ธุรกิจโปรดักชั่นเฮาส์เนื้อหอม ต่างประเทศทยอยตบเท้าร่วมทุน 2 ยักษ์จากเกาหลี ฮานโฮ-นามู แอนิเมชั่น โยกฐานจากเมืองจีนบินมาซบเมืองไทย ปั้นไทยเป็นศูนย์กลาง พร้อมส่งคอนเทนต์ขายทั่วอาเซียน
เพิ่มดีกรีความเข้มข้นขึ้น สำหรับการรุกคืบอีกสเต็ปของนักลงทุนเกาหลี หลังจากศิลปินเกาหลีบินมาจัดคอนเสิร์ตในไทยหนาตา ล่าสุด ผู้ผลิตคอนเทนต์จากเกาหลีหลายรายเตรียมย้ายฐานการผลิตคอนเทนต์จากจีนมาไทย หนีต้นทุนการผลิตในจีนสูงขึ้น รวมกับปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างจีนกับเกาหลี
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
นายลักษณ์ เตชะวันชัย รองประธานสมาพันธ์สมาคมดิจิทัลคอนเทนต์บันเทิงไทย และรองประธานสมาคมสมาพันธ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทย เปิดเผย ประชาชาติธุรกิจ ว่า ขณะนี้ธุรกิจโปรดักชั่นเฮาส์และผู้ผลิต
คอนเทนต์จากเกาหลีหลายรายที่มีฐานการผลิตอยู่ในเมืองจีนมีแผนโยกฐานการผลิตงานด้านภาพยนตร์และแอนิเมชั่นเข้ามาในไทย ล่าสุด 2 รายใหญ่ คือ บริษัทฮานโฮ (HANHO) และบริษัทนามู แอนิเมชั่น (NAMU Animation) เตรียมเข้ามาลงทุนในเบื้องต้นทั้ง 2 ค่ายจะร่วมทุนกับบริษัทหรือพันธมิตรในไทยเป็นโปรเจ็กต์ ๆ ไป และระยะถัดไปอาจขยายสู่การตั้งบริษัทร่วมทุนกับผู้ผลิตไทย
โดยฮานโฮ บริษัทแอนิเมชั่นสัญชาติเกาหลี อายุกว่า 30 ปี มีผลงานแอนิเมชั่นจำนวนมากที่ผลิตให้ช่องเคบีเอส (เกาหลี) รวมถึงรายการและซีรีส์ต่างประเทศจำนวนมาก ขณะที่นามู แอนิเมชั่น
บริษัท แอนิเมชั่นที่เป็นการร่วมทุนระหว่างเกาหลีและญี่ปุ่น ก่อตั้งปี 2556 และขยายสาขาไปญี่ปุ่นปี 2557 และมีผลงานจำนวนมากที่ผลิตให้ช่องเคบีเอส ฯลฯ
นายลักษณ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ก็มีกลุ่มทุนเกาหลีเข้ามาจับมือกับคนไทย ตั้งบริษัท เอเซียน สตอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อนำคอนเทนต์เกาหลี เค เวฟ มาออกอากาศในช่องทีวีดาวเทียม และมีโครงการผลิตคอนเทนต์ในไทย และส่งไปจำหน่ายในประเทศอาเซียน นอกจากนี้ยังมีการร่วมทุนของนักธุรกิจจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี อีกกลุ่มที่มีแผนผลิตคอนเทนต์แอนิเมชั่น ทีวีซีรีส์ โดยมีการโคโปร ดักชั่นกับผู้ผลิตไทย เพื่อสร้างไทยเป็นศูนย์กลางส่งต่อคอนเทนต์ไปอาเซียน
การลงทุนของกลุ่มทุนจากเกาหลี อีกด้านหนึ่งก็จะเป็นแรงผลักที่ทำให้ธุรกิจโปรดักชั่นเฮาส์ไทยเติบโตมากขึ้น จากเดิมที่เป็นเพียงการจ้างโปรดักชั่นเฮาส์ไทยเป็นผู้ผลิตให้ ซึ่งมีมาจากเกาหลี ญี่ปุ่น รวมทั้งจีน และการร่วมมือดังกล่าว
นอกจากจะได้โนว์ฮาว ทั้งด้านการผลิต การตลาด การจัดจำหน่ายของเกาหลี มาเสริมความแข็งแกร่งแล้ว คนไทยยังจะได้สิทธิในการเป็นเจ้าของผลงานร่วม และจะสามารถต่อยอดและใช้ประโยชน์จากคอนเทนต์ที่ผลิตได้เต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ก็ได้ร่วมทุนกับ ซีเจ อีแอนด์เอ็ม ผู้ผลิตภาพยนตร์รายใหญ่จากเกาหลี ตั้งบริษัทซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เพื่อผลิตภาพยนตร์ หวังผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้เติบโต และส่งออกภาพยนตร์ไทยไปยังตลาดต่างประเทศ
ขณะที่นายเอส อาร์ คิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเซียน สตอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารช่องเค-เวฟ (K-Wave) กล่าวว่า มีแผนจะลงทุนด้านธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ โดยเริ่มจากไทยก่อน เพื่อสร้างฐานในการต่อยอดคอนเทนต์ออกไปยังประเทศอื่น ๆ โดยเฟสแรกจะนำคอนเทนต์
จากเกาหลีมาออกอากาศผ่านช่องเค-เวฟ ในแพลตฟอร์ม พีเอสไอ และเจริญเคเบิ้ล เริ่มทดลองออกอากาศไตรมาส 3 ปีนี้ ส่วนเฟสต่อไป จะนำคอนเทนต์เกาหลีทั้งละคร เกมโชว์ ไปออกอากาศในช่องทีวีดิจิทัล ลักษณะไทม์แชริ่ง คาดว่าจะเริ่มได้ปีหน้า และนำคอนเทนต์ไปออกอากาศบนออนไลน์ ส่วนระยะยาว มีแผนจะทำโคโปรดักชั่นดิจิทัลคอนเทนต์ร่วมกับผู้ผลิตไทย เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้
ล่าสุด เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้ตั้งบริษัทร่วมทุน ระหว่างอิมเมจิ้น กรุ๊ปของไทยและเกาหลี เพื่อประโยชน์ดิจิทัลคอนเทนต์ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันตลาดโปรดักชั่นเฮาส์ในประเทศเติบโตต่อเนื่อง มีผู้ประกอบการรายใหญ่ อาทิ ฟีโนมีน่า กันตนา และแม็ทชิ่ง สตูดิโอ ที่รับผลิตภาพยนตร์โฆษณาทั้งในและต่างประเทศ, รวมทั้งให้บริการถ่ายทำภาพยนตร์และหนังโฆษณาครบวงจร