สาธารณสุข รับ เสียชีวิตจากวัคซีน 1 ราย สรุปไม่ได้ 12 ราย

สธ.สรุปตายจากแอสตร้า 1 ราย
แฟ้มภาพ

กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานข้อมูลไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีน พบการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนมี 1 ราย จากการฉีดนแอสตร้าฯ รอผล 122 ราย สรุปไม่ได้ 12 ราย

วันที่ 8 กันยายน 2564 มติชน รายงานว่า ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงผลการติดตามข้อมูลเหตุไม่พึงประสงค์หลังได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า กองระบาดวิทยา รายงานข้อมูลไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีน วันที่ 5 กันยายน 2564 พบว่า

ไทยมีการฉีดวัคซีนสะสม 35.9 ล้านโดส มีอาการร้ายแรงที่ต้องนำสู่การพิจารณาของผู้เชี่ยวชาญ เช่น นอนโรงพยาบาล (รพ.) แต่ยังพบไข้สูงต่อเนื่อง นำไปสู่การสอบสวนโรค เช่น

  • ซิโนแวค ฉีด 15.2 ล้านโดส รายงาน 2,667 เหตุการณ์ มีผู้แพ้เป็นผื่น ความดันต่ำใน 30 นาทีแรก ถึง 1 วัน เป็นลักษณะแพ้รุนแรง หรือ Anphylaxis ทั้งหมด 24 ราย คิดเป็น 0.16 ต่อแสนโดส ถือเป็นจำนวนไม่มากต่อการฉีด และส่วนใหญ่หายเป็นปกติ
  • แอสตร้าฯ ฉีด 15.4 ล้านโดส พบ 3,004 เหตุการณ์ เป็นการแพ้รุนแรง 6 ราย

นพ.จักรรัฐ กล่าวด้วยว่า วัคซีนไฟเซอร์ และแอสตร้าฯ มี 2 ประเด็นหลัก ที่เป็นข้อกังวลของทีมบุคลากรแพทย์ อย่างที่ต่างประเทศพบว่า หลังรับแอสตร้าฯ โดยเฉพาะเข็มที่ 1 มีรายงานภาวะลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับเกล็ดเลือดต่ำ กรณีไฟเซอร์พบกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน เกิดขึ้นได้ในกลุ่มผู้ชายอายุน้อย ทั้งนี้ ข้อมูลในต่างประเทศสำหรับวัคซีน 2 ยี่ห้อนี้ พบอาการไม่พึงประสงค์พอสมควร

นอกจากนี้ ข้อมูลวันที่ 5 กันยายน 2564 ประเทศไทยพบข้อมูลหลังฉีดแอสตร้าฯ เข็มแรก พบภาวะลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับเกล็ดเลือดต่ำ 5 ราย คิดเป็น 0.03 รายต่อการฉีดแสนโดส เป็นหญิง 3 ราย ชาย 2 ราย อายุต่ำสุด 26 ปี สูงสุด 76 ปี โดยหายเป็นปกติ 2 ราย และเสียชีวิต 3 ราย

โดยไทยพบภาวะดังกล่าวน้อยกว่าอังกฤษถึง 30 เท่า ถือว่าน้อยมาก ซึ่งหากพบแพทย์เร็ว และแจ้งว่าฉีดวัคซีนมา เพื่อให้รับการรักษา อาการจะดีขึ้นและหายได้ ส่วนใหญ่อาการหลักจะเกิดขึ้นได้ใน 4-30 วัน หลังรับวัคซีน คือ ปวดศีรษะรุนแรง แขนขาอ่อนแรง ปากหน้าเบี้ยว เจ็บหน้าอก หายใจติดขัด หรือพบจุดเลือดออก คล้ายไข้เลือดออกแต่ไม่มีไข้

นพ.จักรรัฐกล่าวด้วยว่า ขณะที่วัคซีนไฟเซอร์พบกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน 1 ราย เป็นเด็กชาย อายุ 13 ปี ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงคือ โรคอ้วน โดยพบอาการหลังฉีด 2 วัน และหลังได้รับการรักษาก็หายเป็นปกติ ทั้งนี้ ข้อมูลพบว่า ไฟเซอร์จะพบอาการไม่พึงประสงค์ในเพศชาย อายุน้อย โดยอาการสำคัญคือ เจ็บหน้าอก หายใจหอบ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย หรือใจสั่น

อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าถึงแม้วัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA จะมีผลข้างเคียงดังกล่าวเกิดขึ้นได้ แต่น้อยมาก และผลประโยชน์ที่ได้จากการฉีดวัคซีนมีมากกว่า จึงยังแนะนำให้มีการฉีดต่อไป

“วัคซีนไฟเซอร์เป็นชนิด mRNA เกิดอาการไม่พึงประสงค์ค่อนข้างชัดเจนในต่างประเทศ คือ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ซึ่งมีอุบัติการณ์การเกิดที่พบได้ เช่น สหรัฐ พบเด็กชาย อายุ 12-17 ปี อยู่ที่ 32.4 ต่อการฉีดล้านโดส ส่วนเด็กหญิงอยู่ที่ 4.2 ต่อการฉีดล้านโดส อัตราการเกิดจะลดลงในผู้ที่อายุมากขึ้น”

จึงต้องแนะนำประชาชนว่า หากผู้ที่มีประวัติกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือล้มเหลวมาก่อน ต้องแจ้งแพทย์ก่อนฉีดวัคซีนชนิด mRNA

นพ.จักรรัฐกล่าวว่า ขณะนี้ข้อมูลผู้ที่มีอาการรุนแรงและเสียชีวิตรับรายงานทั้งหมด 628 ราย โดยมีการชันสูตรศพหาสาเหตุ ข้อมูลทางคลินิก การตรวจทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) และคณะผู้เชี่ยวชาญฯ ได้พิจารณาแล้ว 416 ราย ส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน แต่เป็นเหตุการณ์ร่วมอื่น ๆ (Coincidental event) มี 249 ราย ได้แก่

  • การติดเชื้อในระบบประสาทและสมอง 2 ราย
  • เลือดออกในสมอง 26 ราย เกิดในผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงอยู่แล้ว
  • เส้นเลือดสมองอุดตัน 5 ราย
  • ปอดอักเสบ 69 ราย
  • ลิ่มเลือดอุดตันในปอด 3 ราย
  • โรคเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ 64 ราย
  • ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด 19 ราย

ส่วนอาการทางมะเร็งที่รุนแรงขึ้นและเสียชีวิต ได้แก่

  • มะเร็งเต้านม 1 ราย
  • มะเร็งท่อน้ำดี 2 ราย
  • มะเร็งปอด 1 ราย

ภาวะอื่น ๆ เช่น

  • เลือดออกในช่องท้อง 4 ราย
  • รับประทานเห็ดพิษ 2 ราย
  • โรคอื่น ๆ 25 ราย

ส่วนเหตุการณ์ที่ไม่สามารถสรุปได้ว่า เกี่ยวข้องกับวัคซีนโดยตรงหรือไม่ (Indeterminate event) 32 ราย ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่สรุปว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนมี 1 ราย เป็นหญิง อายุ 28 ปี จ.นนทบุรี เป็นภาวะลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับเกล็ดเลือดต่ำหลังจากการฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ โดยเหลือที่ยังรอผล 122 ราย และมีที่สรุปไม่ได้ 12 ราย