ผบ.ตร.ชงจังหวัดภูเก็ต ยกมาตรการตรวจเข้า-ออกเข้มขึ้นอีก เร่งหาคนร้าย

พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำกำลังตำรวจลงพื้นที่ปูพรมสืบสวนคดีนักท่องเที่ยวสวิต พร้อมเตรียมยกมาตรการคุมเข้มคนเข้า-ออกจังหวัด

วันนี้ 7 สิงหาคม 2564 เวลา 07.00 พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จังหวัดภูเก็ต นำกำลังตำรวจลงพื้นที่ปูพรมสืบสวนคดีพบศพนักท่องเที่ยวชาวสวิสฯบริเวณน้ำตกโตนอ่าวยนต์ อ.เมือง จังหวัดภูเก็ต โดยเริ่มตั้งแต่ จุดที่พักแรมของนักท่องเที่ยวไปจนถึงน้ำตกโตนอ่าวยนต์ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อตรวจหาวัตถุพยานหลักฐานเพิ่มเติมและนำไปสู่การคลี่คลายคดีต่อไป

โดยภายหลังจากลงพื้นที่ ต่อมา เวลา 09:00 น. พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี วิกรม จากที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและ นายยันเคธเนอร์ ผู้ช่วยฝ่ายตำรวจสวิสเซอร์แลนด์ ประจำประเทศไทยได้แถลงข่าวแก่สื่อมวลชน

พล.ต.อ. สุวัฒน์ กล่าวว่า การสืบสวนคดีนี้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม วันนี้เป็นวันที่ 2 ของการสืบสวนสอบสวน ทีมงานทำงานตลอดไม่ได้หยุดพัก รายละเอียดของการสืบสวนสอบสวนขณะนี้ได้ปูพรมตรวจสอบ ทุกอย่างในพื้นที่ ตั้งแต่จุดเกิดเหตุขยายวงโดยรอบ และจากที่ได้เดินทางขึ้นไปยังจุดเกิดเหตุได้เห็นลักษณะสภาพของพื้นที่และได้จำแนกกลุ่มบุคคลที่ขึ้นไปในบริเวณที่เกิดเหตุ ว่าน่าจะเป็นคนประเภทไหนบ้าง เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาการ ประกอบการสืบสวนสอบสวน

โดยขณะนี้สิ่งที่คาดหวัง คือวัตถุพยานทางนิติวิทยาศาสตร์และ ผลการชันสูตร พบเบื้องต้นมีร่องรอยการถูกทำร้าย บริเวณ กล่องเสียง ซึ่งต้องรอยืนยันการรายงานเป็นเอกสารจากทางการแพทย์

ทั้งนี้ได้ เก็บตัวอย่างต่างๆเพิ่มเติมเพื่อนำไปตรวจในห้องแล็บในส่วนของการตรวจวัตถุพยานต้องใช้ระยะเวลาหลายวัน โดยวัตถุพยานส่วนใหญ่จะส่งไปตรวจที่กรุงเทพมหานคร ส่วนการสืบสวนและการซักถามพยานบุคคลและ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้มีการแบ่งหน้าที่การทำงาน เนื่องจากมีหลายหน่วยเข้ามาทำงานด้วยกัน เบื้องต้นก็ดูความเป็นไปได้ของคนทั้งหมดที่เข้าไปถึงที่เกิดเหตุ ขอเวลาอีกระยะหนึ่ง เน้นย้ำทำให้ละเอียดที่สุด ถูกต้องที่สุด ด้วยความเร็วที่สุดที่ทำได้

ส่วนประเด็นการสอบสวนยังคงมุ่งทุกประเด็นไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออกไปโดยขอไม่ระบุว่าคนร้ายจะมี 1 คนหรือหลายคน ยังคงเปิดกว้างในการสืบสวนสอบสวน จะเดินไปตามพยานหลักฐาน

ส่วนการลงพื้นที่ตรวจคนงานในแคมป์มีความคืบหน้า ได้ดำเนินการและซักถาม ไปแล้ว ส่วนหนึ่งและยังคงทำต่อไป พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบภาพบุคคลในกล้องวงจรปิด เพื่อนำกลุ่มบุคคลที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดมาทำการสืบสวนสอบสวนและซักถามข้อเท็จจริง

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะมีการสรุปข้อมูล 2 ช่วง คือช่วงเช้าและช่วงค่ำ เวลา 20:00 น เพื่อทบทวนประเด็นการปฏิบัติงานและวางแผนการสืบสวนคดี ในส่วนของการ รายงานความคืบหน้าต่อสื่อมวลชนจะสรุปให้ในช่วงเช้าตามความเหมาะสมและจะแจ้งให้สื่อมวลชนได้รับทราบ ไม่ปิดกั้นเรื่องเสรีภาพ แต่ขอความร่วมมือพยายามให้ข่าวที่ไม่เสียหายและไม่ส่งผลต่อรูปคดี

อย่างไรก็ตามภายหลังการเกิดเหตุ ได้ประชุมร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และภาคเอกชน เพื่อวางของแนวทางการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ระยะเร่งด่วน 2 มาตรการ คือ

จะเร่งสำรวจสถานที่ท่องเที่ยว หากพบว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใด ไม่เป็นที่นิยม และยากต่อการดูแล หรือเป็นจุดอับที่ไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่ไปดูแลเพียงพอ จะสั่งการให้มีการปิดสถานที่ดังกล่าว พร้อมทั้งสำรวจข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ที่เข้าหลักเกณฑ์ หากเปิดได้ จะทำการประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยใช้สื่อของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอีกช่องทางหนึ่ง

ซึ่งจะดำเนินการเช่นเดียวกับการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวในต่างประเทศ พร้อมยกตัวอย่าง แหล่งท่องเที่ยวบริเวณน้ำตกโตนอ่าวยนต์ มีบุคคลน้อยมากที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว ประกอบกับช่วงสถานการณ์โควิด 19 ทำให้เจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอที่จะเข้ามาดูแล ก็ควรจะปิด

มาตรการที่ 2 คือการยกระดับมาตรการการความเข้มเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยตั้งเป้าว่า 1 สัปดาห์นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จังหวัดภูเก็ตจะปรับมาตรการในการคุมคนเข้าออกจังหวัดภูเก็ตโดยเฉพาะบริเวณด่านตรวจท่าฉัตรไชย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติจะต้องถูกตรวจสอบทุกคน ในกลุ่มของคนไทยที่จะต้องตรวจสอบทุกคน อาจจะส่งผลให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวก โดยเฉพาะในกลุ่มบุคคลที่มีหมายจับจะไม่อนุญาตให้เดินทางเข้าออกจังหวัดภูเก็ต

ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความรู้สึกว่าถูกละเมิดสิทธิ แต่จำเป็นต้องเข้มข้นในช่วงระยะเวลานี้ จากนั้นจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง

ส่วนการคาดหวังผลของการสืบสวน ทั้งผลจากห้องแล๊ป วัตถุพยานจากนิติวิทยาศาสตร์ ที่จะเป็นพยานที่ดีที่สุด

และขั้นที่ 2 คาดหวังคือพยานบุคคลจากกล้องวงจรปิด ขอยืนยันว่าการสืบสวนจำเป็นต้องใช้เวลา ดังนั้นในขณะนี้จะทำการสืบสวนกลุ่มบุคคลที่เข้าที่เกิดเหตุให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปสู่การที่คลี่คลายคดี

ด้านนายยันเคธเนอร์ ผู้ช่วยฝ่ายตำรวจสวิสเซอร์วิส ประจำประเทศไทย กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายกับทั้งสองประเทศ ที่ผ่านมาได้ทำงานกับตำรวจไทย จึงมีความมั่นใจว่าตำรวจไทยจะสามารถจับคนร้ายได้ ขณะนี้ทีมตำรวจไทยที่ดีที่สุดได้ลงพื้นที่มาสืบสวนคดี และทำงานอย่างหนัก จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถคลี่คลายคดีได้เร็ว