรชั่น มีมูลค่าการลงทุน 2,000 ล้านบาท มีพื้นที่ 12,000 ตารางเมตร ครอบคลุมพื้นที่ชั้น 7 และชั้น 8 ของโครงการไอคอนสยาม มีความจุ 2,700 ที่นั่ง

ภายในฮอลล์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างยืดหยุ่นและสะดวกรวดเร็ว มีระบบจัด และปรับเปลี่ยนแถวที่นั่งได้โดยอัตโนมัติ มีระบบหลอดไฟ LED ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของไฟ เพื่อปรับความสว่างของเวทีอย่างเหมาะสมตามลักษณะการใช้สถานที่ในการจัดงาน หรือการแสดงสด และนอกจากฮอลล์ขนาดใหญ่จำนวน 3 ฮอลล์แล้ว ทรู ไอคอน ฮอลล์ ยังมีห้องประชุมอีก 14 ห้อง ขนาดตั้งแต่ 26 ตารางเมตรไปจนถึงเกือบ 400 ตารางเมตร ซึ่งสามารถรองรับคนได้อีก 950 ที่นั่ง

“การเปิดทรู ไอคอน ฮอลล์ จะเป็นตัวขับเคลื่อนที่ทรงพลังตัวใหม่ ที่มาช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมไมซ์ (Meetings, Incentives, Conventions & Exhibitions: MICE) ของไทยให้เติบโต รวมทั้งช่วยกระตุ้นการพัฒนาพื้นที่ฝั่งธนบุรีด้วย นอกจากนั้น ยังช่วยให้โรงแรมระดับ 4-5 ดาวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามีอัตราการเข้าพักสูงขึ้น ตอกย้ำความเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกแห่งใหม่ของแม่น้ำเจ้าพระยาได้เป็นอย่างดี”

นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านคอนเทนต์และมีเดีย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มทรู เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ที่มีความเข้าใจและเชี่ยวชาญในการนำเทคโนโลยีสื่อสารมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษ อันจะทำให้ทรู ไอคอน ฮอลล์ แห่งนี้ เป็นไอคอนที่แท้จริงของการสร้างประสบการณ์ สร้างความสุขจากการได้เข้ามาเยือน

ทั้งนี้ กลุ่มทรู ได้ นำนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้าเชื่อมโยงเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้มาใช้บริการได้รับความสุขและประสบการณ์ที่ประทับใจ ทั้งระบบสื่อสารในรูปแบบไฟเบอร์ออพติก เน็ตเวิร์คไร้สายทรูมูฟ เอช ทั้ง 4G+ ที่พร้อมรองรับเทคโนโลยี 5G และ WiFi เทียบชั้นมาตรฐานโลก ซึ่งสามารถเชื่อมต่อการสื่อสารทั้งในระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ ตลอดจนการติดต่อสื่อสารทั้งภายในและภายนอกได้อย่างราบรื่นต่อเนื่อง รองรับระบบดิจิทัลล้ำสมัยต่างๆ ของผู้ที่มาจัดงานในทุกรูปแบบ

“ทรู ไอคอน ฮอลล์ เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของกลุ่มทรู ที่ได้มีส่วนร่วมกับพันธมิตรชั้นนำอย่างไอคอนสยาม พลิกโฉมรูปแบบของศูนย์ประชุมระดับเวิลด์คลาสให้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ นับว่าเป็นการรวมสิ่งที่ดีที่สุดเข้าด้วยกัน ทั้งสิ่งที่ดีที่สุดในเรื่องของสถานที่และเทคโนโลยี Best of both Worlds”

นายทาลูน เทง หัวหน้าคณะผู้บริหาร ทรู ไอคอน ฮอลล์ กล่าวว่า เป็นครั้งแรกในเอเชียที่เพดานศูนย์ประชุมเป็นแผงหลอดไฟแบบพิกเซล ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนไฟบรรยากาศในห้องประชุมได้อย่างหลากหลาย ให้เหมาะสมกับทุกโอกาส โดยสามารถใช้เพดานไฟเล่นแสงสี สร้างภาพแอนิเมชั่นได้หลากหลาย เพื่อประสบการณ์มัลติมีเดียที่กลมกลืนตื่นตาตื่นใจ ทำให้ผู้ที่อยู่ในห้องรู้สึกตื่นเต้น หรือใช้เป็นการกำกับอารมณ์ร่วมในการจัดคอนเสิร์ตและการประชุม หรือการจัดอีเวนต์ ก็สามารถทำได้

นอกจากนี้ยังมีระบบฉนวนกันเสียงที่ติดตั้งกับผนัง ฝากั้นห้องและเพดาน รวมทั้งผนังกั้นห้องแบบคู่ขนานซึ่งเว้นระยะห่างตรงกลางระหว่าง 2 ผนัง (Double Operable Walls) ทำให้การจัดประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น ต่อเนื่อง ไม่ถูกรบกวน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในห้องข้างๆ ก็ตาม

“ความโดดเด่นที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของทรู ไอคอน ฮอลล์ คือ ตั้งอยู่ในแลนด์มาร์คที่ได้รับการยกย่องระดับโลก มีบรรยากาศล้อมรอบเป็นทัศนียภาพที่สวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ทุกงานที่มาจัดจะได้รับประสบการณ์ที่พิเศษยิ่งขึ้นไปอีก”

ขณะนี้มีงานอีเวนต์สำคัญยืนยันจองใช้บริการทรู ไอคอน ฮอลล์ ในปีหน้าแล้วกว่า 30 งาน และอยู่ในระหว่างการพูดคุยอีกกว่า 100 งาน โดยเป็นงานที่มีผู้เข้าร่วมงานตั้งแต่ 200 คนไปจนถึงเกือบ 3,000 คนต่องาน โดยอีเวนต์สำคัญที่ยืนยันมาจัดงานที่ทรู ไอคอน ฮอลล์ เป็นที่แน่นอนแล้ว

อาทิ Asia-Pacific Society of Cardiology Annual Conference งานประชุมทางการแพทย์ที่สำคัญที่สุดงานหนึ่งของภูมิภาค, มหกรรมเลโก้ “BRICK LIVE Built for LEGO fans” ในวันที่ 14 -17 พฤศจิกายน 2562, การแข่งขัน “E-Sport Game (AOV : Arena of Valor)” กำหนดจัดในช่วงวันที่ 23-24 พฤศจิกายน 2562, การแสดง “มหาอุปรากรสะท้านปฐพี” สุดยอดการแสดง “งิ้ว” จากคณะอุปรากรจีนแต้จิ๋ว เมืองซัวเถา ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงวันที่ 13-16 ธันวาคม 2562, งาน “Word Camp Asia” วันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ 2563 และ งาน “World Congress of the International Union Against Sexually Transmitted Infections” วันที่ 1-4 ธันวาคม 2563