บิวตี้เจมส์รุกตลาดเครื่องสำอาง ผนึกเซเลบชิงแชร์ 6.5 หมื่นล้าน

แฟ้มภาพ

บิวตี้เจมส์รุกธุรกิจตลาดเครื่องสำอาง จับมือเซเลบดัง ผุดแบรนด์ใหม่ “บิวตี้ทเวนตี้โฟร์” ตั้งเป้า 30 ช็อปในไทยปีแรก ชิมลางอีคอมเมิร์ซขายผ่านออนไลน์ เล็งเจาะตลาดจีนจับมือพันธมิตรผุด 20 สาขา ตั้งเป้า 5 ปียอดขายทะลุ 500 ล้านบาท

ธุรกิจเครื่องสำอางและสุขภาพมูลค่าตลาดแต่ละปีกว่า 65,000 ล้านบาท ยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นต่อเนื่อง จูงใจให้ผู้ประกอบการจากหลากหลายธุรกิจขยายฐานเข้ามาแจมเค้ก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอาร์เอส ผู้นำธุรกิจบันเทิงที่ประกาศรุกธุรกิจนี้เต็มรูปแบบเมื่อกลางปี 2559 โดยตั้ง บจ.ไลฟ์สตาร์ ขยายช่องทางการสั่งซื้อสินค้าทางทีวี (teleshopping) กลุ่ม บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ยักษ์ใหญ่ธุรกิจบันเทิงอีกรายที่เบนเข็มเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์สุขภาพ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วงต้นปี 2560 ที่ผ่านมา ล่าสุดกลุ่มบิวตี้เจมส์ ผู้ประกอบการธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ ซึ่งอยู่ในวงการมานานกว่า 54 ปี เป็นอีกรายหนึ่งที่ตัดสินใจแตกไลน์มาชิงแชร์ตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยงาม

นายสุริยน ศรีอรทัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวตี้เจมส์ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกอัญมณีรายใหญ่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนสนิท 4 คน คือ ชีรณัฐ ยูสานนท์ หรือน้ำชา เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง “RAD Cosmetics” นภัสนันท์ พรรณนิภา หรือตุ๊ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TQM และประธานบริษัท ดาราเดลี่ จำกัด และ ดร.เฉลิมรัฐ นาควิเชียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GMO-ZCOM NetDesign เปิดตัวธุรกิจร้านเครื่องสำอาง “บิวตี้ทเวนตี้โฟร์” (beauty24) ภายใต้การบริหารของบริษัท บิวตี้ทเวนตี้โฟร์ จำกัด

โดยได้ทดลองเปิดร้านแห่งแรกในทำเลอโศก-เอกมัย ด้วยงบฯลงทุน 20 ล้านบาท ควบคู่กับการรุกตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ภายใต้ “บิวตี้ทเวนตี้โฟร์ออนไลน์” (http://beauty24online.com) ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีเช่นกัน จึงได้ลงทุนเพิ่มอีกแห่งที่สยามสแควร์ ซึ่งช็อปนี้เป็นตึก 3 ชั้นขนาดใหญ่กว่าที่อโศก และใช้งบประมาณลงทุนสูงกว่า จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในเดือน พ.ค. 2561 นี้

“บิวตี้ทเวนตี้โฟร์ถือเป็นการต่อยอดธุรกิจความงามครบวงจรของบิวตี้เจมส์ ซึ่งเดิมทำอัญมณีและเครื่องประดับเป็นหลัก แต่เห็นว่าธุรกิจความงามเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพและมีโอกาสเติบโตได้อีกมากไม่ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดี แต่เครื่องสำอางก็ยังขายได้ดี ซึ่งในส่วนนี้พันธมิตรในส่วนของดาราเดลี่ทำธุรกิจสื่อในวงการบันเทิงจะมาช่วยด้านประชาสัมพันธ์ ส่วนน้ำชาก็มีแบรนด์เครื่องสำอาง RAD ที่มีกลุ่มลูกค้าอยู่แล้วส่วนทาง Z.Com จะเข้ามาช่วยทำเรื่องออนไลน์ และวางระบบอีคอมเมิร์ซบิวตี้ทเวนตี้โฟร์ออนไลน์”

ทั้งนี้ได้วางโพซิชั่นให้บิวตี้ทเวนตี้โฟร์เป็นศูนย์รวมเครื่องสำอางครบวงจร (multi cosmetic brands) โดยรวบรวมสินค้าเครื่องสำอางแบรนด์มากกว่า 200 แบรนด์ เป็นแบรนด์จากต่างประเทศ 60 แบรนด์ และยังเปิดโอกาสให้กับแบรนด์ไทยอีก 140 แบรนด์ จะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเครื่องสำอางของไทยได้มีช่องทางการจำหน่ายได้มากขึ้น ถือเป็นส่วนส่งเสริมแบรนด์ไทยให้มีความเข้มแข็งด้วย ทั้งยังขยายช่องทางค้าผ่านอีคอมเมิร์ซ โดยอำนวยความสะดวกในการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าภายใน 1 วันด้วย

นายสุริยนกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับกลุ่มกูร์เมต์ มาร์เก็ต ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกในประเทศ เพื่อเตรียมจะขยายสาขาเข้าไปในห้างกูร์เมต์ มาร์เก็ต อีก 7 สาขาในปีนี้ และอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในจีน เพื่อจัดตั้งเป็นตัวแทนจำหน่าย และขยายสาขาในจีนอีก 20 แห่งในปีนี้

“เป้าหมายธุรกิจเครื่องสำอางในปีแรกตั้งไว้ประมาณ 100 ล้านบาท ต้องการให้ค่อย ๆ เติบโต โดยมองว่าอีก 5 ปีข้างหน้าน่าจะสามารถเพิ่มยอดขายได้เป็น 500 ล้านบาท ส่วนธุรกิจหลักในกลุ่มบิวตี้เจมส์ ในปีนี้มีเป้าหมายว่าจะมีรายได้ขยายตัวเพิ่ม 7-8% จากปีก่อนซึ่งมียอดรวม 8,000 ล้านบาท หลัก ๆ เป็นอัญมณีและเครื่องประดับ และโรงงานรีไฟเนอรี่ทองคำ รวมประมาณ 5,800 ล้านบาท ที่เหลือจะเป็นรายได้ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจประกันภัยในแบรนด์สินทรัพย์ประกันภัย ซึ่งก็มีแนวโน้มเติบโตดี”

ในส่วนของธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับปีนี้มีแผนจะขยายตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดรองเพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีสัดส่วนเพียง 1% ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรธุรกิจในจีน ซึ่งจะเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายโฮลเซลเลอร์ให้กับแบรนด์ “บิวตี้ไดมอนด์” ในประเทศจีน มุ่งเน้นเจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงและกลุ่มระดับกลาง ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาตลาดส่งออก คือ สหรัฐ สัดส่วน 45% ตลาดตะวันออกกลางและตลาดญี่ปุ่นไว้ให้ได้ โดยมีแผนจะเข้าร่วมกิจกรรมจัดงานแสดงสินค้า และขายผ่านโฮลเซลเลอร์เป็นหลัก