อีตั้นรุกคืบขาย “จี๊ป-เปอโยต์” คว้าสิทธิ์ดีลเลอร์ใหญ่คุมโซนภาคเหนือ

JEEP

ค่ายรถยนต์นำเข้าอิสระ “อีตั้น อิมปอร์ท” ปลื้มหลัง “เบลฟอร์ต ออโตโมบิล” วางใจแต่งตั้งให้เป็นดีลเลอร์ ดูแลตลาดรถยนต์จี๊ป-เปอโยต์ ปักหมุดยึดทำเลเชียงใหม่ ดูแลลูกค้าโซนภาคเหนือ ส่วนตลาดรถนำเข้า มั่นใจยอดขายทะลุเป้าเบียด 600 คัน หลังรถ MPV-Mini MPV มาแรงลูกค้ากลุ่มผู้บริหาร -ครอบครัวให้ความนิยมสูงสุด

นางอัจฉรีย์ ตันติยันกุล ผู้อํานวยการฝ่ายขายและการตลาด กลุ่มบริษัท อีตั้น อิมปอร์ท จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์นำเข้าอิสระจากต่างประเทศ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแผนดำเนินธุรกิจของบริษัทว่า พยายามมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดจำหน่ายรถยนต์จากต่างประเทศที่ถือเป็นธุรกิจหลักมากว่า 30 ปี และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง

ล่าสุดได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มบริษัทเบลฟอร์ต ออโตโมบิล จำกัด ในเครือเอ็มจีซี-เอเชีย ให้เป็นดีลเลอร์รถยนต์เปอโยต์อย่างเป็นทางการในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว ได้บรรลุข้อตกลงและได้มอบความไว้วางใจ เตรียมแต่งตั้งให้อีตั้นเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จี๊ป จ.เชียงใหม่ด้วย โดยคาดว่าจะดำเนินการเตรียมความพร้อม โชว์รูม และศูนย์บริการให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้

เบื้องต้นบริษัทจะใช้พื้นที่เดียวกับโชว์รูมจำหน่ายรถยนต์อีตั้น แต่จะแบ่งสัดส่วนของโชว์รูมอย่างชัดเจน โดยลูกค้าที่ซื้อรถยนต์นำเข้าจากอีตั้น และกลุ่มลูกค้ารถยนต์เปอโยต์-จี๊ปจะมีความใกล้เคียงกัน ประกอบกับความเชี่ยวชาญในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายรถยนต์นำเข้ามาอย่างยาวนาน และมีความเชี่ยวชาญในการดูงานบริการหลังการขาย ทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจครั้งนี้

“การขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าจี๊ปและเปอโยต์นั้นไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเรา เพราะกลุ่มลูกค้ามีความใกล้เคียงกัน และเรามีโชว์รูมที่เชียงใหม่อยู่แล้ว เราจะแบ่งพื้นที่ที่มี 2 ชั้น แยกส่วนของโชว์รูมอีตั้น และเปอโยต์-จี๊ปอย่างชัดเจน”

นางอัจฉรีย์ยังเปิดเผยต่อไปอีกว่า อีตั้นกรุ๊ปยังคงให้ความสนใจและมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดค้าปลีกรถยนต์ที่ปัจจุบันมีค่ายรถยนต์แบรนด์ใหม่ ๆ ให้ความสนใจเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะค่ายรถจากจีน และหากมีโอกาสบริษัทก็พร้อมเปิดกว้างในอนาคต

ขณะที่ธุรกิจรถยนต์นำเข้าในช่วงที่ผ่านมา ถือว่ามีการเติบโตและผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะรถยนต์ในกลุ่ม MPV และ Mini MPV ซึ่งถือเป็นตลาดหลักของอีตั้นนั้น มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง กลุ่มผู้บริโภคชาวไทยให้ความสนใจและนิยมใช้งานเพิ่มขึ้นประกอบกับเปิดตัวและนำเข้ารถยนต์รุ่นใหม่ ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Mini MPV อย่าง Honda Step Wagon, Toyota Voxy, Toyota Noah ฯลฯ

หรืออย่าง MPV ไซซ์ใหญ่ Toyota Alphard ที่โตโยต้าเพิ่งเปิดตัวรุ่นใหม่ ก็ช่วยผลักดันให้ Toyota Alphard รุ่นปัจจุบันมียอดขายที่ดีขึ้น หลังจากโตโยต้า ประเทศไทย ได้เปิดตัวประกาศราคาจำหน่ายเบื้องต้นไปก่อนหน้านี้ ยิ่งทำให้รถยนต์ Toyota Alphard รุ่นปัจจุบันของเกรย์มาร์เก็ตได้รับความสนใจมากขึ้น ขณะที่รุ่นใหม่ก็มีระดับราคาที่ชัดเจน

สำหรับอีตั้นมี Toyota Alphard โฉมปัจจุบันพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าที่สนใจจำนวนหนึ่ง ส่วนรุ่นใหม่นั้นคาดว่าจะสามารถเปิดรับจองได้ในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ แต่จะเป็นการรับจองคิวก่อน โดยยังไม่มีเก็บเงินจอง เนื่องจากบริษัทต้องรอดูต้นทุนการนำเข้าก่อนที่จะกำหนดราคาจำหน่ายที่แท้จริงออกมา

ปัจจุบันสัดส่วนการจำหน่ายรถยนต์นำเข้าของอีตั้น 90% เป็นรถในกลุ่ม MPV และ Mini MPV ในจำนวนนี้เป็น MPV กว่า 85% จะเป็นรถประเภทอื่น ๆ

“ช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่ารถยนต์ในกลุ่ม Mini MPV จะเริ่มตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าบ้านเรามากขึ้น โดยเป็นรถขนาด 7 ที่นั่ง ระดับราคาที่ 2 ล้านนิด ๆ ถ้าคนไม่ต้องการรถขนาดใหญ่อย่าง Alphard ก็จะมาเล่นรถในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น เรียกว่าทั้งกลุ่มผู้ใช้งานอย่างผู้บริหารและกลุ่มครอบครัวให้ความนิยมอย่างมาก อีกทั้งที่ผ่านมารถ กลุ่มนี้มีการส่งรถใหม่ ๆ ทำตลาดอย่างต่อเนื่องด้วย และเราเองก็เชื่อว่าสัดส่วนของการขายในกลุ่มนี้จะเพิ่มจาก 5% เป็น 10% ได้ยาก”

ส่วนเป้าหมายยอดขายของอีตั้น ปีนี้คาดว่าจะมียอดขายไม่น้อยกว่า 580 คันอย่างแน่นอน ขณะที่กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้านั้น ปัจจุบันบริษัทมีรถยนต์โฟล์ค อีวีจำหน่ายในราคา 4.89 ล้านบาท สำหรับผู้ที่สนใจด้วย

ก่อนหน้านี้ สุนทรพันธ์ เดชะเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เปอโยต์มีเครือข่ายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการมาตรฐานครบวงจร 9 สาขา ได้แก่ เกษตร-นวมินทร์, เยาวราช, สุขุมวิท, มีนบุรี, วงเวียนพระราม 5-ราชพฤกษ์, อุบลราชธานี, หาดใหญ่, ภูเก็ต, พัทยา และอีก 1 สตูดิโอ สยามพารากอน โดยมีแผนเปิดเพิ่มตามหัวเมืองใหญ่อีก 5 สาขา รวมเป็น 15 สาขาในปีนี้คือ เชียงใหม่, ขอนแก่น, อุดรธานี, นครราชสีมา และกรุงเทพฯ พร้อมตั้งเป้าหมาย 20 สาขาภายในปี 2567

ส่วนจี๊ปเริ่มจากสาขาสุขุมวิท โดยตั้งแต่ต้นปี 2566 ได้ขยายเพิ่มอีก 3 สาขา ได้แก่ พัทยา, วงเวียนพระราม 5-ราชพฤกษ์ รวมถึงสาขานิมิตรใหม่ ที่คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี

นอกจากนี้ ยังเตรียมลุยปักหมุดในต่างจังหวัดเพิ่มอีก 5 สาขาคือ เชียงใหม่, อุดรธานี, ขอนแก่น, นครราชสีมา และอุบลราชธานี