“บุศรินฟู้ดส์” มิชลิน 5 ปีซ้อน รุกทำ OEM-อาหารเหนือแช่แข็ง

Busarin Foods

การทำธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับรางวัลมิชลิน (MICHELIN) การันตีต่อเนื่องถึง 5 ปีซ้อน (ปี 2020-2024) ของร้านอาหารแมกโนเลีย คาเฟ่ (Magnolia Cafe) ซึ่งตั้งอยู่บนถนนรัตนโกสินทร์ ตำบลป่าตัน อำเภอเมืองเชียงใหม่ ถือว่าฝีมือไม่ธรรมดา และวันนี้กำลังแตกไลน์ขยายธุรกิจ “ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์ “นางบุศริน ลาภอดิศร” เจ้าของและผู้บริหาร ร้านอาหารแมกโนเลีย คาเฟ่ (Magnolia Cafe) และร้านอาหาร Busarin Cuisine

ร้านอาหารมิชลิน 5 ปีซ้อน

เริ่มต้นทำธุรกิจร้านอาหารแมกโนเลีย คาเฟ่ ประมาณปี 2554 เป็นร้านอาหารไทยในแบบฉบับของตัวเองที่มีความถนัดและเชี่ยวชาญ ปรุงตามตำรับของครอบครัว โดยเป็นเชฟเอง ทำเอง ปรุงเองทุกจาน มีเมนูที่เสิร์ฟให้กับลูกค้าราว 50 เมนู ซึ่งทุกเมนูได้ครีเอตขึ้นมาเองและเป็นสูตรเฉพาะของทางร้านเท่านั้น โดยได้รับรางวัลมิชลิน (MICHELIN) ต่อเนื่อง 5 ปี (ปี 2020-2024)

สำหรับเมนูที่เป็น Signature มีด้วยกันหลายเมนูที่ลูกค้านิยมสั่ง อาทิ ยำปลาสลิดมะม่วงสุก ใช้ปลาสลิดที่สั่งตรงมาจากจังหวัดสิงห์บุรี เมนูปลาแซลมอนแห้งแตงโม ที่ใช้เวลาถึง 3 วันในการทำปลาป่นด้วยการอบและคั่วปลาแซลมอนเอง

Busarin Foods

ส่วนอาหารทะเลที่นำมาทำเมนูของทางร้าน ได้สั่งวัตถุดิบตรงมาจากประมงพื้นบ้านจังหวัดตราดและจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมถึงเครื่องปรุงอย่างกะปิ ใช้กะปิคลองโคน ที่สั่งตรงมาจากจังหวัดสมุทรสงคราม น้ำตาลโตนดแท้ 100% จากเมืองเพชรบุรีและจังหวัดชัยนาท น้ำปลาแท้ 100% จากจังหวัดตราด ซึ่งเป็นวัตถุดิบพื้นเมืองจากภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่นและถือเป็นการสนับสนุนให้เกิดรายได้สู่ชุมชน

Advertisment

ร้าน Magnolia Cafe สามารถรองรับลูกค้าได้สูงสุด 80 ที่นั่ง กลุ่มลูกค้าหลักเป็นคนในพื้นที่เชียงใหม่ 30% และอีก 70% เป็นกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวคนไทยจากกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ (มาเลเซีย ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง และเกาหลี)

รุกอาหารแช่แข็งพร้อมกิน

นางบุศรินบอกว่า สำหรับร้าน Busarin Cuisine เป็นร้านอาหารในเครือ Magnolia Cafe เริ่มเปิดให้บริการเมื่อปี 2565 (ช่วงโควิด) เป็นการแตกไลน์ธุรกิจอาหารอีก Segment หนึ่ง ที่เน้นจุดขายคือ “แกง” รับประทานคู่กับ “ขนมจีนและโรตี” โดยมีเมนูแกงเพียง 11 อย่างเท่านั้น โดย Busarin Cuisine ได้รับรางวัลจากมิชลิน (MICHELIN) ต่อเนื่อง 2 ปี (ปี 2023-2024)

บุศริน ลาภอดิศ
บุศริน ลาภอดิศ

นอกจากนี้ ในช่วงโควิด 3-4 ปีที่ผ่านมา ได้แตกไลน์ธุรกิจอาหารเหนือแช่แข็ง (Frozen Food) พร้อมรับประทาน (Ready to Eat) อีก 1 Segment ภายใต้แบรนด์ “Busarin Foods” โดยขายผ่านช่องทางออนไลน์ มีกลุ่มลูกค้าหลักอยู่ในกรุงเทพฯ ทั้งลูกค้ากลุ่มร้านอาหารและลูกค้า Private ซึ่งได้นำเมนูดั้งเดิมที่ปรุงตามตำรับของครอบครัว เพื่อส่งต่อความอร่อยให้กับคนกรุงเทพฯ ที่ชื่นชอบอาหารเหนือ หรือคนเหนือที่ไปทำงานในกรุงเทพฯ ที่อยากรับประทานอาหารเหนือรสชาติดั้งเดิมแต่หาได้ค่อนข้างยาก

ปัจจุบันมีเมนูอาหารราว 30 เมนู โดยเฉพาะเมนูตามฤดูกาลที่เป็นเมนูยอดนิยม อาทิ เห็ดถอบ ไข่มดแดง ผักหวาน หน่อไม้ น้ำปู๋ ที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นภาคเหนือ โดยเมนูอาหารทั้ง 30 เมนู ได้มาตรฐาน อย.ทุกเมนู

Advertisment

“ปีนี้เราผลิตเมนูอาหารเหนือแช่แข็งพร้อมรับประทานเพิ่มอีก 1 เมนูคือ ‘ข้าวกั้นจิ๊น หรือข้าวเงี้ยว’ เป็นข้าวสวยคลุกเคล้าเลือดหมูสด ผสมหมูสับ ปรุงรสชาติตามตำรับดั้งเดิมของครอบครัวที่เป็นสูตรเฉพาะ ห่อด้วยใบตองแล้วนำไปนึ่ง รับประทานกับน้ำมันกระเทียมเจียว หอมแดง แตงกวา และพริกทอด”

Busarin Foods

โดย “ข้าวกั้นจิ๊น” ของร้าน Busarin Foods เพียงแค่นำไปอุ่นให้ร้อนสามารถรับประทานได้ทันที ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการขอ “อย.” จากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งเมนู Signature ที่ขายดี นอกจากนี้ เตรียมผลิตเมนูใหม่เพิ่มเติมอีก 2 เมนูต่อจากข้าวกั้นจิ๊น คือ ยำหน่อไม้ใส่น้ำปู๋ และข้าวเหนียวนึ่งแช่แข็ง

ทั้งนี้ ตลอด 3-4 ปี ของ Busarin Foods ที่เข้าสู่ไลน์ธุรกิจอาหารเหนือแช่แข็งพร้อมรับประทาน พบว่าดีมานด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งลูกค้ากลุ่มร้านอาหารและลูกค้า Private ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 30% ต่อปี ซึ่งมองว่าทิศทางของธุรกิจนี้ยังเติบโตได้อีกมาก เพราะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดีที่เน้นความสะดวก รวดเร็ว

โดย Busarin Foods มีจุดขายที่แตกต่าง ด้วยการใช้วัตถุดิบสดใหม่ในท้องถิ่น การปรุงรสชาติที่เป็นสูตรเฉพาะ ใช้กระบวนการแช่แข็งด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้มาตรฐานตามหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งคงรสชาติอาหารและวัตถุดิบให้ยังสดใหม่

ทำ OEM อาหารเหนือ

ขณะเดียวกันภายในปีนี้ ได้เตรียมขยายไลน์ธุรกิจเพิ่มอีก 1 Segment คือ รับจ้างผลิตอาหารเหนือแบบ OEM ป้อนร้านอาหารในเชียงใหม่ ซึ่งเริ่มต้นจาก 1 ร้านก่อน โดยดีไซน์อาหารให้และปรุงอาหารให้ทั้งหมดจากครัวของ “บุศริน” (Busarin Foods) ซึ่งร้านอาหารเพียงนำไปอุ่นและเสิร์ฟขึ้นโต๊ะให้กับลูกค้าเท่านั้น นอกจากนี้ ได้เตรียมแผนเปิดคลาสสอนทำอาหารไทย (Private Cooking Class) ที่บ้านย่านอำเภอแม่ริม

ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างห้องครัวใหม่และปรับปรุงสถานที่ คาดว่าจะเริ่มเปิดสอนได้ราวปลายปีนี้ โดยกลุ่มลูกค้าที่จะมาเรียน อาทิ กลุ่มเชฟ กลุ่มคนที่รักและชอบทำอาหาร และกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิ มาเลเซียและเบลเยียม ที่ให้ความสนใจอยากมาเรียนทำอาหารไทย