เหตุเพลิงไหม้โรงงานกิ่งแก้ว โรงงานผลิตรองเท้าขนาดใหญ่ ในจังหวัดสมุทรปราการ นอกจากมูลค่าความเสียหายและอนาคตของพนักงานที่ยังไม่ชัดเจน อีกเรื่องที่หลายคนไม่ค่อยรู้คือ โรงงานแห่งนี้อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทรองเท้าเก่าแก่ในเมืองไทย
วันที่ 20 ตุลาคม 2564 กรณี เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตรองเท้าขนาดใหญ่ของ บริษัท วัฒนา ฟุตแวร์ จำกัด ในพื้นที่ ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ คืนวานนี้ (19 ต.ค.) คาดเสียหาย 100-300 ล้านบาท ต่อมามีรายงานว่า ทางโรงงานจะขอปิดกิจการ และจะให้ค่าจ้างเดือนนี้เป็นเดือนสุดท้าย
- ด่วน! วอยซ์ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน ได้รับมอบหมายให้ติดตามดูแลให้ความช่วยเหลือลูกจ้างพนักงานโรงงานผลิตรองเท้า บริษัท วัฒนาฟุตแวร์ จำกัด ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการเลิกจ้างพนักงานลูกจ้างหรือไม่
- ไฟไหม้กิ่งแก้ว : โรงงานรองเท้า ปิดกิจการ ตกงาน 200 คน
- ไฟไหม้กิ่งแก้ว : โรงงานรองเท้าสูญกว่า 100 ล้าน คาดไฟฟ้าลัดวงจร
-
ไฟไหม้กิ่งแก้ว : โรงงานรองเท้า กระทรวงแรงงานเร่งหางานใหม่รองรับลูกจ้าง
“ประชาชาติธุรกิจ” ตรวจสอบข้อมูล บริษัท วัฒนาฟุตแวร์ จำกัด พบว่า มีการจดทะเบียนประกอบธุรกิจ ประเภท การผลิตรองเท้าหนัง โดยจดทะเบียนเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2531 ด้วยทุนจดทะเบียน 45 ล้านบาท
รายชื่อคณะกรรมการทั้ง 6 คน ประกอบด้วย
- นายพิชัย จงสถิตย์วัฒนา
- นางเสาวณีย์ จงสถิตย์วัฒนา
- นายกิตติ จงสถิตย์วัฒนา
- นางเกศินี เหลืองรัตนากร
- นายก้องเกียรติ จงสถิตย์วัฒนา
- นางสาวกายแก้ว จงสถิตย์วัฒนา
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า รายงาน งบแสดงฐานะการเงิน บริษัท วัฒนาฟุตแวร์ จำกัด ระหว่างปี 2561-2563 ดังนี้
- ปี 2561 มีรายได้รวม 242 ล้านบาท กำไร 1.8 ล้านบาท
- ปี 2562 มีรายได้รวม 202 ล้านบาท กำไร 1.3 ล้านบาท
- ปี 2563 มีรายได้รวม 138 ล้านบาท ขาดทุน 6.4 ล้านบาท
ข้อมูลจากเว็บไซต์บริษัท ระบุว่า บริษัท วัฒนาฟุตแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย รองเท้าผ้าใบบั๊ดดี้ Buddy, รองเท้าคลิ๊กส์ Clicks, รองเท้ากีฬาไดนามิค Dynamic, รองเท้ายาง บอน-แซด Bon-Z, รองเท้าแฟชั่นจัมพ์ Jump, รองเท้าสตุ๊ทการ์ท Stuttgart และ รองเท้าตราอูฐ Camel
เมื่อปี 2531 ผู้จัดการ 360 องศา รายงานว่า ต้นตระกูล จงสถิตย์วัฒนา คือ “จงอิวกวง” ชาวจีนโพ้นทะเลที่หอบเสื่อผืนหมอนใบข้ามทะเลมาหากินในเมืองไทย เขาเริ่มต้นธุรกิจรองเท้าตั้งแต่ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ในย่านเยาวราช ก่อนจะย้ายทำเลไปที่เจริญกรุง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสงครามโลก พร้อมกับเปลี่ยนชื่อแบรนด์รองเท้าจาก 555 เป็น ตราอูฐ เพื่อแสดงถึงความทนทาน
ธุรกิจของครอบครัว จงสถิตย์วัฒนา เริ่มขยายไปต่างจังหวัด โดยการบุกเบิกของ “พิชัย” ลูกชายของจงอิวกวง ซึ่งมีประสบการณ์จากอาชีพเซลส์แมนบริษัทคอลเกต
หลังจงอิวกวงเสียชีวิต พิชัยกับน้อง ๆ ที่เกิดจากแม่เดียวกัน ได้แยกตัวออกมาทำบริษัทรองเท้าตราอูฐ เมื่อปี 2520 ด้วยทุนจดทะเบียน 4 ล้านบาท โดยมีคู่แข่งสำคัญคือ “บาจา”
ต่อมา บริษัท รองเท้าตราอูฐ ได้แตกลูกออกมาอีก 3 บริษัท ได้แก่ เอเอ มาร์เก็ตติ้ง, บริษัทรองเท้าเอเอ และ เอเอ ฟุตแวร์ โดยให้แต่ละบริษัทยืนได้ด้วยตัวเอง ไม่อาศัยเงินทุนจากบริษัทแม่
นี่คือเรื่องราวบางส่วนของโรงงานรองเท้าที่เผชิญมรสุมหลายระลอก ก่อนจะเจอเหตุเพลิงไหม้ครั้งล่าสุด