“หอการค้าเชียงใหม่” ชี้เศรษฐกิจโตหลังเลือกตั้ง เผยทุนจีนพาเหรดปักหมุดลงทุนอสังหาฯพันล้าน

หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ แถลงแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2562 คาดไตรมาสแรกจะเร่งตัวโตขึ้น จากความมั่นใจสถานการณ์ทางการเมืองที่จะมีการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่จะส่งผลด้านความมั่นใจทางการเมืองของนักลงทุนและผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ผนวกกับการ กระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงปลายปี และการออกมาตรการด้านภาษีที่ให้เกิดการท่องเที่ยว เผยกลุ่มทุนจีนพาเหรดลงทุนอสังหาฯในเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดปักหมุดโครงการบ้านจัดสรรย่านสนามบินมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท ชี้อนาคตนักท่องเที่ยวเชียงใหม่จะโตถึง 12 ล้านคนในปี 2562

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ว่า วันนี้ (30 มกราคม 2562) หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ แถลงภาวะเศรษฐกิจจังหวัดเชียงใหม่ ไตรมาส 4 ประจำปี 2561 และแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2562 โดยมีนางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการแถลงข่าว พร้อมด้วยนายสมชาย ทองคำคูณ รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ณ ห้องประชุมสำนักงานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่

นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจเชียงใหม่ภาพรวมในปี 2562 จะเร่งตัวขึ้นจากปี 2561 ตามปัจจัยภาพรวมของประเทศที่จะกระตุ้นจากการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นใจทางการเมืองของนักลงทุนและผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ประกอบการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงปลายปีต่อเนื่องมาจนถึงต้นปีก่อนการเลือกตั้ง ทั้งผ่านบัตรสวัสดิการ การออกมาตรการด้านภาษีที่ให้เกิดการท่องเที่ยวเมืองรอง เป็นต้น จะทำให้ประชาชนกลับมาใช้จ่าย ลงทุน และบริโภคจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกตั้งจะนำมาซึ่งการมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ล่าสุด กลุ่มทุนจีนจากกรุงปักกิ่งได้เข้าพบหารือกับทางหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ โดยนักลงทุนกลุ่มนี้ให้ความสนใจลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางการเมืองของไทย และศักยภาพของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งด้านสภาพภูมิประเทศที่เป็นเมืองท่องเที่ยวและเป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจ ทำให้ตัดสินใจเตรียมลงทุนทำโครงการบ้านจัดสรรมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท บริเวณย่านใกล้เคียงกับสนามบินเชียงใหม่ โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือกลุ่มคนจีนที่จะมาลองสเตย์หรือกลุ่มที่ต้องการซื้อบ้านหลังที่ 2 ในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มกำลังซื้อสูงที่มีเป็นจำนวนมาก

นางวิภาวัลย์ กล่าวว่า เศรษฐกิจจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2561 ที่ผ่านมาถือว่ากระเตื้องขึ้นจากปลายไตรมาสที่ 3 และต้นไตรมาสที่ 4 ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนหดตัวลงจากการขาดความเชื่อมั่นความปลอดภัยการท่องเที่ยวในไทย โดยปรับตัวดีขึ้นมากช่วงเทศกาลลอยกระทงและปีใหม่ จากการที่นักท่องเที่ยวจีนกลับมาและนักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ ขยายตัวมาก ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องปรับตัวดีขึ้น แต่การอุปโภคบริโภคโดยรวมไม่เข้มแข็ง กำลังซื้อตลาดชาวบ้านซบเซา การลงทุนภาคเอกชนมีประปรายในบางธุรกิจ และการใช้จ่ายภาครัฐบาลในไตรมาสที่ 4 (ต.ค.-ธ.ค.) ลดลง

อย่างไรก็ตาม คาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ภาคการท่องเที่ยวจะยังคงเป็นกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญ ซึ่งเชียงใหม่จะต้องปรับรูปแบบการท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีนที่ปรับเปลี่ยนจากกรุ๊ปทัวร์มาเป็นการท่องเที่ยวด้วยตัวเอง หรือ FIT สูงขึ้น โดยหอการค้าฯ ได้วิเคราะห์แล้วว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีน และเที่ยวบินไม่ได้ลดลง และในปี 2561 มีมากกว่า 2 ล้านคน สายการบินประจำที่ทำการบินตรงจากเชียงใหม่ไปยังจีนแผ่นดินใหญ่และเขตปกครองพิเศษของจีนอีก 15 สายการบินใน 14 เส้นทาง 36 เที่ยวบิน/วัน หรือเฉลี่ยวันละ 6,000 คน ก็ยังไม่ลดและยังเพิ่มบินตรงไปยังเมืองปักกิ่งเพิ่มขึ้นของแอร์เอเชีย ซึ่งเดิมแอร์เอเซียมีเส้นทางบินตรงระหว่างประเทศไปยัง ฮ่องกง มาเก๊า ฉางซา หางโจว และหนานชาง

แต่ที่น่าสนใจคือนักท่องเที่ยวจีนใช้บริการผ่านบริษัททัวร์ลดลงมาก และนักท่องเที่ยวกลุ่มท่องเที่ยวด้วยตนเองแทน (Free and Independent Traveler : FIT) ส่วนนี้หอการค้าฯ จึงจะได้เสนอให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวปรับตัวด้านสินค้าและบริการที่เชื่อมระบบออนไลน์กับจีนสูงขึ้นรวมถึงการใช้ระบบชำระเงิน
โดยสถิตินักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนเชียงใหม่มีทั้งหมด 10,844,753 คน เป็นคนไทย 7.5 ล้านคน ชาวต่างชาติ 3.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ประมาณ ร้อยละ 4 สามารถสร้างรายได้ให้กับพื้นที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ถึง 108,012 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวไทย 66,362 ล้านบาท และจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 41,650 ล้านบาท

ส่วนแนวโน้มในปีนี้ คาดว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวจากอินเดียก็จะเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนั้นกลุ่มนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางก็จะเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีเที่ยวบินตรงจากกรุงโดฮา ประเทศการ์ต้า จะทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มสหรัฐ สแกนดิเนเวีย และตะวันออกกลางเดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่เพิ่มขึ้น รวมทั้งได้รับผลดากมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrival ด้วย จึงเชื่อมั่นว่าอัตราการขยายตัวของการท่องเที่ยวยังจะขยายตัวสถิตินักท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่มีจำนวน 11-12 ล้านคน จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยว 10% หรือมากกว่า 120,000 ล้านบาท ซึ่งในระยะยาว ในปี 2563 มีการประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นถึง 15-20 ล้านคน ซึ่งเชียงใหม่ในอนาคตเราจำเป็นที่จะต้องกระจายและดึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศในกลุ่มใหม่เพิ่มทั้งจากตะวันออกกกลาง หรือในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!