จีเอ็มเอ็ม โชว์ ใช้เทคโนโลยีเช็กความหนาแน่น ผู้ชมคอนเสิร์ต

แฟ้มภาพ

จีเอ็มเอ็มโชว์ จับมือ Eventpop ลงทุนพัฒนาเทคโนโลยี “Fieldwave” ผสานRFID -บิ๊กเดต้า ติดตามความเคลื่อนไหวผู้ชม หวังเข้มความปลอดภัย ประเดิมใช้ในงาน บิ๊กเมาน์เท่นมิวสิคเฟสติวัล -เชียงใหญ่เฟส 2

นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น เข้ามาเป็นตัวเร่งให้ธุรกิจต้องปรับตัว เพื่อความอยู่รอดและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับ GMM SHOW ผู้จัดคอนเสิร์ตและมิวสิคเฟสติวัลภายใต้ จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ที่ไม่หยุดพัฒนามาตรการเพิ่มความปลอดภัยให้คนดูมากขึ้น แม้จะมีการปลดล็อคให้จัดงานได้ แต่GMM SHOW ได้วางแนวทางที่รัดกุม ด้วยการกำหนดแผนรองรับเพื่อให้การจัดคอนเสิร์ตยังคงสามารถเดินหน้าต่อไปได้โดยมีผลกระทบน้อยที่สุด

ขณะเดียวกัน หลังจากการผ่อนคลายมาตรการการจัดงาน GMM SHOW ได้เริ่มต้นด้วยการจัดงานจาก สเกลเล็กไปหาใหญ่ ได้แก่ 3 คอนเสิร์ตเดี่ยวที่ได้จัดไปแล้ว 3 ของศิลปิน อาทิ ลุลา ป๊อบ-ปองกูล และ อะตอม-ชนกันต์ จะเห็นได้ถึงความพร้อมในทุกด้าน ทั้งมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ความพร้อมด้านสุขอนามัย การจัดปริมาณและระบบการเข้าออกงาน เพื่อทำให้คอนเสิร์ตยังมีความสนุกเหมือนเดิมและมีความปลอดภัยมากขึ้น

ล่าสุด จึงได้จับมือกับ Eventpop ลงทุนพัฒนาเทคโนโลยี “Fieldwave” เพื่อติดตามความเคลื่อนไหว ควบคู่กับประมวลความหนาแน่นของผู้ชมในพื้นที่จัดงานได้แบบ Realtime โดยการผสานเทคโนโลยี RFID (Radio Frequency Identification) และ Big Data จาก Smart ID เข้าด้วยกัน ถือเป็นการใช้คลื่นความถี่เพื่อติดตามและระบุอัตลักษณ์ของผู้ชมในงาน มีระบบวิเคราะห์ประมวลผลให้ผู้จัดสามารถเห็นเดต้า ของความหนาแน่นของจำนวนผู้ชมในแต่ละเวที

รวมทั้งสามารถดู Customer Journey ว่าผู้ชมได้เคลื่อนย้ายไปจุดใดมาบ้าง ผ่านระบบ Ultra-High Frequency ที่เป็นเทคโนโลยีจับความเคลื่อนไหวผ่านการสแกนแบบไม่ต้องสัมผัสโดยใช้คลื่นความถี่วิทยุระยะไกล ซึ่งไม่ทำให้ประสบการณ์เข้าชมงานของผู้ชมเปลี่ยนแปลงไป โดยจะเริ่มนำไปใช้ตั้งแต่การจัดมิวสิคเฟสติวัลในปลายปีนี้ ได้แก่ เชียงใหญ่เฟส 2, บิ๊กเมาน์เท่นมิวสิคเฟสติวัล 11 ตลอดจนทุกมิวสิคเฟสติวัลในปีหน้า อาทิ นั่งเล่นมิวสิคเฟสติวัล 6 ฯลฯ

ด้านนางสาวธารทิพย์ แสงสาตรา รองกรรมการผู้อำนวยการ-หน่วยงาน Big Data บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) รุบะว่า ข้อมูลที่ได้มาในส่วนของ Customer Journey ทำให้เห็นพฤติกรรมของผู้ชมในแต่ละเวทีได้อย่างชัดเจน ทั้งในส่วนของเพศ อายุ ที่สำคัญยังทำให้เรามองเห็นถึงความนิยมในตัวของศิลปินแต่ละคนที่ขึ้นเวทีได้อีกด้วย ซึ่ง Big Data ที่ได้มาทั้งหมดนั้นจะถูกนำไปวิเคราะห์ วางแผน ในการจัดงานครั้งต่อไปได้อย่างมีกลยุทธ์และความปลอดภัย