อยุธยาฯ เร่งยกพนังกั้นน้ำ ป้องกันน้ำท่วมเกาะเมืองแหล่งเศรษฐกิจ

อยุธยาฯ เร่งยกพนังกั้นน้ำ

เทศบาลนครกรุงเก่า จ.อยุธยา ร่วมกับกำลังทหารเร่งยกพนังกั้นน้ำ หน้าเจดีย์พระศรีสุริโยทัย พร้อมปั้นคันดินป้องกันน้ำท่วมเกาะเมืองแหล่งเศรษฐกิจ หลังเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มขึ้นสูง

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 ว่าที่ร้อยตรีสมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลพระนครศรีอยุธยา มอบหมายให้ ด.ต.สุรินทร์ ผดุงเพียร นายกฤษณ์ เถี่ยนมิตรภาพ พ.อ.อ.สุวัฒน์ สรรพโกศลกุล รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา นายวิทยา เขียวรอด นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจาก ศบภ. 5 รอ. โดย ม. 4 พัน 11 รอ.

ร่วมกับศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มทบ. 18 จำนวน 50 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ยกพนังกั้นน้ำเพื่อเตรียมป้องกันน้ำเข้าเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ที่บริเวณหน้าเจดีย์พระศรีสุริโยทัย ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา สูง 1.50 เมตร ตลอดความยาว 315 เมตร เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล้นเริ่มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพื่อรักษาพื้นที่เกาะเมืองไม่ให้น้ำล้นตลิ่งเข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจและโบราณสถานสำคัญ 650 เมตร

โดยส่วนที่ไม่สามารถยกผนังกั้นน้ำได้ ทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาจะดำเนินการปั่นคันดิน สูง 1.30 เมตร เพื่อให้สามารถป้องกันน้ำได้ครบ 650 เมตร และทางเทศบาลได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังทุกประตูระบายน้ำ และหากเกิดภาวะฉุกเฉินจะมีหน่วยเคลื่อนที่เร็ว รวมถึงเตรียมเครื่องสูบน้ำที่สามารถดำเนินการติดตั้งได้ทันที

นอกจากนี้ ทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับพระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดศาลาปูนวรวิหาร จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (อุทกภัย) เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา วัดศาลาปูนวรวิหาร ขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมอีกด้วย

สำหรับเขตรับผิดชอบเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 455 หลังคาเรือน เทศบาลจะเร่งดำเนินการช่วยเหลือโดยด่วน พร้อมทั้งวางระบบการแจกจ่ายเรือและสะพานไม้ในพื้นที่ต่ำของเกาะเมือง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้เร็วที่สุด

ด้านชลประทานมีการรายงาน ปรับเพิ่มปริมาณการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา รองรับฝนตกหนักช่วง 3-8 ก.ย.นี้ โดยล่าสุดบริเวณจุดวัดน้ำ C2 ค่ายจิระประวัติ มีปริมาณน้ำอยู่ที่ประมาณ 1,800-1,900 ลูกบาศก์เมตร โดยจะระบายออกผ่านเขื่อนเจ้าพระยาทางตรงประมาณ 1,800 ลูกบาศ์เมตรต่อวินาทีตลอดสัปดาห์นี้

ส่วนบริเวณด้านซ้ายและขวาของเขื่อนระบายน้ำได้เพียง 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจากมีฝนตกช่วงตอนกลางกรุงเทพมหานคร ชัยนาท สุพรรณบุรี และนครปฐม จึงทำให้น้ำในอำเภอสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เกิดท่วมขัง ต้องเร่งระบายออกทางแม่น้ำท่าจีน โดยติดตั้งเครื่องพลังน้ำบริเวณจังหวัดนครปฐม 5 จุด เพื่อระบายออกอ่าวไทย

สำหรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จะส่งผลให้น้ำคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และพื้นที่นอกคันน้ำของจังหวัดปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร ในพื้นที่ลุ่มต่ำมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ในระยะนี้อย่างใกล้ชิด