Nature สบช่องยุคโควิด เปิดตัวสินค้ากลุ่มเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ดันยอดขาย 700 ล้าน

เดอะ เนเชอร์ฯ ปรับแผนรุกตลาดสินค้ากลุ่มสร้างภูมิคุ้มกันเปิดตัว กระชาย คอมเพล็กซ์ แบรนด์เนเชอร์ กระชาย รับเทรนด์สุขภาพยุคโควิด พร้อมโหมงบการตลาดเพิ่ม 15% เดินหน้า ปลุกตลาด ทั้งสร้างการรับรู้ กระตุ้นการซื้อ และเพิ่มช่องทางขาย ดันยอดขายสิ้นปีทะลุ 700 ล้านบาท

วันที่ 21 ตุลาคม 2564 พ.ต.อ.ศตยุ ไชยสุวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ เนเชอร์ บาลานซ์ กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพเนเชอร์ “Nature” เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาสที่ 3/2564 ที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับแผนกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

พ.ต.อ.ศตยุ ไชยสุวรรณ์
พ.ต.อ.ศตยุ ไชยสุวรรณ์

โดยบริษัทพบว่าปัจจุบันผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องภูมิคุ้มกัน ทำให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในกลุ่มเสริมสร้างภูมิคุ้มกันมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วงเวลาดังกล่าว

ล่าสุดทางบริษัทจึงได้ปรับแผนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่จากเดิมจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มคอลลาเจน ( Nature Collagen ) ในช่วงไตรมาสที่ 3 เปลี่ยนมาเป็นเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ในกลุ่มเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ได้แก่ KACHAY COMPLEX ( กระชาย คอมเพล็กซ์ ) ตราเนเชอร์ กระชาย ( Nature Kachay ) ซึ่งได้วิจัยและพัฒนาสูตรโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของบริษัท

โดยชูจุดเด่นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งภายหลังจากที่บริษัทฯได้เปิดตัวสินค้าไปได้ 3 เดือน ได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาด ส่งผลให้บริษัทมีรายได้รวม 3 ไตรมาสแรกของปี 2564 ที่ 704 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% จากปีก่อน ซึ่งยังคงเป็นไปตามเป้าหมายรายได้รวมทั้งปีของบริษัทฯที่ 925 ล้านบาท

ขณะที่แผนงานต่อจากนี้ยังคงเดินหน้าตามแผนงานกลยุทธ์องค์กร (Corporate Strategy) ในการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า พนักงาน คู่ค้าทางธุรกิจและสังคม ผ่านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ ให้ได้ทั้งคุณภาพ สุขภาพ และความปลอดภัย

ด้านนางสาวสุดาพร ไกรวาปี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะ เนเชอร์ บาลานซ์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะปรับเพิ่มงบประมาณการตลาดตลอดปี จากเดิมที่ 10% หรือประมาณ 60 ล้านบาท เป็น 15% หรือประมาณ 90 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับส่งเสริมการตลาดใน 3 ส่วน

นางสาวสุดาพร ไกรวาปี

ได้แก่ Branding / Marketing / Selling ส่วนที่ 1 การสร้างแบรนด์ ( Branding) จะเน้นการสร้างแบรนด์ตราสินค้า “Nature” เป็นหลัก โดยเริ่มจากการสร้างการตระหนักรู้ของแบรนด์ ด้วยการใช้ดารา นักแสดง และไมโครอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อให้ผู้บริโภคจดจำตราสินค้าและเปิดใจทดลองใช้สินค้า ผ่านการทำตลาดในช่องทางต่าง ๆ ทั้งออนไลด์และออฟไลด์ เพื่อความเชื่อมโยงของแบรนด์ ด้านความรู้สึก ทัศนคติที่ดีต่อแบรนด์ ซึ่งก่อให้เกิดทัศนคติในเชิงบวกที่มีต่อแบรนด์ ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดี ความน่าเชื่อถือ นำไปสู่ความภักดีต่อแบรนด์

ส่วนที่ 2 การตลาดเพื่อกระตุ้นการซื้อ ด้วยการผลิตคอนเทนท์เพื่อกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มสินค้าอย่างเฉพาะเจาะจง ผ่านแพลทฟอร์มโซเชียลมิเดียทั้ง YouTube , Facebook และ Line รวมทั้งการสร้าง Seeding ในเว็บบอร์ดต่างๆอีกด้วย

ส่วนที่ 3 ช่องทางการจัดจำหน่าย (Selling) ยังคงเน้นการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศและ Market Place เป็นหลัก

อย่างไรก็ดีในช่วงไตรมาสที่ 2/2564 ที่ผ่านมา บริษัทยังได้เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายในส่วนของ TV Shopping อีกด้วย เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคที่อายุ 50-65 ปี ยังมีพฤติกรรมการซื้อสินค้าผ่านช่องทางนี้อยู่จำนวนมาก ซึ่งยอดขายผ่านช่องทางนี้ปัจจุบันคิดเป็น 20% ของรายได้รวมทั้งบริษัทซึ่งมีแผนที่จะเพิ่มรายได้ผ่านช่องทางนี้เป็น 50% ภายในปี 2565