สมรภูมิ สมาร์ทวอชเดือด “การ์มิน” ประกาศตั้งสำนักงานใหม่ในไทย

สมรภูมิสมาร์ทวอชเดือด “การ์มิน” ประกาศตั้งสำนักงานใหม่ในไทย ตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 2564 เป็นต้นไป

รายงานข่าวจากบริษัท การ์มิน (เอเชีย) คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า บริษัทจะขยายธุรกิจในเอเชียเพิ่มขึ้นด้วยการเปิดสำนักงานสาขาใหม่ที่ประเทศไทยในกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 2564 เป็นต้นไป เพื่อการให้บริการที่ครอบคลุมครบวงจร ทั้งสินค้าและบริการต่าง ๆ สำหรับลูกค้าไทย

สำหรับผลิตภัณฑ์การ์มินได้เข้าสู่ประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี 2543 โดยมีสมาร์ทวอทช์รุ่นเรือธงอย่าง Forerunner, fenix ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่สนใจกีฬาและการออกกำลังกาย (ฟิตเนส) รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ล่าสุดอย่าง Venu และ Instinct ที่ออกแบบเพื่อผู้ใช้ที่ชอบกิจกรรมแอ็กทีฟ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นจากผู้บริโภคในตลาดประเทศไทย ตั้งแต่การ์มินก่อตั้งขึ้นในปี 2532 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ลงทุนด้านนวัตกรรม วิจัย และการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

โดยการขยายธุรกิจของการ์มินล่าสุดแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์กับตลาดในประเทศไทย ซึ่งมีประชากร 70 ล้านคน นับเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และมั่นใจว่าการวางโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ และการสนับสนุนจากพันธมิตร โดยเฉพาะจาก บริษัท จีไอเอส จำกัด บริษัทในกลุ่มบริษัทซีดีจี จะช่วยให้บริการเข้าถึงลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถขับเคลื่อนแบรนด์ให้เติบโตเพิ่มขึ้น

ด้านบริษัท จีไอเอส จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายการ์มินในประเทศไทยอย่างเป็นทางการตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นกำลังหลักสำคัญในการขยายและสร้างการเติบโตให้แบรนด์การ์มินในประเทศไทย จากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ และการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องมาตลอดและในอนาคต

จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพ รวมถึงกิจกรรมกลางแจ้งมากขึ้น และยังมีความต้องการในการจัดการด้านสุขภาพของตนเองเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คาดว่าในสิ้นปี 2563 รายได้ของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มกอล์ฟ และการดำน้ำของการ์มินในไทยจะเพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตราการเติบโตถึง 130% ยิ่งไปกว่านั้นสมาร์ทวอช Venu Sq ที่เพิ่งเปิดตัวในไตรมาส 4/2563 ได้รับความนิยมมากส่งผลให้สินค้าในกลุ่มฟิตเนสเติบโตมากกว่า 20% ด้วย

นอกจากนี้ ความต้องการสมาร์ทวอชในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้การขยายตัวของแบรนด์ต้องก้าวสูงขึ้น โดยการ์มินได้ตั้งทีมการตลาด ทีมขาย ทีมบริการลูกค้าและบริการหลังการขาย เพื่อสร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าที่สมบูรณ์แบบทั้งก่อนและหลังการขาย ช่วยอำนวยความสะดวกสูงสุดแก่ผู้บริโภค โดยการ์มินจะมีบริการรับสินค้าถึงหน้าบ้านแบบ door-to-door (D2D) พร้อมบริการหลังการขายสำหรับผลิตภัณฑ์การ์มิน

โดยจะเริ่มบริการในไตรมาสแรกปี 2564 ด้วยร้านค้ากว่า 5,000 แห่ง และร้านขายตรงกว่า 100 แห่งทั่วโลก
ขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญกับนวัตกรรม การวิจัยและพัฒนานับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2543 เพื่อมุ่งผลิตผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยที่สร้างความแตกต่างในชีวิตประจำวัน รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับอากาศยาน การเดินเรือ กิจกรรมกลางแจ้ง ผลิตภัณฑ์ออกกำลังกาย (ฟิตเนส) และยานยนต์