ขณะที่ปี 2020 ถือเป็นฝันร้ายของแบรนด์ร้านอาหารทั่วโลก แต่ “เบอร์เกอร์คิง” กลับเลือกฝ่ากระแสโควิด ด้วยการลุกขึ้นมารีแบรนด์ครั้งแรกในรอบ 20 ปี หลังก้าวเข้าสู่ปี 2021 ได้เพียงไม่กี่วัน
ที่มาการปรับโลโก้ใหม่ของ “เบอร์เกอร์คิง”
เมื่อพูดถึงการรีแบรนด์ สิ่งแรกที่ทุกคนพากันจับจ้องคือ “โลโก้” ซึ่งโลโก้ใหม่ของเบอร์เกอร์คิงเกิดจากความร่วมมือของทีมสร้างสรรค์ภายในบริษัทและโจนส์ โนเลส ริทชี่ (บริษัทเอเจนซีชื่อดัง ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในลอนดอน, นิวยอร์ก และเซี่ยงไฮ้) โดยเจ้าโลโก้ใหม่นี้จะไปปรากฏอยู่ในแพคเกจ, โซเชียลมีเดีย, ยูนิฟอร์มพนักงาน เรื่อยไปจนถึงกระดานเมนู
- ทุเรียนทะลักวันละพันตู้ ล้งเบรกซื้อ ฉุดราคาดิ่งเหลือโลละ 135-140 บาท
- เช็กที่นี่ เบี้ยผู้สูงอายุ พฤษภาคม 2567 เงินเข้าวันไหน
- ธ.ก.ส. เผย สินเชื่อดอกเบี้ยล้านละร้อย เหลือวงเงินกู้อีก 1.5 หมื่นล้าน
เว็บไซต์ครีเอทีฟรีวิว รายงานว่า หัวใจสำคัญของการรีแบรนด์คือการปรับโลโก้ที่มีอยู่ โดยลดการสะท้อนแสงบริเวณตัวขนมปัง แล้วเน้นให้ตัวอักษรให้โค้ง มน หนา มากยิ่งขึ้น
“เฟอร์นานโด มาชาโด” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดของเบอร์เกอร์คิง ให้สัมภาษณ์กับแอดวีคว่า ที่มาของแรงบันดาลใจนี้คือโลโก้ที่เบอร์เกอร์คิงใช้ ช่วงยุค 1969-1999
“ความแตกต่างที่สำคัญคือเราเพิ่งปรับสีให้สดใสและเหมือนกับสีสันของอาหารมากยิ่งขึ้น และเราเพิ่งจะปรับสัดส่วนของเบอร์เกอร์ (ในโลโก้) ให้เหมือนกับสินค้าที่เราขาย”
โดยสีตัวอักษรที่เข้มขึ้นในโลโก้ใหม่นั้นมาจากสีของกระบวนการย่างด้วยเปลวไฟ ซึ่งมีทั้งสีแดงเพลิง สีส้มคล้ายเปลวไฟ รวมถึงสีน้ำตาลของบาร์บีคิว
ด้าน โจนส์ โนเลส ริทชี่ เผยว่า โลโก้แบบนี้เป็นการแสดงความเคารพต่อมรดกของแบรนด์ ด้วยการออกแบบที่ปราณีต เรียบง่าย และสนุกสนาน
คาดว่าเบอร์เกอร์คิงจะทยอยปรับโฉมสาขาทั้งหมดจนครบ 19,000 สาขาทั่วโลก
การรีแบรนด์ดิ้งครั้งนี้ เบอร์เกอร์คิงตั้งความหวังว่าจะสามารถดึงความสนใจจากผู้บริโภคได้ หลังผลประกอบการปีที่แล้วได้รับผลกระทบจากโควิด จนยอดขายลด 7% ส่วนคู่แข่งตลอดกาลอย่างแมคโดนัลด์กลับมียอดขายมากกว่า เมื่อเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน
การรีแบรนด์ยังสะท้อนถึงความพยายามปรับมุมมองผู้บริโภคที่มีต่อฟาสต์ฟู้ด เพื่อให้มองเบอร์เกอร์คิงเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจต่อลูกค้า ซึ่งมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปตามตามแต่ละยุค โดยเฉพาะกระแสรักษ์โลก และคุณภาพสินค้า
เบอร์เกอร์คิงโฉมใหม่แห่งแรกในเอเชีย
ด้านนายธนวรรธ ดำเนินทอง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านเบอร์เกอร์คิงประเทศไทย เผยว่า การรีเฟรชภาพลักษณ์ของแบรนด์ใหม่ เพื่อทำให้แบรนด์ดูทันสมัยยิ่งขึ้น อีกทั้งเหมาะสมกับแพลตฟอร์มดิจิทัล และโลโก้ใหม่นี้ก็ถูกปรับให้ตอบโจทย์วิวัฒนาการของแบรนด์ อีกทั้งยังคงความเป็นเบอร์เกอร์ คิง คือ รสชาติความอร่อยชวนน้ำลายไหล อาหารไซส์ใหญ่ วัตถุดิบคุณภาพ และความเป็นกันเอง
อีกจุดประสงค์ของการปรับลุคในครั้งนี้คือการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับเบอร์เกอร์ คิง ให้สามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้มากยิ่งขึ้น ด้วยลายเส้นและดีไซน์ที่เรียบง่าย สนุกสนาน และ เป็นกันเอง โดยปัจจุบันภาพลักษณ์ดังกล่าวก็ได้ถูกนำมาใช้งานจริงแล้วกับเบอร์เกอร์ คิง ในหลายประเทศ
สำหรับ เบอร์เกอร์ คิง ประเทศไทย มีการปรับเปลี่ยนเช่นเดียวกัน ผ่านการเปิดตัวสาขาล่าสุดของเบอร์เกอร์ คิง ไทย ที่ไม่เพียงนำเอาโลโก้ตัวใหม่ออกมาใช้ แต่ยังได้ปรับสไตล์การตกแต่งภายในร้านให้เข้ากับลุคใหม่ ฉีกจากกรอบเดิมของเบอร์เกอร์ คิง
“สาขานี้จะเป็นสาขาแรกในเอเชียที่มีการรีเฟรชแบรนด์เต็มรูปแบบ บนเส้นกาญจนาภิเษก จังหวัดนนทบุรี ในรูปแบบสาขาสแตนด์อโลน พร้อมบริการไดร์ฟทรูให้บริการ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าที่แวะเข้ามาใช้บริการด้วยรถยนต์หรือมอเตอร์ไซต์ส่วนตัว และสาขาดังกล่าวจะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2564 เป็นต้นไป” ผู้บริหารเบอร์เกอร์คิงประเทศไทยกล่าว
อนาคต นายธนวรรธ เผยว่า จะได้เห็นป้ายที่หน้าร้านเบอร์เกอร์คิงเป็น “ภาษาไทย” ด้วย เพื่อสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้าคนไทย พร้อมกันนี้จะเพิ่มเมนูที่ตรงกับความชอบของคนไทยอีกด้วย
นอกจากนี้ จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 5-10 สาขา เน้นสแตนด์อะโลน เนื่องจากปีที่ผ่านมาสาขาที่มีการเติบโตสูงอยู่ตามปั๊มน้ำมันและจุดที่มีการเดินทาง
