“แอลจี” ขี่กระแสโอแอลอีดี ปูพรมสินค้าชิงทีวีพรีเมี่ยม

“แอลจี” โดดร่วมสงครามทีวีพรีเมี่ยม ชูภาพขาใหญ่โอแอลอีดีทีวี ปูพรม 7 รุ่นใหม่ โอ่หลากหลายสุดในตลาดสตาร์ต 9.9 หมื่น หวังกวาดฐานลูกค้าไฮเอนด์เพิ่มแชร์จาก 30% เป็น 40% แซงคู่แข่งเกาหลีขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งตลาดทีวีพรีเมี่ยม

นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจีอีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ตลาดทีวีมีแนวโน้มเติบโตประมาณ 2% เป็นมูลค่าประมาณ 2.9 หมื่นล้านบาท เนื่องจากการแข่งขันของผู้เล่นทั้งผู้ประกอบการจากค่ายเกาหลีและญี่ปุ่นที่พยายามส่งสินค้าเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการทีวีจอขนาดใหญ่และมีความคมชัดของภาพสูงด้วยทีวีระดับไฮเอนด์มูลค่าสูง

ทั้งนี้เพื่อสร้างยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังที่เหลืออยู่และเป็นการชดเชยยอดขายในช่วงที่ผ่านมาของตลาดที่มีการหดตัวไปกว่า 6% ในปี 2559 จนทำให้มูลค่ารวมของตลาดเหลือเพียง 2.8 หมื่นล้านบาท

ซึ่งการหดตัวของตลาดรวมทีวีในช่วงที่ผ่านมาดังกล่าวนั้น สอดคล้องกับแนวโน้มของทีวีไซซ์ขนาดต่ำกว่า 44 นิ้วลงไปที่หดตัวและได้รับผลกระทบจากโทรศัพท์มือถือและสินค้ากลุ่มแท็บเลตที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่

โดยแอลจีพร้อมเข้ามาแข่งขันในตลาดนี้ด้วยเป้าหมายชิงอันดับหนึ่งตลาดทีวีพรีเมี่ยมด้วยส่วนแบ่ง 40% จากปัจจุบันที่มีส่วนแบ่งในตลาดนี้ประมาณ 30% โดยมีจอทีวีในเซ็กเมนต์ที่เรียกว่า โอแอลอีดีทีวี เป็นสินค้าเรือธงสำหรับบุกตลาดจากนี้

พร้อมใช้ข้อได้เปรียบในฐานะผู้ผลิตพาแนลโอแอลอีดีทีวีรายใหญ่เข้ามาสร้างจุดขาย อย่างราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งและหลากหลายครอบคลุมผู้บริโภคไฮเอนด์ทุกกลุ่มตั้งแต่ 9.9 หมื่นถึง 5.9 แสนบาท รวม 7 รุ่น รวมถึงเทคโนโลยีด้านภาพและเสียงอื่น ๆ เพื่อสร้างความแตกต่างและคุ้มค่ากระตุ้นการตัดสินใจ เช่นเดียวกับยูเอชดีทีวีอีก 5 ซีรีส์สำหรับตลาดกลางบน

นอกจากนี้ยังทุ่มงบฯ 150 ล้านบาททำตลาดทีวีครบวงจร ทั้งจับมือผู้กำกับ เต๋อ นวพล ธํารงรัตนฤทธิ์ สร้างภาพยนตร์ไวรัลบนโซเชียลเน็ตเวิร์กและโปรโมชั่นแถมเครื่องเสียง รวมขยายช่องทางขายเพิ่มจาก 110 ร้านเป็น 200 ร้าน มั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายทีวีรวมไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท โดยทีวีพรีเมี่ยมทั้งโอแอลอีดีและยูเอชดีทีวีมีสัดส่วน 5,000 ล้านบาท

 

 

แฟ้มภาพไม่เกี่ยวกับข่าว