“เอ็มจีซี-เอเซีย” เปิดโรดแมปสู่เป้าหมายปี 2020 เดินเครื่อง “ดิจิทัล รีเทล ออโตโมทีฟ ทรานฟอร์เมชั่น” เต็มรูปแแบบ มั่นใจดันรายได้ทั้งกรุ๊ปปีนี้โต15%

เอ็มจีซี-เอเซีย มูฟวิ่งฟอร์ดเวิร์ด 2018 ปรับองคาพยพสู่ดิจิทัล รีเทล ออโตโมทีฟ ทรานฟอร์เมชั่น เต็มรูปแบบ ดึงมือดีจากเอเจนซี่ชั้นนำเสริมทัพ รองรับดิจิทัลแพลตฟอร์ม ลุยตั้งบริษัทดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เล็งขยายเครือข่ายและพันธมิตรทางธุรกิจสู่ดิจิทัลบิซิเนสรูปแบบใหม่ ปลื้มปี 2560 กวาดรายได้ 2.2 หมื่นล้านเชื่อปีนี้โตเพิ่ม 15%

 

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ กรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัท มาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือเอ็มจีซี-เอเชียเปิดเผยว่า ปีนี้เป็นอีกปีแห่งความท้าทาย จากการที่ได้กำหนดเป้าหมายวิสัยทัศน์ปี 2020 หรือ Vision 2020 เพื่อมุ่งสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ในประเทศไทยและอาเซียน บริษัทได้วางรากฐานของการเติบโตในธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ในทุกด้าน เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

โดยปี 2560 ที่ผ่านมาตัวเลขรายได้รวมของกลุ่ม ทำได้ 22,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจรถยนต์ใหม่ประกอบด้วยรถยนต์ยุโรปและญี่ปุ่น 80% ธุรกิจรถเช่า 8% ธุรกิจอาฟเตอร์มาร์เก็ต 2% ธุรกิจให้คำปรึกษาและการบริการด้านประกันภัยครบวงจร 1% และธุรกิจภาพรวมอื่นในสัดส่วน 9% อาทิธุรกิจรถเช่ารถมือสอง ศูนย์ฝึกอบรม รวมถึงเทคโนโลยีและสาระสนเทศ

“ปี 2560 เราเปิด เอ็มจีซี-เอเชีย ออโต้เพล็กซ์ภูเก็ต ประกอบด้วย โชว์รูมโรลส์-รอยซ์, แอสตัน มาร์ติน, เรือยอตช์อะซิมุท, บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ รถยนต์มือสองรวมถึงศูนบริการซ่อมสีและตัวถังครบวงจรใช้งบลงทุนกว่า 400 ล้านบาท และยังมีแผนลงทุนต่อเนื่อง และต้นปี 2561 เราเปิด เอ็มจีซี-เอเชีย ออโต้เพล็กซ์ หาดใหญ่ ประกอบด้วยโชว์รูม บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ, ฮอนด้า, มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์ราด และฮาร์ลีย์-เดวิดสัน, รถยนต์มือสอง รวมถึงศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังครบวงจรใช้งบลงทุนกว่า 400 ล้านบาทรวมทั้งเปิดบีเอ็มดับเบิลยูมิลเลนเนียมออโต้สตูดิโอสุราษฎร์ธานี”

ทำให้มั่นใจว่าปี 2561 นี้ บริษัทการเติบโตของกลุ่มธุรกิจรถยนต์ใหม่ของน่าจะทำได้สูงถึง 12,500 คัน ธุรกิจศูนย์บริการหลังการขาย ตั้งเป้าการบริการไว้กว่า 240,000 คัน มีอัตราการเติบโต 15%

ดร.สัณหวุฒิกล่าวต่อไปว่า นโยบายของกลุ่มในปี 2561 บริษัทได้เตรียมแผนลงทุนเพื่อขยายความครอบคลุมของกลุ่มธุรกิจทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทั่วประเทศ โดยเตรียมงบลงทุนเบื้องต้นกว่า 2,000 ล้านบาท

นอกจากนั้น บริษัทมีแผนจะเป็นพันธมิตรกับคู่ค้ารายใหม่อย่างต่อเนื่อง อาทิ กลุ่ม TUNAP ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงรักษารถยนต์ระดับโลก

ปีนี้บริษัทยังมุ่งมั่นในการรุกขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียนอย่างจริงจัง โดยกลุ่มธุรกิจรถเช่าภายใต้แบรนด์ ซิกท์ (SIXT) และฟลีต มาสเตอร์ คาร์เร้นเทิล ยังคงเป็นกลุ่มธุรกิจหลักในการขยายการลงทุนของเอ็มจีซี-เอเชีย สู่ภูมิภาคอาเซียน ซึ่งล่าสุดในปีที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จขยายตลาดไป สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และมาเลเซีย โดยมีถึง 6 สาขาที่ประเทศมาเลเซีย อาทิ สยามบินแห่งชาติที่เมืองกัวลาลัมเปอร์ ,ปีนัง, ยะโฮบารู ( 2 ),รัฐปาหัง และ รัฐสลังงอร์ และมีแผนขยายจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นอีกทั้ง 2 ประเทศในอนาคตอันใกล้

พร้อมกันนี้ บริษัทได้นำระบบดิจิทัลมาผสมผสานการดำเนินธุรกิจให้มากยิ่งขึ้น (Digital platform) พร้อมมุ่งสู่การบริหารธุรกิจแบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต โดยมีทีมผู้บริหารจากบริษัทโฆษณามาเสริมทัพ พร้อมเริ่มนำระบบ Virtual Showroom มาเปิดประสบการณ์ใหม่ครั้งแรกในตลาดยานยนต์เมืองไทย เพื่อให้ลูกค้าได้ชมโชว์รูมเสมือนจริงก่อนตัดสินใจซื้อ

 

เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยนำมาใช้เป็นแห่งแรกที่ ‘เอ็มจีซี-เอเชีย ออโต้เพล็กซ์ หาดใหญ่’ ขณะเดียวกันก็เน้นการเสนอสิทธิพิเศษสำหรับกลุ่มลูกค้าผ่านแอพลิเคชั่นบนมือถือ (Privilege App) รวมไปถึงพัฒนาสู่การใช้โบรชัวร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Brochure) และการพัฒนาระบบการบริการลูกค้าให้หลากหลายมากขึ้น (Enhanced Customer Online Service)

โดยก่อนหน้านี้ได้นำร่องใช้ในส่วนช่องทางการบริการด้วยการแนะนำแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย การรับรู้ข่าวสาร รวมถึงรับบริการนัดหมายล่วงหน้าเพื่อนำรถเข้าซ่อมให้รวดเร็วยิ่งขึ้นและล่าสุดได้มีการนำระบบ 4-digit call centerโทร.1286 มาใช้ในส่วนงานมิลเลนเนียมออโต้กรุ๊ป เพื่อเสริมประสิทธิภาพการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างทั่วถึง

ด้านการพัฒนาบุคคลากร บริษัทได้เริ่มใช้นโนยาย HR 4.0 เพื่อยกระดับประสบการณ์ของบุคลากรและองค์กรสู่ดิจิทัลแพลตฟอร์ม พร้อมปรับแผนงานด้านไอที เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วโดยนำแอพพลิเคชั่น Smart Connect มาใช้เชื่อมการติดต่อสื่อสารในองค์กร รวมถึงพัฒนาบุคคลากรในด้านต่างๆผ่านศูนย์ฝึกอบรม ‘มาสเตอร์ ออโตโมทีฟเทรนนิ่งเซ็นเตอร์’ (MAT) และการประชุมแบบ Motion Conference เชื่อมต่อกับสาขาทั่วประเทศ

ปี 2561 นับเป็นอีกก้าวสำคัญของกลุ่มบริษัท เอ็มจีซี-เอเชีย ซึ่งก้าวสู่ปีที่ 18 ของการดำเนินธุรกิจในไทยโดยในปีนี้บริษัทได้มีการจัดตั้งมูลนิธิ ‘ธรรมชวนวิริยะ’ ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มจากเจตนารมย์ของคุณวิวัฒน์ ธรรมชวนวิริยะ ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทเอ็มจีซี-เอเชีย ทั้งนี้เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างวิถีการดำเนินชีวิตอย่างยั่งยืนสู่สังคมไทย และเพื่อเป็นการตอบแทนสังคม บริษัท ได้จัดทำโครงการ CSR อย่างเต็มรูปแบบ เริ่มจากโครงการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาทางด้านการศึกษาให้กับชุมชน รวมถึงการดูแลสุขภาพและการพัฒนาปัจจัย พื้นฐานแก่พนักงานในองค์กร