“ตัน ภาสกรนที” แนะคนเป็นหนี้ แยกให้ออกระหว่าง ภาระ-ทรัพย์สิน

“ตัน ภาสกรนที” โพสต์เฟซบุ๊กแนะนำคนเป็นหนี้ แยกให้ออกระหว่าง ภาระ-ทรัพย์สิน อย่าติดกับดักความเสียดาย 

วันที่ 26 มีนาคม 2564 นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กถ่ายทอดประสบการณ์สมัยเป็นหนี้ 100 ล้าน ซึ่งต้องมองให้ออกว่า “อะไรเป็นภาระ อะไรเป็นทรัพย์สิน” แนะคนที่กำลังมีปัญหาเรื่องรายได้ อย่ามัวติดกับดักความเสียดาย ข้อความดังนี้

• “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
• บริษัทดัง ประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
• แจกเงินดิจิทัล 10,000 ลุ้นซื้อไอโฟน-เครื่องใช้ไฟฟ้า “จุลพันธ์” นัดถกหาข้อสรุป

ดอกเบี้ยมันน่ากลัว ผมเคยเป็นหนี้ผมรู้ดี ตอนดอกเบี้ยทบกันมันยิ่งน่ากลัวมาก สมัยที่ยังเป็นหนี้ 100 ล้าน สมมุติตอนนั้นผมมีกำไรจากรายรับ 1 แสน แต่มีรายจ่ายดอกเบี้ย 1.3 แสน ทำให้ผมต้องไปกู้มาอีก 3 หมื่น เพื่อจ่ายดอกเบี้ย เดือนต่อไปก็ต้องไปกู้มา เพื่อมาจ่ายดอกวนกันไป แบบนี้มันไปไม่ไหว ทางเลือกเจ็บแต่จบของผม คือขายทรัพย์สินที่เป็นภาระออกไปปิดหนี้ให้หมด ที่ดิน ห้องแถว นาฬิกา สร้อยเพชรเมีย ผมขายหมด ไม่ห่วงเลยว่าจะเคยซื้อมาเท่าไหร่ ห่วงอย่างเดียวว่าจะจบหนี้เร็วที่สุด

หลักการคือมองให้ออก “อะไรเป็นภาระ อะไรเป็นทรัพย์สิน” ถามตัวเองว่าคุณทำรายได้จากทรัพย์สินพวกนั้นหรือเปล่า ทรัพย์สินตราบใดที่ไม่ขาย คือภาระ แม้แต่บ้านที่อยู่เองก็เป็นภาระ ถ้าในยามจำเป็นคุณไปเช่าที่อื่นแล้วถูกกว่า ซื้อนาฬิกา ถ้าเพื่อต้องการดูเวลาก็อาจเป็นทรัพย์สิน จะ 3,000, 5,000 หรือ 10,000 ก็ยังเป็นทรัพย์สิน แต่ถ้าซื้อมา 1 ล้านแล้วไม่ได้ใช้มันไปสร้างรายได้…มันคือภาระ

ภาระที่ต้องดูแลรักษา วางไว้ก็กังวลว่าจะลืม ใส่แล้วก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น เว้นแต่ว่าคุณใส่นาฬิกา 1 ล้านเพื่อสร้างบุคลิกการแต่งตัวให้ดูหรูหรา แล้วใช้บุคลิกความหรูหราไปสร้างโอกาสให้คุณได้เซ็นต์สัญญาเป็น พรีเซ็นเตอร์สินค้าหรู ๆ ต่อไป นาฬิกา 1 ล้านก็ถือเป็นทรัพย์สิน

หลายคนตอนนี้ อาจกำลังมีปัญหาเรื่องรายได้ ไม่พอเลี้ยงครอบครัว อย่ามัวติดกับดักความเสียดาย ปล่อยให้หนี้สินและดอกเบี้ยล้นพ้นตัว เป็นดินพอกหางหมู อะไรที่มีอยู่แล้วไม่ก่อให้เกิดรายได้มันคือภาระทั้งนั้น อย่ายึดติดว่าเป็นของประจำตระกูล เสียดายไม่อยากขาย ถ้าจำเป็นก็จัดการหนี้เถอะ พอดอกเบี้ยหมดหนี้ก็หมด

คุณจะมีกำลังใจทำอะไรอีกเยอะเลย ถึงตอนนั้นค่อยกลับไปซื้ออีกครั้งก็ยังไม่สาย