CPN ทุ่มพันล้าน ปั้น The 1 Biz หนุนคู่ค้าสู้ศึกอีคอมเมิร์ซ

ซีพีเอ็นทุ่ม 1 พันล้าน หนุนคู่ค้าในศูนย์ ช่วยสร้างแบรนด์-ดึงลูกค้า รับมือการแข่งขันกับอีคอมเมิร์ซ เปิด The 1 BIZ แพลตฟอร์มสนับสนุนด้านการตลาด-ขยายสาขา ระดมสรรพกำลังหนุนเต็มสูบ ไฟเขียวเชื่อมฐานข้อมูลสมาชิกเดอะวันการ์ด 18 ล้านราย ระบบสะสม-แลกแต้ม ช่องทางสื่อสาร-จำหน่ายออมนิแชนเนล พร้อมขนทัพอินฟลูเอนเซอร์ช่วยสร้างการรับรู้

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น ผู้บริหารศูนย์การค้าเครือเซ็นทรัล และเซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ต เปิดเผยว่า ทิศทางสำคัญสำหรับธุรกิจบริหารศูนยการ์ค้าของซีพีเอ็นจากนี้ไปคือ การทำให้พันธมิตรคู่ค้าภายในศูนย์ที่มีอยู่กว่า 15,000 ราย ใน 33 ศูนย์ทั่วประเทศ สามารถเติบโตไปด้วยกันได้ โดยวางแผนลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 3 ปี สร้างระบบการสนับสนุนคู่ค้าแบบครบวงจรในแพลตฟอร์มเดียวภายใต้ชื่อ The 1 Partner Platform หรือ The 1 BIZ

โดยนำทรัพยากร และความเชี่ยวชาญที่บริษัทมีอยู่มาเสริมแกร่งให้แก่คู่ค้า รวมทั้งเปิดให้คู่ค้าสามารถเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการขายอย่างสะสม-แลกแต้ม The 1 และฐานข้อมูลบิ๊กดาต้าได้ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสการขายด้วยการเพิ่มจำนวนใช้บริการศูนย์ด้วยการสร้างแม็กเนตต่าง ๆ การสนับสนุนด้านการทำตลาดและขยายสาขาด้วยทัพอินฟลูเอนเซอร์และช่องทางออมนิแชนเนล

โดยงบฯ 1,000 ล้านบาทนี้จะใช้สำหรับเชื่อมต่อระบบกับคู่ค้าที่เข้าร่วมแพลตฟอร์ม และใช้ทำแคมเปญการตลาดเพื่อกระตุ้นการจับจ่าย โดยเชื่อว่าระบบนี้จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกที่เข้าร่วมสามารถรับมือหรือเอาชนะการแข่งขันกับอีคอมเมิร์ซได้ และไฮไลต์ของ The 1 BIZ คือการเปิดให้คู่ค้าที่เข้าร่วมสามารถใช้ระบบสะสม-แลกแต้ม และเข้าถึงฐานข้อมูลสมาชิกเดอะวันการ์ด รวมไปถึงช่องทางสื่อสาร-จำหน่ายต่าง ๆ ที่ซีพีเอ็นมีอยู่ ซึ่งเดิมใช้ได้เฉพาะร้านค้าในเครือเท่านั้น เพื่อให้สามารถนำข้อมูลบิ๊กดาต้าลูกค้ากว่า 18 ล้านคน ในจำนวนนี้มีกลุ่มที่ใช้งานสม่ำเสมอถึง 8.4 ล้านคนไปใช้สร้างแคมเปญการตลาดแบบเทลเลอร์เมด ส่งไปยังลูกค้าผ่านออมนิแชนเนลทั้งไลน์ เอสเอ็มเอส อีเมล์ เฟซบุ๊ก

รวมถึงการสะสม-แลกแต้มเดอะวัน เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้า ขณะเดียวกัน ก็จะช่วยให้คู่ค้าโดยเฉพาะแบรนด์ขนาดเล็กไม่ต้องลงทุนวางระบบฐานสมาชิกหรือซีอาร์เอ็มเอง แต่มีเพียงค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนการให้แต้มเดอะวัน และอุปกรณ์ เช่น แท็บเลต สำหรับใช้งานระบบเท่านั้น

นอกจากนี้ ซีพีเอ็นจะสร้างและดึงดูดฐานลูกค้าประจำและขาจรเข้ามาเพิ่ม ด้วยการเดินหน้าลงทุนในโครงการมิกซ์ยูส โดยเฉพาะการสร้างที่พักอาศัยติดหรือใกล้กับศูนย์การค้า เพื่อสร้างฐานลูกค้าประจำจากผู้ที่เข้ามาพักอาศัย โดยบริษัทจะใช้โมเดลนี้เป็นหัวหอกรุกตลาดต่างจังหวัด ทั้งศรีราชาและพระนครศรีอยุธยาที่จะเปิดในไตรมาส 4 รวมถึงสาขาอื่น ๆ ในอนาคต หลังจากสาขาเชียงใหม่ประสบความสำเร็จสามารถขายคอนโดฯหมดอย่างรวดเร็ว และคาดว่าในปี 2567 จำนวนโครงการและจำนวนลูกบ้านในโครงการของซีพีเอ็นทั่วประเทศจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว และช่วยเพิ่มทราฟฟิกของศูนย์การค้าระดับหลายหมื่นคนต่อวันต่อสาขา

พร้อมกับย้ำภาพจุดรวมตัวของผู้บริโภคกลุ่มต่าง ๆ โดยสร้างคอมมิวนิตี้ใหม่ ๆ เช่น คนรักสัตว์เลี้ยง เหมือนในสาขาอีสต์วิวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ช่วยดึงดูดทั้งลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าปัจจุบันให้มาใช้บริการ สะท้อนจากสัปดาห์แรกของเดือนกันยายนที่ผ่านมา ศูนย์การค้าของซีพีเอ็นในกรุงเทพฯมีลูกค้าเข้ามาถึง 50-70% ของช่วงปกติ และเชื่อว่าในไตรมาส 4 นี้จำนวนผู้ใช้บริการจะกลับมาประมาณ 70-80% ซึ่งจะช่วยให้คู่ค้าที่เปิดให้บริการในแต่ละศูนย์มีโอกาสสร้างการรับรู้แบรนด์ และสร้างยอดขายได้มากขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทจะสนับสนุนคู่ค้าในด้านอื่น ๆ ที่จะทำให้สามารถขยายสาขาหรือเจาะทำเลใหม่ ๆ ได้มีประสิทธิภาพกว่าการใช้โมเดลสแตนด์อะโลน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครือข่ายอินฟลูเอนเซอร์มาช่วยสร้างการรับรู้เมื่อเปิดสาขาใหม่ และการเปิดพ็อปอัพสโตร์ทดลองตลาดในศูนย์ที่แบรนด์นั้น ๆ ยังไม่มีสาขา ซึ่งที่ผ่านมาประสบความสำเร็จในการดึงดูดและช่วยคู่ค้าขยายสาขา เช่น ไห่ตี้เหลา ที่ปัจจุบันมี 3 สาขา เช่นเดียวกับการใช้งานช่องทางจำหน่าย เช่น คลาวด์คิตเช่น ซึ่งช่วยให้ร้านอาหารหลายรายสามารถจำหน่ายผ่านดีลิเวอรี่ได้ในช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา

คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่รายเล็กเข้าร่วม “The 1 BIZ” รวมกว่า 240 แบรนด์ รวมกว่า 1,000 ร้านค้า จากปัจจุบันมีแบรนด์ที่ร่วมแล้วกว่า 30 แบรนด์