BOSS Coffee บุกหนัก ลั่นขึ้นเบอร์ 1 กาแฟพร้อมดื่มพรีเมี่ยม ตั้งเป้าโต 20-30%

BOSS coffee

“บอส คอฟฟี่” เปิดเกมรุกเขย่าตลาดกาแฟ ส่งร้าน BOSS Cafe’ คาเฟ่สไตล์มินิมอลแห่งแรกในไทย เจาะกลุ่มคนวัยทำงาน หวังสร้างการรับรู้ พร้อมจับมือเจ้าตลาดร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นเสิร์ฟเมนูอาหารเช้า BOSS x Ezy Taste ดึงฌอห์ณ จินดาโชติ เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรก ตั้งเป้าสิ้นปีโต 20-30% หวังขึ้นเป็นผู้นำตลาดในกาแฟพร้อมดื่มกลุ่มพรีเมี่ยมใน 3-5 ปี 

นายอนวัช สังขะทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กาแฟพร้อมดื่ม บอส คอฟฟี่ (BOSS Coffee) เริ่มทำตลาดในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งได้รับความนิยมและกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ผนวกจุดเด่นที่ใช้นวัตกรรมเทคนิคการสกัดแบบ flash brew ทำให้ได้กาแฟที่มีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อม ลงตัว ในมาตรฐานการผลิตเดียวกับซันโทรี่ ประเทศญี่ปุ่น

ในปีนี้บริษัทได้ทำการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น โดยเน้นการเพิ่มยอดขายจากกลุ่มผู้บริโภคที่ทานกาแฟพร้อมดื่มรูปแบบกระป๋อง ซึ่งได้ปรับสูตรกาแฟที่ผ่านการคั่ว เบลนด์เมล็ดกาแฟ ให้มีความเข้มข้น กลมกล่อม มากยิ่งขึ้น รวมถึงการเปิดตัวฉลากดีไซน์ใหม่ของผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 รสชาติที่วางจำหน่ายในประเทศไทย เพื่อปรับลุกให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น

รวมทั้งมุ่งสร้างโอกาสใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มการบริโภคผ่านแคมเปญ “บัดดี้เพื่อทุกเช้าดีดี กับบอส คอฟฟี่” โดยส่งเสริมให้ทุกมื้อเช้าของคุณเป็นมื้อเช้าระดับบอส ด้วยการได้จับมือกับร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เพื่อพัฒนาชุดเมนูคอมโบเซตพิเศษ BOSS x Ezy Taste ในราคา 64 บาท โดยกาแฟพร้อมดื่มจะมี 3 รสชาติ คือ บอส แบล็ก บอส ลาเต้ และบอส อเมริกาโน่ ขนาด 250 มิลลิลิตร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคอกาแฟและกลุ่มวัยทำงาน ด้วยการยกระดับประสบการณ์เมนูอาหารเช้าอย่างแซนด์วิชอบร้อนที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีเมื่อรับประทานควบคู่ไปกับการดื่มกาแฟ บอส คอฟฟี่

นอกจากนี้ ล่าสุดยังได้เปิดตัวร้านกาแฟ BOSS Cafe’ คาเฟ่สไตล์มินิมอลแห่งแรก ชั้น G ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ เป็นแห่งแรกในไทย และเป็นที่สองของโลก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดที่ออสเตรเลียเป็นที่แรก เมื่อช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา โดย BOSS Cafe’ ในไทยได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา มีพื้นที่ประมาณ 55 ตารางเมตร

อนวัชบอกว่า ภาพรวมของร้านกาแฟและคาเฟ่ที่มีเอกลักษณ์ยังมีอัตราการเติบโตที่ดี จากแรงส่งของกระแสคาเฟ่ฮอปเปอร์ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศไทย เบื้องต้นจะเป็นการทดลองเปิดให้บริการประมาณ 3 เดือน (มิถุนายน-สิงหาคม) เพื่อสร้างแบรนด์อะแวร์เนสให้กับผู้บริโภคซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมการส่งเสริมการตลาดของแบรนด์ และคาดว่าจะช่วยสร้างสีสัน และกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

boss coffee

สำหรับเมนูภายในร้านคาเฟ่จะมีตั้งแต่ราคา 90 บาท ไปจนถึง 245 บาท โดยจะมีทั้งเมนูกาแฟพร้อมดื่ม บอส คอฟฟี่ ในรูปแบบเมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้ง 6 เมนูอาทิ BOSS Coffee Coconut Foam, BOSS Coffee Peach Candy และ BOSS Coffee Yuzu เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี เมนู toast สุดพิเศษ 6 เมนู และในอนาคตอาจจะมีการขยายสาขาของคอฟฟี่ คาเฟ่ ไปในพื้นที่ต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาโมเดลที่จะนำไปขยายอยู่ อาจจะเป็นไซซ์ที่เล็กลง เพื่อที่จะง่ายต่อการขยายตัว

นอกจากนี้ ได้เปิดตัวสื่อโฆษณาชุดใหม่ที่ได้ ฌอห์ณ จินดาโชติ และ 2 หนุ่มดูโอวง HYBS อย่าง เจมส์ อลิน วี และกานต์ กษิดิ์เดช หงส์ลดารมภ์ พรีเซ็นเตอร์คู่แรกของ บอส คอฟฟี่ มานำแสดง เนื่องจากทั้งคู่มีภาพลักษณ์ที่กระตือรือร้น มีความคิดสร้างสรรค์ และพร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจให้ทุกคนในทุกวัน ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของแบรนด์ ตลอดจนเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตประมาณ 20-30% ซึ่งเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา สำหรับแผนในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า ได้ตั้งเป้าที่จะขึ้นเป็นผู้นำตลาดในกาแฟพร้อมดื่มกลุ่มพรีเมี่ยมที่มีมูลค่าตลาด 3-4% จากตลาดรวมกาแฟพร้อมดื่มที่มีมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท และมีอัตราการเติบโตสูงกว่า 10% ต่อปี ซึ่งตลาดรวมมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จากการที่ได้รับแรงหนุนจากพฤติกรรมการบริโภคกาแฟนอกบ้านที่เพิ่มมากขึ้น และเริ่มมีผู้เล่นรายใหม่ 2-3 ราย ส่งสินค้าเข้ามาในตลาด ทำให้ตลาดมีการเติบโตและแข่งขันกันมากขึ้น เช่น แบรนด์คาเฟ่อเมซอน แบรนด์อาราบัส เป็นต้น

“การที่มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาทำตลาดพรีเมี่ยมมากขึ้น จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราเองก็มีแผนจะพัฒนาโปรดักต์ใหม่ ๆ เข้ามาในตลาดมากขึ้น และในอนาคตอาจจะมีการนำรสชาติกาแฟใหม่ ๆ เข้ามาทำตลาดด้วย” นายอนวัชกล่าว