คอลัมน์ Market-think
โดย สรกล อดุลยานนท์
- เช็กที่นี่ ออมสิน-ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อปิดหนี้นอกระบบ 20,000 บาท ใครกู้ได้บ้าง!
- กรุงเทพฯ กปน.หยุดจ่ายน้ำ 21 มี.ค. 18 พื้นที่ รับมือน้ำไม่ไหล เช็กที่นี่
- เร่งสายสีแดง มธ.รังสิต-มหิดล ศาลายา คอนโดฯ-บ้านเดี่ยวจ่อเปิดตัวรับเทรนด์ปีมังกร
การตัดสินใจคืนช่องทีวีดิจิทัล 7 ช่อง ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องทางธุรกิจ
แต่เป็นเรื่องที่เจ็บปวดของคนทำงาน
ต้องยอมรับว่า “สึนามิ” ของคนวงการโทรทัศน์ครั้งนี้ใหญ่มาก
คนที่ตกงานในครั้งนี้ไม่รู้ว่ามีจำนวนเท่าไร
แต่คงเป็นหลักพันคนอย่างแน่นอน
ทุกครั้งที่ “ฟองสบู่แตก” มักจะมี “ความเจ็บปวด” เช่นนี้เกิดขึ้นเสมอ
กลุ่มบีอีซี เวิลด์ หรือ “ช่อง 3” ก็ตัดสินใจคืน 2 ช่อง
คือ ช่อง 3 SD และช่อง 3 แฟมิลี่
เป็นการตัดสินใจหลังจากแต่งตั้ง “อริยะ พนมยงค์” จาก “ไลน์” มาเป็น “กรรมการผู้อำนวยการ”
แม้ “อริยะ” จะไม่ใช่เสียงชี้ขาดในการตัดสินใจ
เพราะเรื่องแบบนี้ต้องเป็นการตัดสินใจของตระกูล “มาลีนนท์” ผู้ถือหุ้นใหญ่
แต่การมาของ “อริยะ” ทำให้การตัดสินใจเรื่องนี้ง่ายขึ้น
เพราะ “อริยะ” เชี่ยวชาญเรื่องโลกดิจิทัล ตั้งแต่ทำงานอยู่กับกูเกิลและไลน์
การตัดสินใจคืน 2 ช่อง เพื่อหยุดเลือด ลดการขาดทุน
และบุกเบิกเส้นทางใหม่ ซึ่งเป็นเส้นทางอนาคต
การมีชื่อ “อริยะ” ประทับตราอยู่ ทำให้ความน่าเชื่อถือสูงขึ้น
ช่อง 3 จะได้เงินคืนจาก กสทช. 1,182 ล้านบาท
และไม่ต้องจ่ายค่างวดและค่าเช่า MUX ทุกปี
ได้เงินก้อนใหญ่ และลดค่าใช้จ่ายต่อปีจำนวนมาก
ตัวเลขผลประกอบการของช่อง 3 น่าจะดีขึ้น
เพราะรายได้ส่วนใหญ่ของกลุ่มก็อยู่ที่ช่อง 3 HD
ส่วนอีก 2 ช่องมีรายได้น้อยมาก
ที่ผ่านมาช่อง 3 เสียเปรียบช่อง 7 คู่แข่งหลัก ตรงที่ต้องแบกภาระ 2 ช่องใหม่
ในขณะที่ช่อง 7 ไม่ต้องคิดอะไรมาก
โฟกัสช่องเดียวไปเลย
ตอนแรกที่ประมูลทีวีดิจิทัล คนในวงการคิดว่าช่อง 7 คิดผิด
มีเงินตั้งเยอะ แต่ทำไมไม่ประมูลหลาย ๆ ช่อง
ช่อง 3 คิดถูกที่ประมูลช่อง SD ด้วย
มีการคิดถึงขั้นว่า ช่อง 3 น่าจะใช้ช่อง 3 SD เป็น “ไฟติ้งแบรนด์” ชนกับ “ช่อง 7”
ส่วนช่อง 3 HD ก็กินตลาดคนเมืองช่องเดียว
ช่อง 7 เหนื่อยแน่
แต่วันนี้พิสูจน์แล้วว่า ช่อง 7 คิดถูกที่ประมูลช่องเดียว
ดังนั้น เมื่อช่อง 3 คืน กสทช.ไป 2 ช่อง เหลือแค่ช่องเดียว
เขาก็สามารถทุ่มเทสรรพกำลังเต็มที่ได้
ยิ่งถ้าตัวเลขผลประกอบการดีขึ้น ทีมบริหารไม่ต้องพะวงกับคำถาม และความคาดหวังของนักลงทุนมาก
เรตติ้งช่อง 3 น่าจะดีขึ้น
ในขณะเดียวกันก็น่าจับตามองว่า “อริยะ” จะใช้ฝีมือความสามารถที่สั่งสมมาจาก “กูเกิล” และ “ไลน์” ช่วยช่อง 3 กับเส้นทางในโลกดิจิทัลได้มากแค่ไหน
เพราะการตัดสินใจเลือก “อริยะ” มานั่งเก้าอี้ใหญ่ครั้งนี้ แสดงว่าช่อง 3 เชื่อในเส้นทางอนาคตอย่างยิ่ง
เมื่อ “เชื่อ” ก็ต้อง “คาดหวัง”
ยิ่งภาระค่าใช้จ่ายของ 2 ช่อง
ทีวีดิจิทัลที่หนักหนาสาหัสได้ถูกปลดลงแล้ว
ไม่ต้องแบกสัมภาระหนักอึ้งไว้บนบ่า
ความคาดหวังต่อ “อริยะ” ย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย
ครับ จับตา “ช่อง 3” ยุคใหม่
กับเส้นทางสายใหม่
ที่ไม่เหมือนเดิม