วัคซีนพาสปอร์ต ชีวิตง่ายขึ้นหรือยุ่งกว่าเดิม ?

ไกด์ไลน์หลังฉีดวัคซีน
ภาพโดย Ri Butov จาก Pixabay
คอลัมน์ TechTimes
มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ

หลังจากรู้ว่ามีการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิดได้สำเร็จ หลายคนฝันถึงวันได้ออกไปท่องโลกอีกครั้ง แต่นอกจากพาสปอร์ตปกติที่ต้องพกติดตัวแล้ว ไม่แน่ว่าเราอาจต้องพก “วัคซีนพาสปอร์ต” เพื่อยืนยันว่าได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้วด้วย

ตอนนี้มีบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งเริ่มพัฒนา Vaccine Passport แอปพลิเคชั่นที่ให้อัพโหลดผลตรวจโควิดและใบรับรองการฉีดวัคซีนเก็บไว้บนสมาร์ทโฟน เมื่อต้องใช้แสดงตนก่อนผ่านเข้าประเทศหรือเข้าสถานที่อื่นใดที่มีการคุมเข้มเรื่องโควิดก็แค่เปิดแอปและโชว์ QR code ให้สแกนได้ทันที

เช่น แอปของ digital health pass ของ IBM ที่กำลังพัฒนาให้ลูกค้าองค์กรและเจ้าของสถานประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นห้าง โรงหนัง โรงเรียน หรือโรงแรม กำหนดประเภทเอกสารเกี่ยวกับสุขภาพที่ผู้มาเยือนจำเป็นต้องใช้ โดยผู้ใช้โหลดเอกสารเก็บใน mobile wallet

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ “The Common Trust Network” เป็นความร่วมมือระหว่าง The Commons Project (เอ็นจีโอในเจนีวา) The World Economic Forum และสายการบินระดับโลกหลายแห่ง เช่น Cathay Pacific, JetBlue, Lufthansa, Swiss Airlines เป็นต้น

พัฒนาแอป “CommonPass” ให้ผู้ใช้อัพโหลดผลการเทสต์โควิดรวมทั้งใบรับรองการฉีดวัคซีนไว้ในรูปแบบของ QR code และกำลังร่วมมือกับบริษัทไฮเทค อย่าง Microsoft, Oracle Salesforce Cerner Epic และ Cigna ในการกำหนดมาตรฐานประเภทไฟล์ที่ใช้เก็บประวัติการฉีดวัคซีนอย่างปลอดภัย

ล่าสุดเมืองลอสแองเจลีสนำร่องเปิดให้คนที่ได้รับวัคซีนโควิดแล้วเลือกรับบัตรรับรองการฉีด (CDC card)ผ่านลิงก์เพื่อดาวน์โหลดเก็บไว้ใน Apple Wallet/Google Wallet หรือเลือกโหลดเป็น PDF ไฟล์แทนพกบัตรกระดาษเพื่อที่ใช้เป็นบัตรผ่านเข้าสถานที่ต่าง ๆ

ความพยายามที่จะเอาประวัติการฉีดวัคซีนโควิดมาไว้บนระบบดิจิทัล มาในจังหวะที่อเมริกาทยอยฉีดวัคซีนโควิดลอตแรกกว่า 30.6 ล้านโดส ซึ่งหวังกันว่าเมื่อได้รับวัคซีนเรียบร้อยผู้คนจะกลับไปทำมาหากินได้เหมือนเดิม

ปัญหาคือ ทุกแอปและทุกระบบที่กล่าวมานี้เป็นการพัฒนาแบบตัวใครตัวมัน ไม่มีตัวกลางกำหนดมาตรฐานว่า “วัคซีนพาสปอร์ต” หรือ “วัคซีนพาส” ต้องประกอบด้วยข้อมูลอะไรบ้าง มีกฎหมายอะไรรองรับ มีมาตรการรักษาความปลอดภัยและมาตรฐานด้านจรรยาบรรณในการรักษาความลับของผู้ใช้อย่างไร และใครรับรองความถูกต้องของข้อมูลบนหน้าบัตร

แม้กระทั่ง FDA ของสหรัฐก็ยังไม่มีการอนุมัติหรือรับรองบริษัทไหนเป็นทางการหรือองค์การอนามัยโลกที่เพิ่งประชุมเรื่องนี้ไปก็ยังไม่มีข้อสรุป

แต่สำหรับอุตสาหกรรมที่หายใจรวยรินใกล้ตายอย่างสายการบิน หากมัวรอคงล้มละลายกันก่อนแน่จึงต้องหาทางนำระบบดิจิทัลมาใช้ เช่น Emirates ที่ใช้แอป travel pass ของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) สกรีนผู้โดยสารว่ามีการเทสต์โควิดก่อนบินออกจากดูไบ และในอนาคตอาจรวมประวัติการฉีดวัคซีนไว้ด้วย

ความพยายามดิ้นรนของหลายอุตสาหกรรมเพื่อกลับสู่ชีวิตปกติให้เร็วที่สุด และหลายโครงการก็ทำไปด้วยเจตนาที่ดี แต่มีเสียงติงมาว่าบรรดาแอปที่พัฒนาออกมาเป็นแค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยปราศจากการวางแผนอย่างเป็นระบบในระยะยาว ซึ่งการมีแอปที่หลากหลายทำให้โอกาสที่จะรวมทุกแอปไว้บนมาตรฐานเดียวกัน

เป็นเรื่องซับซ้อนและคงไม่เกิดขึ้นได้เร็ว ๆ นี้ อย่างน้อยก็ในอเมริกาที่ต้องโหลดหลายแอปเพื่อใช้ในสถานที่ต่าง ๆ ทำให้กลายเป็นคำถามว่า การมี “วัคซีนพาสปอร์ต” ที่ไม่ซิงก์กัน ไม่อยู่บนมาตรฐานเดียวกันจะทำให้ชีวิตง่ายขึ้นจริงหรือ