ส่อเปลี่ยนดีลซื้อหุ้นสปริงฯ ทีวีไดเร็คเคาะใหม่ 26 ก.พ.

ซีอีโอ ทีวีไดเร็ค “ทรงพล ชัญมาตรกิจ” แจงดีลซื้อหุ้นสปริงนิวส์ไม่คืบ เผยมีเงื่อนไขใหม่ กสทช.เตรียมประมูลคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์ ช่วยทีวีดิจิทัล ทำให้ต้องเบรกการซื้อขายไว้ก่อน รอความชัดเจน 26 กุมภาพันธ์นี้ ประชุมบอร์ด 2 บริษัท เคาะ “ซื้อ-ไม่ซื้อ”

แม้ผ่านความเห็นชอบของผู้ถือหุ้นทั้ง 2 บริษัทเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 กรณีดีลการซื้อหุ้น “สปริงนิวส์” บริษัทย่อยของ บมจ.นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น กับ “ทีวีไดเร็ค” ที่มีมูลค่า 949 ล้านบาท เพื่อแลกกับการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่มีสัดส่วน 90.10% ตามที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯไปแล้วตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 แต่ถึงวันนี้ ดีลดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้า

นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวีไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ผู้ดำเนินธุรกิจทีวีโฮมช็อปปิ้ง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงความคืบหน้ากรณีการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ว่า หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีนโยบายเตรียมนำคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งเป็นคลื่นสำหรับทีวีดิจิทัลไปจัดการประมูล 5 จี และจะนำเงินประมูลที่ได้มาใช้ในการเยียวยาให้แก่ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลนั้นก็ได้เรียกผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลเข้าไปรับฟังคำชี้แจงเมื่อกลางเดือนธันวาคมปี 2561 ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายต้องยุติกระบวนการซื้อขายทั้งหมดไว้ก่อน เพื่อรอความชัดเจน

“หลังจากที่ กสทช.เรียกเข้าไปหารือ ทำให้มีเงื่อนไขใหม่เพิ่มขึ้น ตอนแรกคิดว่าคงไม่มีประเด็นอะไรมาก แต่หลังจากได้คุยกันเบื้องต้นบางส่วนก็พบว่ามีรายละเอียดอีกมาก ทำให้เราตัดสินใจคุยกันใหม่ โดยเงื่อนไขที่เพิ่มเข้ามา คือ สัดส่วน วิธีการจ่าย เป็นต้น ตอนนี้ยังให้รายละเอียดไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างต้องสรุปให้ได้ภายในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ที่จะมีการประชุมบอร์ดบริหารของทีวีไดเร็คและสปริงนิวส์ในวันเดียวกัน โดยหลังจากประชุมแล้วเสร็จก็น่าจะได้ข้อสรุปทันทีว่าจะเดินหน้ากันอย่างไร ส่วนจะซื้อหุ้นต่อหรือไม่ซื้อนั้น ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจน และเรื่องการต่อรองในประเด็นต่าง ๆ ก็ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้”

สำหรับเงื่อนไขเก่าของการเข้าซื้อหุ้นสปริงนิวส์เมื่อเดือนกันยายน 2561 ที่ระบุว่า สปริงนิวส์ต้องชำระหนี้เก่าให้หมดก่อนนั้น นายทรงพลย้ำว่า โดยหลักสปริงนิวส์จะตั้งทำตัวเองเป็น cash company ก่อน และตอนนี้สปริงนิวส์ก็ยังไม่ได้สรุปว่าเป็น cash company เรียบร้อยแล้วหรือยัง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ต้องคุยเงื่อนไขใหม่ก่อนว่าจะยังไง ความชัดเจนจะเกิดขึ้นหลังวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อตกลงเดิมของการซื้อขายหุ้นดังกล่าว ทีวีไดเร็คจะซื้อหุ้นสปริงนิวส์ในสัดส่วน 90.10% ของหุ้นทั้งหมด เพื่อถือครองใบอนุญาตกิจการโทรทัศน์ พร้อมทั้งจะว่าจ้างให้สปริงนิวส์ผลิตรายการให้ โดยทีวีไดเร็คจะต้องจ่ายเงินให้ปริงนิวส์เดือนละ 7.65 ล้านบาท นับแต่วันที่การซื้อขายหุ้นสำเร็จตลอดอายุใบอนุญาต (สิ้นสุด 24 เมษายน 2572) รวมทั้งสิ้น 949.2 ล้านบาท ส่วนการจ้างผลิตรายการ ทีวีไดเร็คจะต้องชำระค่าจ้างผลิตเดือนละ 1.05 ล้านบาท รวมทั้งให้สิทธิ์สปริงนิวส์ขายเวลาโฆษณา 30% ของเวลาที่สปริงนิวส์ผลิตอีกเดือนละ 540,000 บาท รวม 1.59 ล้านบาท

ขณะที่ สปริงนิวส์จะต้องโอนกรรมสิทธิ์ใบอนุญาตและระบบการออกอาการ รวมทั้งลิขสิทธิ์ ก่อนการซื้อขายหุ้นจะสำเร็จ โดยสาระสำคัญของการซื้อขายดังกล่าว ระบุว่า สปริงนิวส์จะต้องชำระหนี้สินทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนวันซื้อขายหุ้นที่กำหนดในวันที่ 31 ธันวาคม 2561