ซีพีเอฟ เด้งรับเทรนด์สุขภาพ รุกอาหารพร้อมทานเฮลตี้

โควิดปลุกกระแสสุขภาพ-ทำอาหาร “ซีพีเอฟ” สบช่องส่งอาหารพร้อมทาน-วัตถุดิบ รับดีมานด์ เปิดตัวซุปข้าวโพด-ฟักทอง เพิ่มทางเลือก ชูจุดขายสะดวกเสิร์ฟได้ทันที-โซเดียมต่ำ เล็งเจาะธุรกิจจัดเลี้ยง-โรงแรม ส่งออกตลาดเอเชีย พร้อมเตรียมผลิตซุปชาบูเข้มข้น รับกระแสชาบูฮิตไม่เลิก เร่งจัดกิจกรรมทางการตลาดเต็มสูบสร้างการรับรู้ ทั้งโปรโมชั่นลดราคา-แจกฟรีหมื่นถ้วย

นายอำนาจ กัลยาณคุณาวุฒิ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันภาพรวมของสินค้ากลุ่มอาหารพร้อมทานและวัตถุดิบยังเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสินค้าดังกล่าวเป็นปัจจัย 4 และมีความจำเป็น ต่างจากสินค้าอื่น ๆ ผู้บริโภคเริ่มชะลอการซื้อการจับจ่าย จากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัว สะท้อนจากจำนวนผู้บริโภคที่หันมาทำอาหารทานเอง พร้อมลดความถี่ของการทานอาหารนอกบ้านลง เพื่อลดรายจ่ายรับมือสภาพเศรษฐกิจ และมีผู้บริโภคอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังเน้นการทำอาหารรับประทานเองที่บ้านต่อไป แม้ทางการจะคลายล็อกแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตามจากการศึกษาพบว่า ปัจจุบันพฤติกรรมการบริโภคและเลือกซื้ออาหารของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปจากที่ผ่านมา ๆ โดยต้องการอาหารที่เป็นมิตรกับสุขภาพ และมีความอ่อนไหวต่อราคา รวมถึงความปลอดภัยของสินค้าอาหารมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปริมาณส่วนประกอบที่มีผลต่อสุขภาพ เช่น ปริมาณเกลือ หรือน้ำตาล นอกจากนี้ แม้ว่าผู้บริโภคจะต้องการรับประทานผักมากขึ้น แต่อีกด้านหนึ่งมีอุปสรรคหลายด้าน เช่น ความกังวลเรื่องสารกำจัดศัตรูพืชตกค้าง ความยุ่งยากในการเตรียมอาหาร กลิ่น และรสที่ไม่ถูกปาก

นายอำนาจกล่าวต่อไปว่า เพื่อชิงโอกาสจากเทรนด์ และโจทย์ของผู้บริโภคนี้ บริษัทจึงเดินหน้าขยายไลน์อัพสินค้ากลุ่มอาหารพร้อมทาน และวัตถุดิบอาหาร มุ่งเน้นจุดขายด้านความสะดวกในการใช้งาน และความปลอดภัยของวัตถุดิบ รวมกับรสชาติ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค โดยอาศัยจุดแข็งด้านเครือข่ายคอนแทร็กต์ฟาร์มที่มีอยู่ และเครื่องจักรการผลิตรุ่นใหม่มาสร้างผลิตภัณฑ์

โดยเลือกเจาะเซ็กเมนต์น้ำซุป ด้วยซุปข้นพร้อมทาน และซุปใสเข้มข้น หลังการสำรวจตลาดพบว่า ซุปข้นเป็นหนึ่งในอาหารที่ผู้บริโภคไทยชื่นชอบ แต่ทำเองได้ยากเนื่องจากไม่คุ้นเคย และการทานตามร้านมีราคาแพงเฉลี่ย 100 บาทขึ้นไป ส่วนซุปใสนั้นแม้จะคุ้นเคยและทำเองได้ง่าย แต่หากไม่ใช้ซุปก้อนกระบวนการเคี้ยวจะใช้เวลานาน จึงเป็นโอกาสที่จะส่งสินค้าใหม่เข้าตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้

ล่าสุดบริษัทได้ลอนช์ซุปผัก CP Veg it up เข้าสู่ตลาด นำร่องด้วยซุปข้าวโพด และซุปฟักทอง ซึ่งเป็น 2 ใน 4 ซุปข้นที่คนไทยนิยม พร้อมจุดขายความสะดวก-ปลอดภัยที่สามารถทานได้ทันที ไม่ต้องเติมน้ำหรืออุ่นร้อน รวมถึงมีโซเดียม-น้ำตาลต่ำ และสามารถเก็บได้นาน 6 เดือน แม้ไม่แช่เย็น เนื่องจากผลิตแบบปลอดเชื้อ อีกทั้งมีระบบติดตามวัตถุดิบย้อนกลับไปยังแหล่งผลิต ช่วยย้ำความมั่นใจ โดยเริ่มวางขายในร้านค้าปลีกต่าง ๆ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และเตรียมเปิดตัวอีก 2 รสชาติ “ผักโขม” “เห็ด” ในช่วงต้นปีหน้า

“นอกจากนี้ เราศึกษาโอกาสขยายฐานไปยังกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร-จัดเลี้ยง โรงแรมระดับ 3 ดาว ที่ต้องการอัพเกรดไลน์อัพเมนู ด้วยแพ็กเกจแบบพร้อมเสิร์ฟไม่ต้องตักแบ่ง ซึ่งจะช่วยลดเวลาเตรียมอาหาร เช่นเดียวกับการส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ในโซนเอเชีย เช่น สิงคโปร์ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน เป็นต้น”

รองกรรมการผู้จัดการบริษัท ซีพีเอฟ ระบุด้วยว่า โดยในช่วงแรกนี้ บริษัทจะมีการทำการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ และทดลองชิม ทั้งเดินสายแจกสินค้าให้ทดลองชิมตามอาคารสำนักงานหลายแห่ง จำนวนกว่า 1 หมื่นถ้วย พร้อมสื่อสารผ่านโซเชียลเน้นย้ำความเชื่อมั่น ด้วยการโชว์กระบวนการผลิต และเนื้อ-สีของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งในช่วงเปิดตัวจัดโปรโมชั่นลดราคาเหลือถ้วยละ 30 บาท จากปกติ 35 บาท

นอกจากนี้ สำหรับซุปใส ยังเตรียมเปิดตัวซุปชาบูเข้มข้น รับความนิยมบริโภคชาบูที่ยังมาแรงของคนไทย ต่อยอดจากก่อนหน้านี้เปิดตัวน้ำสต๊อกไก่เข้มข้น พร้อมจุดขายโซเดียมต่ำ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ไม่ต้องการใช้ซุปก้อนในการประกอบอาหาร ซึ่งได้รับผลตอบรับดี แม้จะวางขายเฉพาะในร้านซีพีเฟรชมาร์ทก็ตาม มั่นใจว่าสินค้าใหม่ทั้ง 2 กลุ่มนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างการเติบโตให้กับบริษัทในช่วงโค้งท้ายนี้