เครื่องฟอกฯคึกรับ PM2.5 แห่สต๊อกสินค้า-อัดโปรแรงหนุนโต 60%

เครื่องฟอกอากาศสบช่องฝุ่น PM 2.5 กลับมาใหม่ แห่สต๊อกสินค้ารับดีมานด์พุ่ง “ฟิลิปส์-แอลจี-ไดกิ้น” เร่งเปิดเกมรุก ส่งสินค้าใหม่ลุย มั่นใจตลาดยังเล็กมีโอกาสเติบโตอีกมาก ด้านช่องทางขายหลัก “เดอะมอลล์ เซ็นทรัล โฮมโปร” พร้อมใจกระหน่ำโปรโมชั่นแรง ลดราคาตั้งแต่ 1,000-10,000 บาท ผ่อน 0% นาน 10 เดือนเกลื่อน หวังกระตุ้นการตัดสินใจ คาดสิ้นปีตลาดโตเบาะ ๆ 60%

การกลับมาของปัญหาฝุ่น PM 2.5 เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เพราะมีฝนมาเป็นตัวช่วย แต่ก็เป็นสิ่งที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาสนใจเรื่องคุณภาพอากาศอีกครั้ง และอีกด้านหนึ่งก็เป็นสัญญาณให้บรรดาแบรนด์สินค้าและร้านค้าเริ่มเตรียมตัวรับดีมานด์เครื่องฟอกอากาศที่มีแนวโน้มจะพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา และลากยาวมาจนถึงต้นปี ขณะเดียวกัน ก็ส่งผลให้เครื่องฟอกอากาศเป็นที่ต้องการมากขึ้น แต่ละค่ายมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็นกอบเป็นกำ

สต๊อกสินค้ารับดีมานด์พุ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดจากการสำรวจตลาดเครื่องฟอกอากาศ พบว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการแทบทุกค่ายต่างเริ่มมีความเคลื่อนไหวในการสต๊อกสินค้าในจำนวนที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับดีมานด์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ได้เร่งกระจายสินค้าไปยังร้านค้าต่าง ๆ ควบคู่กับการสร้างการรับรู้ผ่านเฟซบุ๊กและโซเชียลเน็ตเวิร์กต่าง ๆ รวมถึงเตรียมนำสินค้ารุ่นใหม่เข้ามาทำตลาด ขณะที่

ช่องทางจำหน่าย ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและห้างสรรพสินค้า ต่างก็ทยอยลอนช์โปรโมชั่น ทั้งการลดราคา-ของแถม และผ่อน 0% ออกมาเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจและชิงเม็ดเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ

นางสาวสิริวรรณ นิจกิจจาทร ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจ Personal Health บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด ฉายภาพทิศทางตลาดเครื่องฟอกอากาศช่วงโค้งท้ายนี้ว่า ปัจจุบันผู้บริโภคมีความเข้าใจและตื่นตัวเรื่องปัญหาฝุ่น PM 2.5 มากขึ้น จึงเชื่อว่าหากปัญหา PM 2.5 กลับมาอีกครั้งในช่วงโค้งท้ายนี้จะกระตุ้นดีมานด์เครื่องฟอกอากาศได้ไม่ต่างจากที่เคยเกิดเหตุการณ์มาแล้วเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะทำให้ตลาดเครื่องฟอกอากาศเติบโตแบบก้าวกระโดด หลังจากช่วง 6 เดือนแรกตลาดนี้มีมูลค่าประมาณ 2,300 ล้านบาท

สำหรับฟิลิปส์เองขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมทั้งด้านสำรองสินค้า รวมถึงการสื่อสารที่จะชูจุดขายเซ็นเซอร์วัดคุณภาพอากาศและระบบกรองอากาศแบบหลายขั้นตอนที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของฟิลิปส์ รวมถึงเตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทางออนไลน์และออฟไลน์เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้า นอกจากนี้ ในช่วงต้นปีหน้าบริษัทก็จะเปิดตัวเครื่องฟอกอากาศรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่ม

คาดตลาดรวมโตเบาะ ๆ 60%

นายอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศและเครื่องฟอกอากาศ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดเครื่องฟอกอากาศของไทยยังเล็กเพราะอยู่ในช่วงเริ่มต้นจึงมีโอกาสเติบโตอีกมาก เชื่อว่าปีนี้อาจเติบโตได้ถึง 60% ด้วยเม็ดเงินจากกลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่ โดยเดือนพฤศจิกายนนี้แอลจีจะนำเครื่องฟอกอากาศรุ่นใหม่เข้ามาขายอีก 2 รุ่น รวมเป็น 4 รุ่น เพื่อให้สามารถรองรับดีมานด์ได้หลากหลายและครอบคลุมยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายไลน์อัพเครื่องปรับอากาศที่มีฟังก์ชั่นฟอกอากาศที่จะวางขายในปีหน้าอีกด้วย

นายอำนาจกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ที่ผ่านมาแอลจียังได้นำเครื่องฟอกอากาศไปขอการรับรองจากสำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งผ่านการรับรองทุกรุ่น จึงมั่นใจว่าจะทำให้ยอดขายของแอลจีเติบโตได้ในระดับใกล้เคียงกับตลาดรวม หรือเติบโต 60%

ด้านนายสมพร จันกรีนภาวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด ที่ฉายภาพความพร้อมของบริษัท กับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ช่วงโค้งท้ายนี้น่าจะมีดีมานด์เครื่องฟอกอากาศสูงขึ้นเช่นเดียวกับช่วงต้นปี จึงได้สำรองสินค้าไว้มากกว่าปกติประมาณ 30-40% พร้อมเร่งกระจายสินค้าเข้าสู่ร้านค้าพันธมิตร โดยคาดว่าจะพร้อมเต็ม 100% ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ พร้อมกันนี้บริษัทยังจะลอนช์โปรโมชั่นผ่อน 0% เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

สำหรับช่วงเดือนตุลาคมนี้ บริษัทจะเดินหน้าสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสินค้าผ่านทางสื่อออนไลน์และออฟไลน์ โดยแบ่งเป็นกลุ่มครอบครัวที่มีลูกเล็กซึ่งจะใช้เครื่องฟอกอากาศรุ่น MC30VVM-A เป็นหัวหอกชูระบบกรองอากาศด้วยฟิลเตอร์อย่างเดียว เหมาะสำหรับใช้งานใกล้กับเด็กเล็ก ขณะที่กลุ่มลูกค้าทั่วไปจะชูรุ่นที่สูงขึ้นด้วยจุดขายระบบปล่อยประจุไอออนเพื่อฆ่าเชื้อโรคพร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทั้งนี้ เชื่อว่าดีมานด์ช่วงปลายปีจะช่วยให้ยอดขายเครื่องฟอกอากาศเติบโต 30%

“แม้เครื่องฟอกอากาศมีสัดส่วนรายได้เพียง 1% ของบริษัท แต่ถือเป็นเครื่องมือสร้างการรับรู้ที่สำคัญ เพราะแม้จะมีผู้บริโภคใช้แอร์ยี่ห้ออื่นอยู่ แต่ก็สามารถใช้เครื่องฟอกอากาศของเราได้ ทำให้เป็นโอกาสได้ทดลองสินค้า-บริการของบริษัท”

กระหน่ำโปรฯแรงดึงลูกค้า

ด้านความเคลื่อนไหวของร้านค้าต่าง ๆ จากการสำรวจของผู้สื่อข่าวพบว่า ขณะนี้หลาย ๆ แห่งได้เริ่มจัดโปรโมชั่นสินค้ากลุ่มเครื่องฟอกอากาศกันอย่างคึกคัก ไม่ว่าจะเป็น “เพาเวอร์มอลล์” เชนร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในเครือเดอะมอลล์ ซึ่งลดราคาเครื่องฟอกอากาศรุ่นที่ร่วมรายการสูงสุด 33% เช่น ไบออนแอร์ รุ่น BAP-6350 จาก 35,900 บาท เหลือ 25,900 บาท หรือลดราคา 10,000 บาท ขณะที่ฟิลิปส์ รุ่น AC0820/20 จาก 5,990 บาท เหลือ 4,590 บาท หรือลดราคาประมาณ 1,400 บาท เป็นต้น พร้อมรับคูปองเอ็มการ์ดมูลค่า 2,000-2,500 บาท รวมถึงของแถม เช่น เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ และผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน

ส่วนแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ได้จัดโปรโมชั่นลดราคาเครื่องฟอกอากาศ โดยมีการจัดพื้นที่พิเศษเพื่อโชว์เครื่องฟอกอากาศจากหลากหลายยี่ห้อ อาทิ บลูแอร์ โตชิบา

ฟิลิปส์ บีเวลล์ ทีฟาล์ว และอื่น ๆ พร้อมส่วนลด 3-5% พร้อมกิฟต์โวเชอร์ 300 บาท และส่วนลดพิเศษแตกต่างกันตามแต่ละยี่ห้อ เช่น ฟิลิปส์ ที่นอกจากลดราคาเครื่องฟอกอากาศ 1,000-2,000 บาทแล้ว ยังให้ส่วนลดเพิ่มอีก 1,000-3,000 บาท เมื่อซื้อสินค้าแบรนด์ฟิลิปส์ครบ 10,000 บาท ส่วนบลูแอร์ให้ส่วนลด 2,475-9,800 บาท เป็นต้น

เช่นเดียวกับ “โฮมโปร” ที่จัดโปรโมชั่นกระตุ้นการขายเครื่องฟอกอากาศทั้งออฟไลน์และออนไลน์ อาทิ แคมเปญเบทเทอร์ไลฟ์ เบทเทอร์ไพรส์ ทางโฮมโปรออนไลน์ โดยลดราคาเครื่องฟอกอากาศและอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นสูงสุด 50% ในขณะที่ทางหน้าร้านให้ส่วนลดพิเศษสำหรับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ