โออิชิ ชู Regional Music Marketing เจาะวัยรุ่นภาคอีสาน

“โออิชิ” ชูกลยุทธ์ “Regional Music Marketing” ส่งแคมเปญ “โออิชิ พลัสซี x เบิ้ล ปทุมราช” ดึง “เบิ้ล ปทุมราช” ไอดอลขวัญใจชาวอีสาน นั่งแท่นพรีเซนเตอร์ สานต่อเพลงใหม่เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะโออิชิ ขยายฐานกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นอีสาน ปั้นยอดขายต่อเนื่อง

วันที่ 3 กันยายน 2564 นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทยังมีความต้องการเพิ่ม Penetration ขยายฐานกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นอีสานให้ได้มากขึ้น และข้อมูลจาก Youtube Thailand ยังพบอีกว่าเพลงลูกทุ่งอีสานกวาดอันดับ Top Trend VDO ยอดนิยมสูงสุดบนช่องทาง Youtube ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความนิยมของคนอีสานที่ชื่นชอบการฟังเพลงนั่นเอง ดังนั้นการเชื่อมโยงแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมายให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในเชิงอารมณ์และการเล่าเรื่อง คงไม่มีอะไรตอกย้ำกลุ่มเป้าหมายได้ดีเท่าการนำดนตรี หรือ มิวสิคมาร์เก็ตติ้งมาช่วยในการทำตลาด 

สำหรับมิวสิคมาร์เก็ตติ้งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่คลาสสิคสำหรับทุกยุค เพียงแค่นำมาปรับรูปแบบให้เข้ากับยุคสมัยและผู้บริโภค โดยแคมเปญอีสานในครั้งนี้บริษัทได้เลือก “เบิ้ล ปทุมราช” นักร้องที่มียอดวิวเพลงรวมกว่า 1,000 ล้านวิว และมียอดผู้ติดตามทาง Social media มหาศาล มาเป็นพรีเซนเตอร์แคมเปญ “โออิชิ พลัสซี x เบิ้ล ปทุมราช” พร้อมเดินหน้าสื่อสารการตลาดแบบ 360 องศา โปรโมท ในมิวสิควีดีโอเพลงใหม่ “ถูกใจให้เบิ้ล” ที่เอ็กซ์คลูซีฟให้โออิชิโดยเฉพาะ 

รวมทั้งมีการสื่อสารผ่าน Key Opinion leader (KOL) อินฟลูเอนเซอร์ไอดอลชาวอีสานผ่านช่องทางออนไลน์ และกิจกรรมบนแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มวัยรุ่นอย่าง Tiktok เพียงส่งรหัสใต้ฝาผ่านแอปโออิชิคลับ ตั้งแต่นี้- 30 กันยายน 2564 นี้ ลุ้นเป็นผู้โชคดีได้รับทองคำมูลค่า 10,000 บาท วันละ 2 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 880,000 บาท  นอกจากนี้ยังมีการสื่อสารผ่านสื่อเอ้าท์ออฟโฮมในพื้นที่อีสานกว่า 10 จังหวัดอย่างต่อเนื่อง

“เรามั่นใจว่าแคมเปญ “โออิชิ พลัสซี x เบิ้ล ปทุมราช”  จะช่วยสร้างสีนสันให้กับตลาดชาเขียว ขับเคลื่อนตลาดและขยายฐานผู้บริโภคของชาเขียวโออิชิในเขตภาคอีสานได้มากขึ้น ตอกย้ำความเป็นชาเขียวพร้อมดื่มอันดับหนึ่งของคนไทย” นางเจษฎากร กล่าวทิ้งท้าย 

อย่างไรก็ตามไตรมาส 3 บริษัทที่ผ่านมา (ปีบประมาณโออิชิ) โออิชิมีรายได้รวม 2,602 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น จำนวน 448 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2562-2563 และมีกำไรสุทธิรวมในไตรมาส 3 อยู่ที่ 162 ล้านบาท ปรับตัวขึ้น 79 ล้านบาท หรือ 95.8% จากการควบคุมการดำเนินงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง 

โดยในส่วนของธุรกิจเครื่องดื่ม มีรายได้ 1,815 ล้านบาท เติบโตกว่า 291 ล้านบาท หรือ 19.1% ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของยอดขายเครื่องดื่มภายในประเทศ โดยเฉพาะเครื่องดื่ม “โออิชิชาคูลล์ซ่า” ซึ่งเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในช่วงหน้าร้อน และการขยายฐานกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นผ่านช่องทางเกมออนไลน์ รวมไปถึงยอดขายส่งออกของบริษัทได้กลับมาฟื้นตัวได้ในไตรมาสนี้ หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19