“ส้มมะปี๊ด” เครื่องดื่มสุขภาพ สู่เครื่องสำอางแบรนด์ “แรบบิทจันท์”

“ส้มจี๊ด” หรือ “ส้มมะปี๊ด” ส้มลูก ๆ เล็กที่หลายคนอาจมองข้าม แต่วันนี้ “วรพชร วงษ์เจริญ” หรือ “น้องนุ่ม” ผู้บริหารบริษัท แรบบิทจันท์ จำกัด ลูกสาวของคุณพ่อ “ธีระ วงษ์เจริญ” ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดจันทบุรี ประธานอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูพัฒนาเกษตรกร จ.จันทบุรี และที่ปรึกษาเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ วิถีคนจันท์ (PGS จันทบุรี)

ซึ่งมีดีกรีระดับปริญญาโท ด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ ซึ่งอดีตทำงานด้าน IT มาร่วม 15 ปี ด้วยภาวะออฟฟิศซินโดรม จึงผันตัวมาทำธุรกิจ โดยนำ “ส้มมะปี๊ด” ที่ชาวจันท์ปลูกไว้ปรุงอาหารมาแปรรูปเป็นน้ำส้มมะปี๊ด เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และต่อยอดเป็นเครื่องสำอางส้มมะปี๊ด

ภายใต้แบรนด์แรบบิทจันท์ (Rabbit Chan) ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับรางวัลระดับประเทศการันตีความเชื่อมั่นของลูกค้า และล่าสุดเป็นเมนูเครื่องดื่มร้านกาแฟพันธุ์ไทย (PunThai Coffee) ที่มีสาขาทั่วประเทศ

“น้ำส้มมะปี๊ด” แรบบิทจันท์

วรพชรเล่าว่า ปี 2559 ได้ลาออกจากงานมาเรียนรู้งานด้านเกษตรอินทรีย์จากศูนย์กสิกรรมธรรมชาติโป่งแรด จ.จันทบุรี ที่คุณพ่อก่อตั้ง เริ่มจุดประกายความคิดจากส้มมะปี๊ดที่ชาวบ้านจันทบุรีปลูกกันแทบทุกบ้าน นำมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่มสุขภาพ “น้ำส้มมะปี๊ด”

โดยใช้ผลผลิตจากสวนเกษตรอินทรีย์ ที่ได้มาตรฐาน GAP ออร์แกนิกไทยแลนด์ และจากสมาชิกชาวสวนเกษตรอินทรีย์ แรก ๆ ทำขายที่ร้านสภากาแฟของครอบครัวและส่งให้ลูกค้าร้านอาหาร เครื่องดื่ม ร้านเบเกอรี่ใน จ.จันทบุรี เมื่อลูกค้าติดใจต้องการซื้อกลับบ้าน จึงพัฒนาบรรจุขวดด้วยระบบสเตอริไลซ์ยืดอายุเก็บในอุณหภูมิห้องได้ 1 ปี

“ปี 2560-2561 ออกบูทจำหน่ายน้ำส้มมะปี๊ด ทดสอบตลาด สร้างแบรนด์แรบบิทจันท์สัญลักษณ์กระต่ายกับดวงจันทร์ โดย ดร.กรรณิการ์ เจริญสุข อ.ทองจวน คุณพุทธิรพี ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจันทบุรี ช่วยพัฒนาและปรับสูตร

และทดลองสเตอริไลซ์ ส่งบริษัทเซ็นทรัล แลบตรวจสารปนเปื้อน ได้ อย.ทำให้น้ำส้มมะปี๊ดแบรนด์แรบบิทจันท์เป็นที่รู้จักและทำตลาดได้เพิ่มขึ้น ปี 2562 ได้วางจำหน่ายในร้านท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ในห้างโรบินสัน ห้างเซ็นทรัล ร้านโกลเด้นเพลส เลมอนฟาร์ม และร้านค้าอื่น ๆ ทำให้ยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว”

ต่อยอดสู่เครื่องสำอาง

วรพชรเล่าว่า ปี 2561-2562 ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับและขยายตลาด โดย ดร.ณุกานดา กิติศุภวัฒนา ประธานเครือข่ายธุรกิจบิสคลับ จ.จันทบุรี ได้ส่งผลงานผลิตภัณฑ์เข้าประกวดโครงการสุดยอด SME จังหวัด ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)

โดยมีผู้เชี่ยวชาญนักวิจัยช่วยกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ ได้รางวัลระดับประเทศ SME Product Champions 2018 และในกลุ่มผลิตภัณฑ์ OTOP ได้รางวัล SME Start up Awards Thailand ปี 2018 ปี2019 และปี 2020 จากนั้นได้รับรางวัลอื่น ๆ ทั้งในรูปผลิตภัณฑ์และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน

เช่น SMEs Product Excellence Recognition รางวัลสุดยอดผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชน ปี 2019 และปี 2020 รางวัลเป็นโอกาสการสร้างความเชื่อมั่น สร้างแบรนด์แรบบิทจันท์และสร้างเครือข่าย ทำให้มีช่องทางการทำตลาดได้กว้างขึ้น

จึงคิดต่อยอดมาทำเครื่องสำอางส้มมะปี๊ด เนื่องจากผลการวิจัยมะปี๊ดมีรสเปรี้ยวมากกว่ามะนาว 10% มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลบเลือนริ้วรอย กระตุ้นการงอกของเส้นผมใหม่ปี 2561

ได้การทดลองและวิจัย อ.จิราภรณ์ ทองตัน ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางมหาวิทยาลัยสวนดุสิตเป็นที่ปรึกษา เริ่มผลิตสบู่ โลชั่น แชมพู สกินแคร์ดูแลผิวหน้า สเปรย์ดับกลิ่นเท้า

และสลีปปิ้งมาสก์ (sleeping mask) ที่มีคุณสมบัติพิเศษใช้แล้วไม่ต้องล้างออก ทุกผลิตภัณฑ์ได้จดเลขทะเบียนจดแจ้งกับทาง อย. และวางจำหน่ายตามห้างโมเดิร์นเทรดควบคู่กับน้ำส้มมะปี๊ด

“สัดส่วนผลิตภัณฑ์และรายได้ น้ำส้มมะปี๊ด 90% เครื่องสำอาง 10% หลังน้ำส้มมะปี๊ดมีช่องทางการตลาดไปได้ดีแล้ว โดยลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย คือ คนรักษาสุขภาพ คนวัยทำงาน ครอบครัว และเด็ก ๆ ที่กลัวจะแพ้เครื่องสำอางช่วยบอกต่อ

ทำให้ตลาดเครื่องสำอางเติบโตได้ ต้นปี 2564 เริ่มเปิดตลาดต่างประเทศ ฮ่องกง บูรไน มีออร์เดอร์เข้ามาแล้ว แต่ติดสถานการณ์โควิด-19 รอบ 2 ช่วงนี้จึงหันมามุ่งทำตลาดภายในให้แข็งแรงก่อน”

น้ำส้มมะปี๊ดและเครื่องสำอางส้มมะปี๊ดแรบบิทจันท์วางจำหน่ายห้างเลมอนฟาร์ม โกลเด้นเพลส ที่มีสาขาประมาณ 30 สาขาในห้าง ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ในศูนย์การค้าชั้นนำภาคตะวันออก โรบินสัน เซ็นทรัล จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ฉะเชิงเทรา

และเดือนมีนาคม 2564 ได้ขยายตลาดเครื่องดื่มร้านกาแฟพันธุ์ไทย (PunThai Coffee) ในปั๊ม PT ที่มีสาขาทั่วประเทศ มี 3 เมนูที่เปิดตัวช่วงซัมเมอร์ คือ กาแฟส้มมะปี๊ด ชาส้มมะปี๊ด และส้มมะปี๊ดปั่นปีโป้ ซึ่งบาริสต้ามีสูตรเฉพาะตัว

ตลาดโตก้าวกระโดด 200%

ธุรกิจส้มมะปี๊ดแบรนด์แรบบิทจันท์ก้าวสู่ปีที่ 4 เริ่มจากปีแรกมีรายได้ 1,000 บาท/เดือน เมื่อปรับแนวคิดใหม่ส่งผลิตภัณฑ์เข้าประกวดได้รับรางวัล SME OTOP ระดับประเทศ มีหน่วยงานรับรองคุณภาพสินค้าสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้ารายได้เพิ่มขึ้น 10,000-20,000 บาท

ปีที่ 2 ปรับแผนการตลาดสู่กลุ่มเป้าหมายคนรักสุขภาพ ออกบูทงานออร์แกนิกอีเวนต์ตามหน่วยงานต่าง ๆ รายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 800,000 บาท ปีที่ 3 รายได้ทะลุเป้าเกิน 1 ล้านบาท มาไตรมาสแรกปี 2564 ทำรายได้หลักล้านเท่ากับปีที่ 3 ทั้งปีคาดว่าภาพรวมน่าจะโตจากปีก่อน 200%

จากส่วนหนึ่งที่ได้ลูกค้าร้านกาแฟพันธุ์ไทยที่มีสาขากว่า 200 ทั่วประเทศ รวมทั้งรีสอร์ต ร้านสุขภาพ ทำให้ต้องขยายการรับซื้อส้มมะปี๊ดมากขึ้น จากตอนนี้ซื้อเดือนละ 4 ตัน สร้างรายได้ให้เกษตรกรเดือนละหลักหมื่น

และยังมีการจ้างแรงงานบีบน้ำมะปี๊ดที่โรงงานครอบครัวละ 10,000-20,000 บาท/สัปดาห์ ทำให้เกษตรกรในท้องถิ่นมีรายได้เสริมหมุนเวียนตลอดปี อย่างไรก็ตาม หากใครสนใจผลิตภัณฑ์หรือเข้าร่วมเครือข่ายสวนมะปี๊ด โทร.ติดต่อเข้ามาได้ที่ 08-9092-7999

“ธุรกิจก้าวขึ้นมาค่อนข้างรวดเร็ว เพราะการเพิ่มองค์ความรู้ใหม่ ๆ จากจุดเริ่มต้นได้รับโอกาสจาก สสว. ISMED ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 9 มหาวิทยาลัยบูรพา ทำให้มีผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและได้มาตรฐาน

และการสร้างตัวตนในโลกออนไลน์ การสร้างคอนเทนต์ การสร้างแบรนด์ การเขียนแผนกลยุทธ์ธุรกิจ การวัดผลและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มาถึงจุดนี้ได้ โจทย์ยากคือการรักษาสินค้าให้อยู่ในตลาดอย่างยั่งยืน” วรพชรกล่าว

พัฒนาสู่ Zero Waste

จาก “วิสาหกิจชุมชนสภากาแฟฅนจันทบูร” ได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 50 ของกลุ่ม OTOP GI (อัตลักษณ์พื้นถิ่น) ทั่วประเทศเข้าโครงการสร้างตลาดรูปแบบใหม่ สำหรับกลุ่ม OTOP เกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น ของ NIA (สำนักงานวัตกรรมแห่งชาติ (องค์กรมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม)

ทำให้มีช่องทางประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์แรบบิทจันท์ได้หลากหลายมากขึ้น และคอนเซ็ปต์ไอเดียจากผลการวิจัย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของแบรนด์แรบบิทจันท์จะนำทุกส่วนมาใช้ประโยชน์ทั้งหมด zero waste คาดว่าจะใช้เวลา 6-12 เดือนพร้อม ๆ กับผลักดันให้ส้มมะปี๊ดเป็นพืช GI ของจังหวัดจันทบุรี