เติมเต็ม “แบรนด์แวลู” “ฮีโน่” ทวงบัลลังก์แชมป์

ถือเป็นผู้บริหารที่มีความรู้ความเข้าใจตลาด “ทรัก” ในประเทศไทยอย่างแท้จริง สำหรับ “ชิน นาคามูร่า” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ฮีโน่ มอเตอร์เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยคลุกคลี ดูแลตลาดรถบรรทุกฮีโน่ในประเทศไทยมาหลายปี

วันก่อน “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสจับเข่าคุยถึงแนวทางขับเคลื่อนธุรกิจของฮีโน่ในประเทศไทย รวมทั้งแนวรุกตลาด และที่ขาดไม่ได้เด็ดขาดก็คือการดูแลลูกค้า

Q : ประเมินการแข่งขันตลาดรถบรรทุก

สำหรับภาพรวมตลาดรถบรรทุกขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ฮีโน่เชื่อว่าจะแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะการแข่งขันในเรื่องราคาขาย หากจะสังเกตดี ๆ ปัจจุบันมีผู้ประกอบรถบรรทุกบางรายได้อาศัยสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีนำเข้า ชิ้นส่วน และนำรถทั้งคันจากจีนและอินเดียเข้ามาขายในประเทศไทย ตรงนี้ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างผู้ประกอบการด้วยกันรวมถึงฮีโน่ด้วย ซึ่งรถบรรทุกและชิ้นส่วนที่นำเข้ามาประกอบของค่ายรถบรรทุกต่าง ๆ นั้น ทำให้มีราคาขายถูกกว่าค่อนข้างมาก โดยเฉพาะฮีโน่ ซึ่งผลิตและประกอบรถยนต์ในประเทศไทยถึง 500,000 บาท ทำให้บริษัทมีความแตกต่างจากคู่แข่งพอสมควร ดังนั้นเราต้องปรับตัวและปรับนโยบายการทำตลาดพอสมควร

Q : เป้าหมายยอดขาย

จากตัวเลขยอดขายปีที่แล้วฮีโน่มียอดขาย 12,550 คัน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดไว้ ส่วนปี 2561 นี้เราตั้งเป้ายอดขายไว้ใกล้เคียงกับปีก่อนหรือเติบโตราว ๆ 5% และมีส่วนแบ่งตลาดจาก 43% เป็น 45% หรือมียอดขาย 12,000-13,000 คัน ส่วนยอดขายของตลาดรวมรถบรรทุกทั้งหมด เชื่อว่าใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 30,000 คัน ในจำนวนนี้แบ่งเป็นรถบรรทุกขนาด 6 ล้อ 40% และรถบรรทุก 10 ล้อ และหัวลากอีก 60%

Q : ปัจจัยอะไรทำให้มั่นใจว่าตลาดจะโต

สำหรับความมั่นใจของเรานั้น เป็นผลมาจากปัจจัย ด้านการลงทุนระบบสาธารณูปโภคทั้งจากภาครัฐและเอกชน น่าจะส่งผลให้อุตสาหกรรมการก่อสร้างเติบโต และจะส่งผลต่อตลาดรถบรรทุก โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่ให้มีการเติบโต

ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมการเกษตร ที่อาจจะต้องจับตารอดูความชัดเจน เนื่องจากที่ผ่านมาอยู่ในภาวะชะลอตัว ซึ่งส่งผลต่อตลาดรถบรรทุกขนาดกลางหรือกลุ่มรถ 6 ล้อ แต่ฮีโน่นั้นเราตั้งเป้าเติบโตเหนือตลาด

Q : จุดขายของฮีโน่

แน่นอนที่สุด นอกจากหน้าที่ในการขายรถแล้วอีกหน้าที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน คือหน้าที่ในการดูแลลูกค้า ฮีโน่มีนโยบายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มรถบรรทุกขนาด 10 ล้อ ที่บริษัทเคยเป็นเจ้าตลาด

ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเราต้องสูญเสียพื้นที่ทางการตลาดให้กับคู่แข่ง รถฮีโน่มีคุณภาพ แข็งแรง ทนทาน คุ้มค่า ช่วยเสริมสร้างกิจการของลูกค้า และจากนโยบาย เพิ่มวอร์แรนตีเป็น 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่ยาวนานที่สุด และเชื่อว่ายังไม่มีใครกล้าทำเหมือนฮีโน่

Q : มีวิธีเพิ่มแวลูให้กับแบรนด์อย่างไรบ้าง

เรายังมีนโยบาย “โทเทิลซัพพอร์ต” รวมทั้งรถโมบายเซอร์วิส และบริการอื่น ๆ ที่ทำอยู่อีกมากมายไว้คอยให้บริการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเตือนเมื่อถึงระยะเวลา ตรวจเช็กระยะ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ฯลฯ ไม่เพียงแต่ลูกค้าของฮีโน่เท่านั้น แต่เรายังเปิดกว้างเพื่อให้บริการกับรถยนต์ยี่ห้ออื่น ๆ ด้วย เพราะเราเข้าใจ “ลูกค้า” ซึ่งส่วนใหญ่มีรถหลากหลายยี่ห้อซึ่งเราก็พร้อมดูแลให้บริการตรงนี้

เราเชื่อว่าวันนี้เขาอาจจะยังไม่เป็นลูกค้าของฮีโน่ แต่เมื่อเขาจะซื้อรถบรรทุกคันต่อไป เขาจะต้องนึกถึง “ฮีโน่” มาเป็นแบรนด์แรก ๆ อย่างแน่นอน

และนี่คือทั้งหมดทั้งมวลของแนวทางการเดินเกมของฮีโน่ ภายใต้การนำทัพของ “ชิน นาคามูร่า”ที่จะผลักดันให้ฮีโน่มีส่วนแบ่งตลาดที่ 45% และก้าวขึ้นมาทวงบัลลังก์ตลาดรถบรรทุกกลับคืนมาในเร็ววันนี้