CMO รุกท่องเที่ยว-ขายแฟรนไชส์สวนสนุก

ซีเอ็มโอ เดินหน้าขยายธุรกิจแหล่งท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ธุรกิจ เสริมแคมเปญการตลาดดึงนักท่องเที่ยวดูโชว์ “หิมพานต์อวตาร” พร้อมเร่งเครื่องขายแฟรนไซส์ สวนสนุก “อิมเมจิเนีย” ทั่วเอเซีย หวังปั้นแบรนด์สวนสนุกไทยสู่อินเตอร์แบรนด์

นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจสื่อสารการตลาดครบวงจรแห่งอาเซียน กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจอีเวนต์ปลายปีนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น เพราะหลาย ๆ ธุรกิจ โดยเฉพาะภาคเอกชนเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมเดินหน้าทำการตลาดจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง โดยซีเอ็มโอเองก็มีงานอีเวนต์ที่เลื่อนมาจัดในช่วงท้ายปีนี้เป็นจำนวนมาก เสริมจากช่วงปกติในไตรมาส 4 ซึ่งจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจอยู่แล้ว ทำให้ปัจจุบันมีงานอีเวนต์ที่รอรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4 นี้ (backlog) อยู่ที่ 400 ล้านบาท

ขณะเดียวกันทิศทางการดำเนินธุรกิจจากนี้ไปจะมุ่งพัฒนาธุรกิจสร้างแหล่งท่องเที่ยว (tourist attraction) ซึ่งเริ่มชัดเจนมากขึ้น โดยปัจจุบันมีธุรกิจแหล่งท่องเที่ยว 2 แห่ง ได้แก่ “หิมพานต์อวตาร” และสวนสนุก “อิเมจิเนีย เพลย์แลนด์” โดยหิมพานต์ อวตาร เป็นการแสดงไลฟ์โชว์รูปแบบ 4 มิติ มุมมอง 360 องศา ผสานเทคโนโลยีทันสมัย จัดเต็มทั้งระบบมัลติมีเดีย แสง เสียงและภาพที่สวยงาม จัดแสดงที่ศูนย์การค้าโชว์ ดีซี โดยเปิดมาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และได้รับผลตอบรับที่ดีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ในส่วนของธุรกิจสวนสนุก “อิเมจิเนีย เพลย์แลนด์” (imaginia playland) สวนสนุกแห่งจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์สุดล้ำในอาเซียน ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม ซึ่งเปิดให้บริการมาแล้ว 2 ปี โดยจะขยายสาขาไปยังต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำสัญญาสร้าง imaginia zone ให้กับ Little Prince Kids Theme Park สวนสนุกในเมืองต้าเหลียน ประเทศจีน และล่าสุดได้เซ็นสัญญาแฟรนไชส์ เป็นที่เรียบร้อยที่จะขยายสาขาไปยังเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม บนพื้นที่ 1,800 ตร.ม. คาดว่าจะก่อสร้างและแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 2561 ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายว่าภายใน 5 ปีจากนี้จะขยายแฟรนไชส์ อีก 5 สาขาในต่างประเทศ ซึ่งหากขยายงานสำเร็จ อิเมจิเนีย จะเป็นอินเตอร์แบรนด์ (inter brand) ที่ได้รับการยอมรับ และสร้างรายได้คงที่ให้กับบริษัท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาธุรกิจอีกหลายประเทศ ทั้งในอาเซียน และเอเชียตะวันออกกลาง

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3 ปีนี้มีรายได้ 277.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.14 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 37.52 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 3 นี้ บริษัทมีผลประกอบการที่ดีขึ้น ขาดทุนลดลง โดยขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 20.5 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการรวมช่วง 9 เดือนปีนี้ บริษัทสามารถทำรายได้รวมทั้งสิ้น 382.7 ล้านบาท และมีกำไรสะสมอยู่ที่ 35.9 ล้านบาท คาดการณ์ว่าสิ้นปีนี้ยอดขายจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 1,300 ล้านบาท