“ล้อพูนผลไรซ์มิลล์” ผู้ผลิตข้าวถุง แบรนด์ “บัวชมพู” จ.นครสวรรค์ เตรียมทุ่มงบฯเฉียด 2,000 ล้านบาท ลงทุน 5 โครงการใหญ่ เล็งตั้ง “นิคมอุตสาหกรรมเกษตรแบบสมาร์ท” ครบวงจรแห่งแรกในไทย-ตั้งโรงผลิตและวิจัยน้ำมันกัญชา-โรงสกัดน้ำมันรำข้าวดิบกำลังการผลิต 600 ตัน/วัน-โรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 20 เมกะวัตต์-โรงกลั่นน้ำมันบริสุทธ์ ต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ในช่วง 8 ปี หวังยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมสินค้าเกษตรไทยสู่สากล
นายถวิล ล้อพูนผล ประธาน บริษัท ล้อพูนผลไรซ์มิลล์ จำกัด จ.นครสวรรค์ ผู้ดำเนินธุรกิจโรงสีข้าว ผลิตแปรรูป และจัดจำหน่ายข้าวสารครบวงจร กว่า 18 ปี ภายใต้แบรนด์ “บัวชมพู”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
เปิดเผยว่า ปี 2565 คาดว่าผลิตภัณฑ์ข้าวสาร แบรนด์ “บัวชมพู” มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากปี 2564 ที่มียอดจำหน่ายกว่า 1,700 ล้านบาท หลังจากบริษัทใช้งบฯลงทุนกว่า 350 ล้านบาท ในการใช้เทคโนโลยีการผลิตข้าวที่ทันสมัย รวมถึงการใช้ระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยในกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน
เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน Food Grade ในระดับสากล สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก มีถังไซโลที่ควบคุมอุณหภูมิเพื่อรักษาคุณภาพของข้าว รวมถึงนำระบบ ERP มาใช้ในการบริหารจัดการ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต มีการทำตลาด
โดยสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภค และบริหารสินค้าคงคลัง ทำให้สามารถกระจายสินค้าข้าวถุงไปทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกช่องทาง ทั้งนี้ ปัจจุบันมีวางจำหน่ายที่ห้างแม็คโคร บิ๊กซี กูร์เมต์ มาร์เก็ต และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
“บริษัทก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2547 ที่ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการผลิตข้าวให้ได้มาตรฐานและมีคุณภาพระดับสากล รวมถึงการวิจัยและพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์จากข้าว สร้างมูลค่าเพิ่มและประโยชน์เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภคมาโดยตลอด
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ข้าวสารหอมมะลิบัวชมพู ได้รับรางวัลระดับโลก Superior Taste Award 2021 จาก International Taste Institute ที่ได้รับการโหวตจากเชฟร้านอาหารติดดาวมิชลินกว่า 20 ประเทศในยุโรป รางวัลชนะเลิศ ประเภทข้าวพื้นแข็ง ปี 2564 จากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และเคยได้รับรางวัลชนะเลิศ World’s Best Rice 2016”
นายถวิลกล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนการขยายธุรกิจและลงทุนต่อเนื่องระยะยาวในหลายโครงการ ตอนนี้อยู่ระหว่างเตรียมจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเกษตรแบบสมาร์ทแห่งแรกของประเทศไทย บนพื้นที่ 650 ไร่ ที่จังหวัดนครสวรรค์
มุ่งพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรแปรรูปอย่างครบวงจรด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรของไทย นอกจากนี้ เตรียมลงทุนตั้งโรงผลิตและวิจัยน้ำมันกัญชา โรงสกัดน้ำมันรำข้าวดิบ ที่มีกำลังการผลิต 600 ตัน/วัน ด้วยงบฯลงทุนประมาณ 800 ล้านบาท การตั้งโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 20 เมกะวัตต์ และโรงกลั่นน้ำมันบริสุทธ์ ที่จะใช้งบฯลงทุนอีก 1,000 ล้านบาท
ซึ่งจะเป็นแผนลงทุนต่อเนื่องในช่วง 8 ปีข้างหน้า หรือภายในปี พ.ศ. 2573 (ค.ศ. 2030) จากที่ก่อนหน้านี้ในปี 2564 ได้ลงทุนตั้งโรงงานผลิตน้ำมันรำข้าว ภายใต้บริษัท แอลพีพี ไรซ์ บราน ออยล์ จำกัด มีกำลังการผลิต 300 ตัน/วัน และเริ่มส่งออกไปญี่ปุ่นในปีนี้
“บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรในประเทศไทย โดยเฉพาะการผลิตข้าวซึ่งเป็นสินค้าทางการเกษตรที่สำคัญของไทย ให้มีคุณภาพและได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมถึงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปต่อยอดผลิตภัณฑ์จากข้าว
เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างรายได้ให้เกษตรกรไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยพัฒนาให้มีคุณภาพและสามารถแข่งขันได้ในตลาดต่างประเทศ ตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการเป็นครัวของโลก ที่มีความมั่นคงด้านอาหารและความปลอดภัยสูง” นายถวิลกล่าว