เอ. เมนารินี บุกตลาดความงามไทย เปิดตัว “คาลีซิม” เจาะคลินิก-รพ.

เอ. เมนารินี ยักษ์ใหญ่เวชภัณฑ์โลก รุกตลาดสกินแคร์ไทย ส่งสกินแคร์ ‘คาลีซิม’ ปูพรมคลินิก-โรงพยาบาล ขนานอีมาร์เก็ตเพลซ แก้เกมข้อจำกัดรัฐปิดคลินิกความงาม

วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 มร.ทอม เบอร์ซิงเกอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ. เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ข้อมูลจากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยคาดการณ์ว่า ในปี 2564-2566 ธุรกิจเครื่องสำอางและสกินแคร์ประเทศไทยจะมี มูลค่ารวมกว่า 1.68 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต เฉลี่ย 7% ต่อปี

ทั้งนี้ ปัจจุบันจะมีปัจจัยลบโควิดรุมเร้า แต่กลุ่มที่ได้รับผลกระทบน้อยสุดคือ ครีมบำรุงผิว และผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคในช่วงที่ผ่านมาได้เปลี่ยนมาใส่ใจสุขภาพและการดูแลตนเองเพิ่มขึ้น

มร.ทอม เบอร์ซิงเกอร์

“เอ. เมนารินี” บริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกจากอิตาลีดำเนินธุรกิจในไทยมากว่าหนึ่งทศวรรษ ได้มองเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อบำรุงผิวและความงามในไทย

หลังจากก่อนหน้านี้ได้มี คาลีซิม โปรเฟสชั่นนอล เซรั่ม (CALECIM Professional Serum) ซึ่งจะให้บริการผ่านคลินิกเท่านั้น โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อแนะนำวิธีใช้ที่เหมาะกับสภาพผิวตลาดความงาม

อย่างไรก็ดี เมื่อเกิดมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้มีการจำกัดการให้บริการคลินิกเวชกรรมและธุรกิจเพื่อความงามในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ครีมต่าง ๆ เพื่อรับมือแก้ปัญหาในเบื้องต้น

ล่าสุด ได้เปิดตัวครีมคาลีซิม Calecim ® ครีมบำรุงผิวหน้า ชูจุดเด่นส่วนประกอบหลักของ “สารสกัดจากเยื่อบุสายสะดือกวางแดง”

โดยมีเป้าหมายหลักผลักดันให้ประเทศไทยได้เป็นศูนย์กลางความงามของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการที่ซับซ้อนและความคาดหวังที่สูงขึ้นของผู้บริโภคชาวไทยได้

ทั้งนี้ จะมีการจัดตั้งหน่วยงานวิจัยและพัฒนาขึ้นเพื่อทำการศึกษา ตั้งแต่การพัฒนาโมเลกุลไปจนถึงการวิจัยทางคลินิก เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวหน้าได้จริงและเห็นผล

“เมื่อปลายปีที่ผ่านมาเราได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค เราจึงได้ถือโอกาสเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงกลางปีนี้ และหวังว่ายอดจำหน่ายจะเติบโตกว่า 15% ในปีนี้ และคาดการณ์จะเติบโตต่อเนื่อง 25 % ในปีหน้าหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายและเศรษฐกิจฟื้นตัว”

ส่วนแนวทางการทำการตลาดครีมคาลีซิม เจาะกลุ่มผู้บริโภคไทย เอ. เมนารินี ได้ดำเนินการควบคู่ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ คือ การให้ความรู้ในศาสตร์นวัตกรรม เทคโนโลยีและความงาม ส่งต่อความรู้ไปยังผู้บริโภคและผู้ที่ต้องการหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ปัญหาผิว เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันมีการศึกษาหาข้อมูลก่อนการซื้อเป็นอย่างดี การให้ความรู้ที่ตอบโจทย์และการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญจะเป็นเครื่องมือสื่อการตลาดที่มีศักยภาพในยุคปัจจุบัน

นอกจากนี้เราได้มีการทำการตลาดในรูปแบบผสมผสาน การใช้ อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ที่เป็นผู้ใช้จริง ในการสื่อสารให้ผู้บริโภคได้รับรู้และเห็นผลที่เป็นรูปธรรม และเตรียมส่งสินค้าปูพรมเข้าคลินิก ตลอดจนโรงพยาบาลชั้นนำต่าง ๆ ควบคู่กับการจัดจำหน่ายผ่านอีมาร์เก็ตเพลซยอดนิยมอย่างช้อปปี้