สมาคมภัตตาคารไทย ร่อนจดหมายร้องนายกฯ เร่งผ่อนคลายมาตรการขยายเวลานั่งทานได้ถึง 23.00 น. พร้อมผ่อนปรนขาย-นั่งทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต่อลมหายใจคนร้านอาหาร ก่อนแนะรัฐเปิดมาตรการชักจูงลดภาษีเจรจาห้าง เจ้าของพื้นที่ลดค่าเช่า 50% นาน 3 เดือน และลดค่าไฟ 30% นาน 6 เดือน พยุงผู้ประกอบการ
วันที่ 15 มิถุนายน 2564 นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคาร ส่งจดหมายถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เรียกร้องผ่อนคลายมาตรการควบคุมร้านอาหารและมาตรการช่วยเหลือเยียวยา หลังที่ผ่านมาการถูกจำกัดจำนวนที่นั่งในร้าน ถูกจำกัดระยะเวลาให้บริการนั่งรับประทานในร้าน รวมถึงการห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ในร้าน เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ด้วยเหตุนี้ สมาคมภัตตาคารไทย ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการกิจการร้านอาหาร จึงขอความอนุเคราะห์ไปยังท่านนายกรัฐมนตรีให้พิจารณาผ่อนคลายมาตรการที่มีต่อร้านอาหารและพิจารณาเยียวยาให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน
สำหรับข้อเรียกร้องให้พิจารณาผ่อนคลายมาตรการบังคับ มีดังนี้
1 .ขยายระยะเวลานั่งรับประทานอาหารในร้านของพื้นที่ 4 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวดถึงเวลา 23:00 น. และให้ปิดร้านในเวลา 24:00 น.
2 .เพิ่มจำนวนที่นั่งในร้านของพื้นที่ 4 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยใช้การแบ่งระดับตามมาตรการป้องกันของทางร้าน 50% ของพื้นที่ร้านสำหรับร้านที่ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขที่ศบค.กำหนด (Thai Stop Covid) และ 80% สำหรับร้านอาหารที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน Amazing Thailand Safety & Health Administration (SHA) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ World Travel & Tourism Council (WTTC) ให้การยอมรับ และเมื่อมีมาตรฐานสูง
ดังนั้น จึงขออนุญาตให้ร้านอาหารที่มีมาตรฐานขั้นสูงสุด สามารถจำหน่ายและบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านได้ ทั้งนี้พฤติกรรมของลูกค้าที่มาใช้บริการร้านอาหารจะเป็นการนั่งดื่มในวงจำกัดของแต่ละโต๊ะที่มาด้วยกัน และจะใช้เวลาในการรับประทานอาหารอยู่ในร้านเฉลี่ยประมาณ 2 ชั่วโมง
พร้อมทั้งมีข้อเสนอเยียวยาเร่งด่วน ดังนี้ 1 .จัดตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อพิจารณามาตรการช่วยเหลือทางการเงินเป็นการเฉพาะเกี่ยวกับภัตตาคารและร้านอาหาร ประกอบด้วยคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และตัวแทนจากผู้ประกอบการร้านอาหาร เนื่องจากที่ผ่านมามาตรการทางการเงินมีข้อจำกัดในการเข้าถึงสำหรับผู้ประกอบการภัตตาคารและร้านอาหารอย่างมาก เพราะมาตรการทางการเงินที่ออกมาเป็นการมองภาพรวมโดยใช้ฐานปัญหาของธุรกิจอื่น และธนาคารพาณิชย์มักจะไม่นำเสนอข้อมูลสินเชื่อตามมาตรการของรัฐให้กับผู้ประกอบการภัตตาคารและร้านอาหารทราบ และใช้เงื่อนไขของธุรกิจอื่น ๆ มาเป็นเกณฑ์พิจารณา
2 .ออกมาตรการให้เจ้าของห้างสรรพสินค้า และผู้ให้เช่าที่ตั้งร้านลดค่าเช่าอย่างน้อย 50% เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือน โดยให้เจ้าของที่ดินอาคาร บุคคลทั่วไป ที่ให้ร้านอาหารเช่า สามารถนำส่วนลดไปลดหย่อนภาษีในรอบบัญชีถัดไป เพื่อจูงใจให้เกิดการลดค่าเช่าตามมา โดยรัฐไม่ต้องจ่ายชดเชย
3 .งดการจัดเก็บภาษีรอบระยะเวลาบัญชี 1 ปีที่ผ่านมา ทั้งภาษีเงินได้นิติบุคคลและบุคคลธรรมดา สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
4 .ยืดระยะเวลาในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มออกไป 6 เดือน
5 .ขอให้รัฐบาลงดจัดเก็บภาษีโรงเรือน จากเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร เป็นเวลา 1 ปี
6 .ลดค่าน้ำ ค่าไฟ 30% ให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน
7 .มีมาตรการจ่ายค่าแรงคนละครึ่ง โดยให้พนักงานสามารถเบิกส่วนอีกครึ่งจากประกันสังคม หรือ อื่นๆ เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน