ทอท.เชียงใหม่ผนึกสนามบินดานัง “เวียดนาม” เชื่อมรูตบินเมืองต่อเมืองปลุกท่องเที่ยวคึกคัก

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ผนึกสนามบินดานัง สนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศเวียดนาม แลกเปลี่ยนการบริหารท่าอากาศยาน เชื่อมรูตบินเมืองต่อเมือง ปลุกท่องเที่ยว 2 ประเทศคึกคัก

ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม-2 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา คณะผู้บริหารและพนักงานท่าอากาศยานเชียงใหม่ พร้อมสื่อมวลชนในจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางไปเยี่ยมชมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบริหารท่าอากาศยาน ในหัวข้อ “การดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์ และการสร้างความสัมพันธ์กับสื่อมวลชน” กับท่าอากาศยานนานาชาติดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมีผู้แทนจากการท่องเที่ยวเวียดนาม และสื่อมวลชนดานังร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย

นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง เป็นสนามบินนานาชาติที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งมีอัตราการเติบโตของผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 25% ต่อปี ถือเป็นการเติบโตที่ค่อนข้างรวดเร็ว โดยในปี 2561 มีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการมากกว่า 13 ล้านคน ซึ่งการเดินทางมาศึกษาดูงานครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือระหว่างท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ และท่าอากาศยานนานาชาติดานัง ที่จะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการบริหารจัดการและการเดินทางของผู้โดยสารระหว่างเมืองต่อเมือง

ปัจจุบันการเดินทางเชื่อมเส้นทางบินเมืองต่อเมืองไม่มีพรมแดน และเวียดนามเป็นประเทศที่กำลังเกิดใหม่ในการเดินทางทางอากาศ เป็นจุดเชื่อมเส้นทางบินจากหลายเมือง หลาย ประเทศ ซึ่งเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งของชาวเวียดนาม และเวียดนามเป็นจุดหมายของเชียงใหม่ ที่สามารถส่งเสริมในด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจการค้าระหว่างกัน

ทั้งนี้ พบว่าการบริหารจัดการของท่าอากาศยานนานาชาติดานัง ผู้โดยสารส่วนใหญ่ค่อนข้างมีวินัย เคารพในกฎกติกา ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ก็มีวิธีบริหารจัดการโดยใช้กำลังบุคลากรในการจัดการในช่วงเวลาที่มีการเดินทางคับคั่ง โดยเน้นความพร้อมของเจ้าหน้าที่ในการให้บริการเต็มประสิทธิภาพ จึงทำให้การบริการสะดวกและรวดเร็ว

นายอมรรักษ์กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจการบินในภูมิภาคเอเชียเจริญเติบโตมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของการท่องเที่ยวและการลงทุนทางธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียนที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงมาก ทั้งเมียนมา ฟิลิปปินส์ ไทย โดยเฉพาะเวียดนาม ประกอบกับแนวโน้มของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนจากกลุ่มที่เดินทางกับทัวร์ เป็นกลุ่มวัยรุ่น วัยเริ่มทำงาน หรือผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศครั้งแรก ทำให้มีการเชื่อมโยงเส้นทางบินตรงในกลุ่มประเทศอาเซียนมากขึ้น มีการเปิดเส้นทางบินใหม่ ๆ หลายเส้นทาง โดยเฉพาะเวียดนามมีเที่ยวบินตรงจากเชียงใหม่ ที่เป็นฐานการบิน (ฮับ) เชื่อมไปยังเมืองหลักถึงสามเส้นทาง คือ 1.เชียงใหม่-ฮานอย โดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย และสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส 2.เชียงใหม่-โฮจิมินห์ โดยสายการบินเวียตเจ็ทแอร์ และ 3.เชียงใหม่-ดานัง โดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย

“การมาศึกษาดูงานครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะได้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารระดับสูงของท่าอากาศยานทั้งสองแห่ง อันจะนำมาซึ่งความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะการมีส่วนช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองดานัง เวียดนาม และจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประตูที่เชื่อมโยงการเดินทางระหว่างสองประเทศ”

Mr.Le Xuan Tung รองผู้อำนวยการบริษัทท่าอากาศยานแห่งประเทศเวียดนาม (Airport Corporation of Vietnam : ACV) และผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติดานัง กล่าวว่า ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ให้บริการเส้นทางบินระหว่างจุดหมายต่าง ๆ กับเมืองดานัง (Da Nang) และเมืองอื่น ๆ ในเขตพื้นที่ภาคกลางของประเทศ โดยในช่วงระยะ 10 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตของผู้โดยสารมากถึง 60.9% ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ราว 25.7% ซึ่งปี 2561 มีจำนวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการ 13.3 ล้านคน

ทั้งนี้ ในปี 2562 คาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นถึง 14.9 ล้านคน โดยพบว่าในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ผู้โดยสารเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีจำนวนราว 7.8 ล้านคน ปัจจุบันมีอาคารผู้โดยสาร 2 อาคาร โดย terminal 1 เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2554 มีขนาดพื้นที่อาคาร 41,000 ตารางเมตร มีจำนวน 48 เคาน์เตอร์เช็กอิน และ terminal 2 เปิดให้บริการปี 2560 ขนาดพื้นที่ราว 50,000 ตารางเมตร มี 52 เคาน์เตอร์เช็กอิน และ 42 จุดบริการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งทั้ง 2 อาคารเน้นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย

Mr.Le Xuan Tung กล่าวต่อว่า ด้วยจำนวนผู้โดยสารที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ท่าอากาศยานนานาชาติดานังได้เตรียมแผนขยาย terminal แห่งที่ 3 ในบริเวณพื้นที่ต่อเนื่องจากอาคารหลังเดิม คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2573 (2030) ซึ่งเมื่อรวมกับ terminal 1 และ 2 จะทำให้ท่าอากาศยานนานาชาติดานังมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 28 ล้านคน

สำหรับเส้นทางบินจากเชียงใหม่โดยสายการบินไทยแอร์เอเชียที่เปิดบินตรงเข้าสู่ดานัง ถือเป็นโอกาสทางการท่องเที่ยวของเชียงใหม่และเมืองดานังที่จะสามารถแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวต่อกันได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีศักยภาพสูงทางการท่องเที่ยวและการค้า ทั้งนี้ นอกจากเชียงใหม่จะเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของชาวเวียดนามแล้ว นักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ ที่เดินทางมายังดานังก็มีแนวโน้มที่จะเดินทางไปเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้น ด้วยระยะเวลาการบินราว 2 ชั่วโมงเท่านั้น

Ms.Vy Luong เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด การท่องเที่ยวดานัง เวียดนาม กล่าวว่า การท่องเที่ยวของดานังมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมามากที่สุดเป็นอันดับ 1 คือ เกาหลีใต้ อันดับ 2 คือ จีน อันดับ 3 ญี่ปุ่น ขณะเดียวกันพบว่านักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางมายังดานังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และติดอันดับ 6 ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาดานังมากที่สุด

สำหรับท่าอากาศยานนานาชาติดานัง เป็นหนึ่งในท่าอากาศยานภายใต้การกำกับดูแลของ Airport Corporation of Vietnam (ACV) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบบริหารท่าอากาศยานจำนวนทั้งสิ้น 22 แห่งของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดย ACV ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างท่าอากาศยาน (Sister Airport Agreement : SAA) กับ ทอท. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 มีท่าอากาศยานที่มุ่งเน้นในการดำเนินกิจกรรมความร่วมมือภายใต้การบริหารของ ACV จำนวน 4 ท่าอากาศยาน คือ ท่าอากาศยานนานาชาติ เติน เซิน เญิ้ต ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง และท่าอากาศยานนานาชาติ ฟูก๊วก ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน ทอท.มีกลุ่มพันธมิตรท่าอากาศยานที่ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับ ทอท.ทั้งสิ้น 13 บริษัท/องค์กรใน 10 ประเทศ โดยมีท่าอากาศยานระหว่างประเทศอยู่ภายใต้ SAA จำนวน 17 ท่าอากาศยาน เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูล (exchange of information) การดำเนินโครงการร่วมกัน (joint work activities) การตลาดและการส่งเสริมการขายร่วมกัน (joint marketing and promotion) รวมถึงการจัดให้มีการประชุมร่วมกันเป็นประจำ (regular meeting)