บ่ายวันนี้ (28 มีนาคม 2563) ที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้เชื้อไวรัสโควิด-19 จังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายแพทย์นรินทร์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และนายแพทย์สุชาติ เจนเกรียงไกร รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชกานครราชสีมา ได้ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อ 13 ราย โดยรายล่าสุด เป็นหญิงสาว อายุ 23 ปี ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากผู้ป่วยรายที่ 12 ซึ่งเป็นเพื่อนกัน โดยผู้ป่วยเป็นพนักงานบริการ เดินทางกลับมาจากปอยเปต ประเทศกัมพูชา มาที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา จากนั้นได้เดินทางกลับมายังจังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 17 มีนาคม โดยผู้ป่วยรายนี้เป็นบุคคลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และได้ถูกกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการ จนกระทั่งได้รับผลการตรวจยืนยันว่าติดเชื้อ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนคราชสีมา โดยทางสาธารณสุขได้ติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยรายที่ 13 รวมจำนวน 31 ราย เพื่อสังเกตอาการ และอยู่ในขั้นตอนกักตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้สัมผัสใกล้ชิดส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มบุคคลกลุ่มเดียวกับผู้ป่วยรายที่ 12 ทั้งนี้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้ง 13 ราย อาการทั่วไปดี ไม่มีผู้ป่วยรายใดใช้เครื่องช่วยหายใจ ขณะนี้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา 9 ราย โรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา 3 ราย และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี 1 ราย
โดยในวันพรุ่งนี้ (29 มี.ค.) ผู้ป่วยที่นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี 1 ราย และผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา 1 ราย ที่อาการดีขึ้น แพทย์จะทำการเจาะเลือดหาเชื้ออีกครั้ง ซึ่งหากไม่พบเชื้อ และผลตรวจออกมาเป็นลบ แพทย์ก็จะอนุญาตให้กลับบ้านได้
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ยกระดับมาตรการการควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยได้สั่งปิดสถานบริการเพิ่มเติม คือ ร้านตัดผม และร้านเสริมสวยทุกร้าน และได้สั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ 2 แห่งในพื้นที่ ประกอบด้วย บ่อน้ำผุดธรรมชาติ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง และน้ำตกวังเณร ตำบลมะเกลือใหม่ อำเภอสูงเนิน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค หลังก่อนหน้านี้ยังพบมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดนครราชสีมา ในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้หากยังพบผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่ง จะมีความผิดตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน
