“ตรัง” ยิ้มรับเป็นเดสติเนชั่น นทท.จีน ชูทะเล-อาหารเชื่อมตลาดท่องเที่ยว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายจรัญ ชื่นในธรรม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเฉิงตู ประเทศจีน ได้เดินทางมาบรรยายพิเศษให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน จ.ตรัง โดยได้กล่าวถึงสถิติปริมาณนักท่องเที่ยวในปี 2560 ที่ผ่านมาว่า มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวไทยกว่า 9.8 ล้านคน และปี 2561 เชื่อมั่นว่านักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามาเที่ยวไทยไม่ต่ำกว่า 12 ล้านคน

นายจรัญ ชื่นในธรรม ผอ.ททท.สำนักงานเฉิงตู ประเทศจีน กล่าวว่า ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจีนนิยมเดินทางมาไทย เพราะคนไทยมีรอยยิ้ม อาหารไทยอร่อย ผลไม้มากมาย ทะเลสวย และค่าใช้จ่ายถูก โดยจากสถิติพบว่านักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวไทย 1,306 เที่ยวบิน/สัปดาห์ แต่ละเดือนมีนักท่องเที่ยวจีนซื้อที่นั่งบนเครื่องบินมาเมืองไทย 2 ล้านที่นั่ง/เดือน นับว่าโชคดีที่ไทยเป็นหนึ่งในเป้าหมายของนักท่องเที่ยวจีน รองจากญี่ปุ่น

“ชาวจีนนิยมมาเที่ยวไทย เฉลี่ยพำนักอยู่ที่ 8 วัน ใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป โดยเฉลี่ยประมาณวันละ 3,000 บาท/คน/วัน โดยมีทั้งมาท่องเที่ยวเป็นกลุ่ม และท่องเที่ยแบบอิสระ (FIT) ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นกว่า 60% โดยแยกเป็นมาไทยครั้งแรก 60% และมาครั้งที่ 2 กว่า 40% โดยแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวจีนนิยม อันดับ 1 คือ พัทยา ภูเก็ต เกาะสมุย และกระบี่ ขณะที่อนาคต คือ ตรัง หากสนามบินพร้อมจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาได้เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการตรังต้องเตรียมความพร้อมไว้เพื่อรองรับ” นายจรัญกล่าว

นางสาวนันทวัน ศิริโภคพัฒน์ ผอ.ททท.สำนักงานจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ททท.ตรัง ได้จัดเชิญเอเย่นต์ท่องเที่ยวจากจีนมาพบปะกับผู้ประกอบการที่ จ.ตรัง อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลพฤติกรรมสถานการณ์การท่องเที่ยว วิธีการรองรับนักท่องเที่ยวตลาดจีน ซึ่งการมาพุดคุยจะทำให้ทราบว่าสามารถรับนักท่องเที่ยวจีนอย่างไรให้เหมาะสม มีกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนประเภทไหนบ้างที่ชอบเข้ามาเที่ยว จ.ตรัง เพื่อไม่ทำให้เกิดความเสียหายในแง่ปริมาณของนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมา

อย่างไรก็ตาม คนจีนยังสนใจชอบเที่ยวทางทะเลของไทย จึงเป็นโอกาสของ จ.ตรัง ที่มีทะเลที่สวย ดังนั้น จ.ตรัง จะต้องจัดขายสินค้าให้นักท่องเที่ยวตรงกลุ่ม ประกอบกับคนจีนนิยมการท่องเที่ยวเกี่ยวกับวัฒนธรรมอาหาร
ซึ่ง จ.ตรัง ก็มีจุดเด่นเรื่องอาหาร และน่าจะเป็นจุดเด่นที่เชื่อมโยงกันได้ แม้ในช่วงนี้เป็นช่วงที่ จ.ตรัง ปิดท่องเที่ยวทางทะเล 4 เกาะ 4 เดือน แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรค เพราะการท่องเที่ยวปัจจุบันมีแนวโน้มเป็นการท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ ซึ่งสามารถดึงนักท่องเที่ยวได้เช่นกัน

ด้านนายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า เคยรับราชการในเมืองท่องเที่ยวมาตลอด ไม่ว่าจะเป็น จ.สุราษฎร์ธานี สงขลา ภูเก็ต พระนครศรีอยุธยา และระยอง ซึ่งเมืองท่องเที่ยวเหล่านี้นักท่องเที่ยวจีนนิยมมาท่องเที่ยว รวมถึง จ.ตรัง แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายว่ายังให้การรองรับทัวร์จีนเข้ามาไม่ได้มากนัก โดยเฉพาะการเดินทางมาโดยการเช่าเหมาลำเครื่องบิน หากสนามบินพัฒนาพร้อมรองรับก็จะมาดูอีกทีว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร แต่ก็อยากให้พิจารณาว่านอกจากจะดูเรื่องปริมาณแล้ว เรื่องของคุณภาพก็ต้องดูเช่นเดียวกัน รวมถึงการพิจารณาเรืองทรัพยากรการท่องเที่ยวด้วย

“ทั้งนี้ ททท.ทราบว่าผมเองมีนโยบายอย่างนี้ คือทำในสิ่งที่เป็นไปได้ การท่องเที่ยวไม่ได้อยู่ที่ต้องเอาคนมาเยอะๆ เอาเงินมาเยอะๆ และถามว่าพฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนจีน ไม่ได้ไปนอนตามโรงแรมเล็กๆ เขาจะนอนโรงแรมใหญ่ จ.ตรัง มีแค่ 2 แห่งเท่านั้น อาจจะมีขนาดกลางแค่ 2-3 โรงแรม ซึ่งมีพื้นที่รองรับที่น้อยมาก นอกนั้นก็เป็นโรงแรมที่มีห้องประมาณ 20-30 ห้อง”

นายศิริพัฒกล่าวอีกว่า ในการสนับสนุนทัวร์จีนนั้นตนเองก็สนับสนุน แต่ต้องดูความพร้อมในฐานะการเป็นเจ้าบ้านที่ดีด้วย ช่วงนี้อยากให้เรามองที่การที่ตรังมีคนจีนอยู่เยอะ ดังนั้นหากเราให้คนเชื้อสายจีนในบ้านเราดึงหรือชักชวนญาติพี่น้องในประเทศจีนมาเที่ยว ตนก็คิดว่าน่าจะเต็มแล้ว แรกๆ ก็อาจจะชวนมาเยี่ยมญาติก่อน แล้วทัวร์จีนค่อยมาว่ากันอีกทีเมื่อเรามีความพร้อม เชื่อว่าตรังจะเป็นที่สนใจของชาวจีนมากขึ้น และการช่วยกันโปรโมตการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ก็จะช่วยขับเคลื่อนการท่องเที่ยวให้มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ