อิชิตันปันใจชาเขียวบุกน้ำดื่ม ส่ง”พีเอชพลัส”เจาะไทย-เทศ

น้ำดื่ม 4.5 หมื่นล้านโตแกร่ง สวนทางชาเขียว “อิชิตัน” ปรับแผนส่ง PH PLUS 8.5 น้ำดื่มผสมวิตามินตีตลาดเร็วขึ้น 1 ไตรมาส รับดีมานด์รักสุขภาพมาแรง-กำไรสูง พร้อมเจรจากัมพูชา ลาว ขยายตลาดส่งออกครึ่งปีหลัง ก่อนเพิ่มน้ำหนักเปิดตัวสินค้าใหม่ “ลูกอม” เย็นเย็นคูล เสริมรายได้ต่อเนื่อง หลังไตรมาสแรกปิดรายได้ที่ 1,285 ล้านบาท

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตันกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจเครื่องดื่มในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา เทรนด์ของสุขภาพและพรีเมี่ยมยังคงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ โดยเฉพาะในช่วงที่มีสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ทำให้ผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพมากขึ้น จึงเป็นโอกาสให้กับอิชิตันในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นตลาดชาเขียวพรีเมี่ยม ภายใต้แบรนด์ชิซึโอกะ และการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ เพื่อตอบรับเทรนด์ดังกล่าว

โดยล่าสุด บริษัทได้พัฒนาน้ำดื่มอัลคาไลน์ผสมวิตามินบีรวม ภายใต้แบรนด์ PH PLUS 8.5 และได้ปรับแผนการวางตลาดให้เร็วขึ้นกว่าเดิมจากไตรมาส 3 เป็นวันที่ 1 มิถุนายนนี้ ครอบคลุมทั้งโมเดิร์นเทรด เทรดิชั่นนอลเทรดทั่วประเทศ วางขายในราคาขวดละ 20 บาท ปริมาณ 550 มล. และอยู่ระหว่างการเจรจากับดิสทริบิวเตอร์ในลาวและกัมพูชาเพื่อส่งสินค้าไปจำหน่าย โดยคาดว่าจะสามารถส่งออกไปได้ภายในไตรมาส 3 นี้

“ไฮไลต์ในปีนี้คืออิชิตันจะเข้าไปในตลาดน้ำดื่ม ที่มีมูลค่าตลาดอยู่ 4.5 หมื่นล้านบาท มีการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเซ็กเมนต์ของน้ำดื่มที่เน้นสุขภาพ มีการเติบโตสูงในช่วงที่โควิด-19 ระบาด และพีเอชพลัสตัวนี้มีกำไรขั้นต้นมากกว่า 30% สูงกว่าธุรกิจเดิมที่เราเคยมี ถ้าขายสินค้านี้ได้มากจะทำให้ค่าเฉลี่ยในความสามารถทำกำไรของอิชิตันดีขึ้น”

ในขณะที่ตลาดชาเขียวพร้อมดื่มภาพรวมมีมูลค่า 12,320 ล้านบาท ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาเติบโตลดลงเฉลี่ย 4.3% และในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมีมูลค่าอยู่ที่ 2,782 ล้านบาท หดตัว 5.6% โดยอิชิตันมีการปรับกลยุทธ์สำหรับตลาดชาเขียวใหม่ โฟกัสไซซ์เล็ก 280 มล. ราคา 10 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ทำให้มีการเติบโตในไซซ์นี้ถึง 70%

นายตันกล่าวต่อว่า ในช่วงครึ่งปีหลังจะโฟกัสไปที่สินค้าแคทิกอรี่ใหม่และตลาดใหม่มากขึ้น ภายใต้กลยุทธ์ 3N-new product, new business และ new market เช่น ลูกอม เย็นเย็นคูล รวมถึงการอยู่ระหว่างการเจรจาพันธมิตรรายใหม่ในเวียดนามและเมียนมา

สำหรับบริษัทร่วม อิชิตัน อินโดนีเซีย ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 4,156 ล้านลัง แม้ในช่วงไตรมาส 2 อินโดนีเซียจะมีการล็อกดาวน์อยู่ แต่คาดว่าจะส่งผลไม่รุนแรงนัก เพราะสินค้าที่วางขายเจาะตลาดพรีเมี่ยม ส่วนภาพรวมของยอดขายในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมายังมีการเติบโต และในไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทรับรู้ผลกำไรที่ 8.4 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานของอิชิตันในไตรมาสแรก มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 1,285.4 ล้านบาท ลดลง 2.6% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 159.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.4% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาและมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ อาทิ ชาเขียวชิซึโอกะ 2 รสชาติใหม่ สูตรเกียวคุโระ ไม่เติมน้ำตาล และสูตรเทนฉะ มัทฉะ ฮันนี่, อิชิตัน ไอซี่ มินต์ หรือชาเขียวน้ำผึ้งมะนาวผสมมินต์, เย็นเย็น สูตร เย้นนนเย็น, เครื่องดื่มโอเลี้ยง ภายใต้แบรนด์ “สภากาแฟ” และนมอัดเม็ด ภายใต้แบรนด์ “วันมอร์” พร้อมกับมีแคมเปญการตลาดที่เน้นเจาะฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ และกลุ่มอีสปอร์ต อย่าง ICHITAN x Free Fire